5 ชาติยุโรปถอดบทเรียน สร้างชาติด้วยระบบนวัตกรรม – สตาร์ตอัป

5 ชาติยุโรปถอดบทเรียน สร้างชาติด้วยระบบนวัตกรรม – สตาร์ตอัป

5 ชาติยุโรปถอดบทเรียนสร้างชาติด้วยระบบนวัตกรรม – สตาร์ตอัป เวทีเสวนา “Innovation Ecosystem and National Competitiveness in the Face of Global Uncertainties” งาน SITE 2025

5 ก.ค.2568 สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ(องค์กรมหาชน) หรือ NIA จัดงาน Startup x Innovation Thailand Expo 2025 หรือ SITE 2025 ภายใต้แนวคิด “Global Innovation Partnership – AI & Sustainability: The Next Era of Innovation” ที่พารากอน ฮอลล์ โดยหนึ่งในไฮไลต์ของ SITE 2025 คือเวทีเสวนาระดับนานาชาติภายใต้หัวข้อ “Innovation Ecosystem and National Competitiveness in the Face of Global Uncertainties” ที่มีตัวแทนระดับสูงจาก 5 ประเทศยุโรป ได้แก่ ชิลี เช็ก ฟินแลนด์ สวีเดน และฮังการี และตัวแทนจากประเทศไทย ร่วมแลกเปลี่ยนประสบการณ์การสร้างระบบนิเวศด้านนวัตกรรม เพื่อเสริมความสามารถในการแข่งขันทางเศรษฐกิจ ในยุคที่โลกกำลังเผชิญกับความไม่แน่นอนอย่างต่อเนื่อง

5 ชาติยุโรปถอดบทเรียน สร้างชาติด้วยระบบนวัตกรรม – สตาร์ตอัป
นายปาตริซิโอ เฟร์นันโด พาวเวลล์ โอโซริโอ (H.E. Mr. Patricio Fernando Powell Osorio) เอกอัครราชทูตชิลีประจำประเทศไทย กล่าวเปิดเวที ว่า การสร้างระบบนวัตกรรมต้องมีทั้งกรอบสถาบัน นโยบายที่ชัดเจน และความร่วมมือจากภาคประชาชน โครงการ “Startup Chile” ถือเป็นกรณีศึกษาสำคัญของการดึงดูดผู้ประกอบการจากทั่วโลกมาร่วมสร้างสรรค์ไอเดียในประเทศ เพื่อกระตุ้นผู้ประกอบการท้องถิ่น พร้อมขับเคลื่อนนวัตกรรมที่ตอบโจทย์ทรัพยากรท้องถิ่น เช่น เหมืองแร่ เกษตร และประมง

ด้าน นายปาเวล ปีเตล (H.E. Mr. Pavel Pitel) เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเช็ก กล่าวถึงการพลิกฟื้นเศรษฐกิจด้วยการสร้างระบบนวัตกรรมที่อิงกับรากฐานการศึกษากว่า 700 ปี ว่า เช็กประสบความสำเร็จในการสนับสนุนสตาร์ตอัปและเทคโนโลยีขั้นสูง ทั้งในอุตสาหกรรมการแพทย์ นาโนเทคโนโลยี และอวกาศ พร้อมใช้กลไก “Regulatory Sandbox” เพื่อให้สตาร์ตอัปฟินเทคสามารถทดลองนวัตกรรมในโลกความจริงได้อย่างปลอดภัย

ขณะที่นางเอวา กริสตีนา กูวายา-ซันโทปูโลส (H.E. Ms. Eeva Kristiina Kuvaja-Xanthopoulos) เอกอัครราชทูตฟินแลนด์ ชี้ว่า การพึ่งพาบริษัทเดียวอย่าง Nokia ทำให้ฟินแลนด์เผชิญวิกฤตอย่างหนักเมื่อธุรกิจล่มสลาย รัฐบาลจึงลงทุนใหม่ทั้งระบบ รวมมหาวิทยาลัย 3 แห่งก่อตั้ง Aalto University และบรรจุหลักสูตรผู้ประกอบการตั้งแต่ระดับประถม ส่งผลให้จำนวนสตาร์ตอัปเติบโตถึง 10 เท่าใน 15 ปี

ส่วน นางอันนา ฮัมมาร์เกรน (H.E. Mrs.Anna Hammargren)  เอกอัครราชทูตสวีเดน ยกกรณีศึกษาเกี่ยวกับนวัตกรรมสีเขียว เช่น เหล็กไร้มลพิษ เรือไฟฟ้า และการดักจับคาร์บอน โดยเน้นว่าสวีเดนยังคงเป็นผู้นำด้าน R&D ระดับโลก ด้วยการลงทุนกว่า 3% ของ GDP และรักษาสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อความคิดสร้างสรรค์

สำหรับนางสาวคามิลลา บัลลา (Ms. Kamilla Balla)  ผู้แทนจากฮังการี ได้นำเสนอ “John von Neumann Programme” แผนยุทธศาสตร์นวัตกรรมแห่งชาติ ที่มุ่งพัฒนา 9 ด้าน เพื่อผลักดันฮังการีให้ก้าวสู่ 1 ใน 10 ประเทศผู้นำนวัตกรรมของโลกภายในปี 2040

ปิดท้ายด้วย นางครองขนิษฐ รักษ์เจริญ อธิบดีกรมยุโรป กระทรวงการต่างประเทศ ที่สรุปว่า การเชื่อมโยงระหว่างประเทศจะเป็นกุญแจสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจฐานความรู้ของไทยในอนาคต พร้อมย้ำว่าประเทศไทยสามารถเรียนรู้จากโมเดลความสำเร็จของยุโรป และปรับใช้ให้เหมาะสมกับบริบทท้องถิ่น เพื่อสร้างสังคมนวัตกรรมที่แข็งแรง ยั่งยืน และแข่งขันได้ในระดับโลก