วัดริมเขื่อนเจ้าพระยา ยกของขึ้นที่สูง เตรียมรับมือมวลน้ำ

วัดริมเขื่อนเจ้าพระยา ยกของขึ้นที่สูง เตรียมรับมือมวลน้ำ

สถานการณ์พื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยายังคงมีปริมาณน้ำที่สูง วัดริมเขื่อนเจ้าพระยา ยกของขึ้นที่สูง เตรียมรับมือมวลน้ำ

เมื่อวันที่ 18 ก.ย. 65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์ในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยายังคงมีปริมาณน้ำที่สูง ขณะเขื่อนเจ้าพระยายังคงอัตราการระบายน้ำคงที่ อยู่ที่ 1,948 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที โดยสถานการณ์น้ำล่าสุด ที่สถานีวัดน้ำ C.2 อ.เมือง จ.นครสวรรค์ มีปริมาณน้ำไหลผ่านอยู่ที่ 1,996 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ที่เขื่อนเจ้าพระยา อ.สรรพยา จ.ชัยนาท มีระดับน้ำทางด้านเหนือเขื่อนอยู่ที่ 16.43 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที มีระดับน้ำทางด้านท้ายเขื่อนอยู่ที่ 14.33 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่ง 2.01 เมตร และเขื่อนเจ้าพระยา มีอัตราการระบายน้ำผ่านเขื่อนอยู่ที่ 1,948 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที จากการระบายน้ำดังกล่าวส่งผลทำให้ ที่สถานีวัดน้ำ C.3 บ้านบางพุทรา มีปริมาณน้ำไหลผ่านจุดวัดอยู่ที่ 1,974 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที 

ขณะที่ศาสนสถานหลายแห่งที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ทางด้านท้ายเขื่อนเจ้าพระยา ที่อยู่ติดกับลำน้ำเจ้าพระยาก็ได้เตรียมความพร้อมรับมือกับสถานการณ์น้ำท่วมที่อาจจะเกิดขึ้นด้วยการยกสิ่งเครื่องใช้ต่างๆภายในวัดขึ้นสู่ที่สูง

โดยพระครูชัยธรรมาภรณ์ เจ้าคณะตำบลโพนางดำออก เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม ม.2 ต.โพนางดำออก อ.สรรพยา จ.ชัยนาท เปิดเผยว่า สำหรับการเตรียมความพร้อมรับมือกับสถานการณ์น้ำ ทางวัดได้ฟังข่าวจากหน่วยงานราชการที่ได้มีการประกาศให้เตรียมพร้อมรับมือ และทางวัดก็ได้มีการยกสิ่งของเครื่องใช้ต่างๆที่เสี่ยงต่อการถูกน้ำท่วมเสียหายขึ้นสู่ที่สูง อย่างเช่น ภายในพระอุโบสถ(โบสถ์)ของวัดที่อยู่ไกลกับกุฏิพระ และศาลาต่างๆ

สำหรับวัดไผ่ล้อมเองตั้งอยู่ในชุมชนพื้นที่ลุ่มต่ำทางด้านท้ายเขื่อนเจ้าพระยา ด้านหน้าวัดก็อยู่ติดกับลำน้ำเจ้าพระยา เวลาน้ำท่วมก็จะท่วมก่อน โดยเฉพาะอย่างเช่นเมื่อปี 2554 ระดับท่วมมิดหัว ส่วนในปีนี้ก็ยังรู้สึกเป็นกังวลใจหากปริมาณน้ำทางด้านเหนือเขื่อนเจ้าพระยาไม่ไหลมามากก็คงจะรอดจากน้ำท่วม แต่หากเกิดน้ำท่วมก็ต้องทำใจรับกับสถานการณ์เพราะวัดอยู่ติดกับแม่น้ำ