แนวโน้มตลาดวันนี้_310757

โดย ยศพณ แสงนิล, CFA : ผันผวนในกรอบ 1510-1540 จุด

เราคาดว่าตลาดไทยวันนี้มีโอกาสรีบาวด์ขึ้นต่อ แต่จะขึ้นในกรอบจำกัด โดยปัจจัยหนุนคือ นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับการขึ้นดอกเบี้ยของสหรัฐ หลังจากการประกาศผลการประชุมเฟด ประกอบกับดัชนีเมื่อวานนี้รีบาวด์ขึ้นอย่างชัดเจน โดยแนวรับที่แข็งแกร่งยังคงอยู่ที่ 1500 จุด ประกอบกับเริ่มมีแรงซื้อเข้ามาในกลุ่มสื่อสาร โดยเฉพาะ ADVANC และ INTUCH ที่ปรับลงมาแรงก่อนหน้านี้

แนวรับ/แนวต้าน : 1500/1540

กลยุทธ์ : ยังคงเน้นเล่นสั้น ถือหุ้นไม่เกิน 60%ของพอร์ต เนื่องจากอาจมีการพักฐานชั่วคราวอีกรอบในเดือนนี้ เน้นกลุ่มพลังงานทดแทน และขนส่ง

สัดส่วนการลงทุน : เงินสด 40%: พอร์ตหุ้น 60%

นักลงทุนระยะสั้น : BMCL(2.45), IFEC(6)

นักลงทุนระยะยาว : DEMCO(13), ITD(6)

ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อการลงทุน

ปัจจัยภายในประเทศ

-สศค.ได้ปรับลดอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจไทย (จีดีพี) ปี 57 ลงเหลือ 2% หรืออยู่ในกรอบ 1.5-2.5% ซึ่งลดจากประมาณการเดิมที่คาดไว้ว่าจะขยายตัวที่ 2.6% โดยมีสาเหตุมาจากปัญหาทางการเมืองที่ยืดเยื้อส่งผลกระทบต่อระดับความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและภาคธุรกิจ ทำให้การเติบโตไตรมาสแรกของปีหดตัวมากกว่าคาดไว้ และยังลดเป้าหมายการส่งออกสินค้าทั้งปีจะขยายตัวที่ 1.5% อยู่ในกรอบ 0.5-2.5% ตํ่ากว่าเดิมที่คาดโต 5% เนื่องจากมูลค่าการส่งออกในครึ่งปีแรกลดลงตํ่ากว่าที่คาดไว้ จับตามาตรการ'คิวอี'สหรัฐ

ปัจจัยต่างประเทศ

+สัญญานํ้ามันดิบ ส่งมอบเดือนก.ย.ลดลง 70 เซนต์ ปิดที่ 100.27 ดอลลาร์/บาร์เรลสัญญานํ้ามันดิบเวสต์เท็กซัส ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (30 ก.ค.) หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA)เปิดเผยว่า สต็อกนํ้ามันเบนซินปรับตัวเพิ่มขึ้นในปดาห์ที่แล้ว ซึ่งทำให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวเกี่ยวกับการชะลอตัวของอุปสงค์พลังงาน

-ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 16,880.36 จุด ลดลง 31.75 จุด หรือ -0.19%ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (30 ก.ค.) ขณะที่ภาวะการซื้อขายเป็นไปอย่างผันผวน หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยังคงเดินหน้าปรับลดขนาดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ลงอีก 1 หมื่นล้านดอลลาร์ในการประชุมครั้งล่าสุด และไม่ได้ส่งสัญญาณใดๆเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย