ยูเครนเล็งใช้ภาวะฉุกเฉิน

ทางการยูเครนขู่จะใช้ภาวะฉุกเฉิน หลังจากผู้ชุมนุมเข้าครอบครองกระทรวงยุติธรรมและเรียกร้องให้ประธานาธิบดีลาออกและเมินข้อเสนอจากรัฐบาล
ทางการยูเครนขู่จะใช้ภาวะฉุกเฉิน หลังจากผู้ชุมนุมเข้าครอบครองกระทรวงยุติธรรมและเรียกร้องให้ประธานาธิบดีลาออกและเมินข้อเสนอจากรัฐบาล โดยแกนนำฝ่ายค้านกล่าวว่าข้อเสนอจากประธานาธิบดีวิกเตอร์ ยานูโควิช ไม่เพียงพอที่จะยุติวิกฤติครั้งร้ายแรงที่สุดของประเทศตั้งแต่ได้รับอิสรภาพ พร้อมเรียกร้องให้จัดการเลือกตั้งก่อนกำหนดขึ้นในปีนี้
เมื่อวานนี้ ผู้ประท้วงพยายามกีดขวางอาคารสำนักงานระดับภูมิภาค 14 แห่ง รวมถึงในภาคใต้และตะวันออก ขณะที่สถานการณ์ในกรุงเคียฟยังคงตึงเครียด ผู้ประท้วงจำนวนมากจากกลุ่มสปิลนาสปราวาได้เข้าครอบครองกระทรวงยุติธรรม พร้อมทุบทำลายกระจกหน้าต่างและตั้งเครื่องกีดขวางขึ้นด้านนอก
รัฐมนตรียุติธรรม "นางโอเลนา ลูคัช" ซึ่งมีส่วนร่วมในการเจรจาระหว่างฝ่ายค้านกับนายยานูโควิช กล่าวว่าจะขอให้ยุติการเจรจาหากผู้ชุมนุมไม่ออกจากอาคารกระทรวง และจะหารือกับสภาความมั่นคงแห่งชาติเกี่ยวกับการประกาศใช้ภาวะฉุกเฉิน หลังจากนั้นมีข่าวว่าแกนนำฝ่ายค้านได้เดินทางไปยังกระทรวงยุติธรรมและขอให้ผู้ชุมนุมออกจากกระทรวง แต่ไม่เป็นผล
อย่างไรก็ตาม แม้มีข่าวลือว่าทางการอาจประกาศภาวะฉุกเฉินแต่สมาชิกพรรครัฐบาลอาจไม่กล้าตัดสินใจ
ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีนยานูโควิชเสนอให้ฝ่ายค้านนั่งในรัฐบาลหลายตำแหน่ง รวมถึงนายกรัฐมนตรี และรองนายกรัฐมนตรี แต่ฝ่ายค้านกล่าวว่าข้อเสนอนี้ไม่เพียงพอกับที่เรียกร้องไป
อย่างไรก็ตาม แกนนำฝ่ายค้านไม่ได้ปฏิเสธอย่างชัดเจนหรือยอมรับข้อเสนอของนายยานูโควิช กล่าวเพียงว่าจะมีการเจรจาต่อไปแม้ไม่ชัดเจนว่าเมื่อใด
ด้านสหภาพยุโรปหรืออียูแถลงว่า รัฐบาลยูเครนต้องยุติการละเมิดสิทธิมนุษยชนเสียก่อน จึงจะเรียกคืนความเชื่อมั่นกลับมาได้ เช่นเดียวกับบรรดาผู้นำของชาติตะวันตกที่แสดงความวิตกเกี่ยวกับวิกฤตการณ์
ขณะที่รัฐมนตรีต่างประเทศของเยอรมนี "นายแฟรงก์-วอลเตอร์ สเตนไมเออร์" กล่าวว่าช่วงเวลาในอีกไม่กี่วันข้างหน้าอาจเป็นตัวตัดสินอนาคตของยูเครน