“หุ้นไทย” ปิดตลาดบวก 5.78 จุด ต้นสัปดาห์หน้าบวกต่อ แนวต้าน 1,695 จุด

“หุ้นไทย” ปิดตลาดบวก 5.78 จุด ต้นสัปดาห์หน้าบวกต่อ แนวต้าน 1,695 จุด

“ตลาดหุ้นไทย” ปิดตลาดวันนี้ (3 ก.พ. 2566) อยู่ที่ 1,688.36 จุด เพิ่มขึ้น 5.78 จุด หรือ 0.34% “บลจ. เมอร์ชั่น พาร์ทเนอร์” ชี้ ต้นสัปดาห์หน้าบวกต่อเล็กน้อย ด้วยแนวรับ 1,680 จุด ส่วนแนวต้าน 1,695 จุด

ความเคลื่อนไหวดัชนีตลาด “หุ้นไทย” วันนี้ผันผวนในทิศทางปรับตัวเพิ่มขึ้นเกือบทั้งวัน ซึ่งดัชนีทำจุดสูงสุดอยู่ที่ 1,690.40 จุด และต่ำสุดอยู่ที่  1,679 จุด ก่อนมาปิดตลาดที่ 1,688.36 เพิ่มขึ้น 5.78 จุด หรือ 0.34% มูลค่าซื้อขาย 58,565.35 ล้านบาท

หุ้นที่มีมูลค่าซื้อขายสูงสุด 5 ลำดับแรก ได้แก่

1. PTTEP  มูลค่า 4,233.98 ล้านบาท ราคาหุ้นปิดที่ 166 บาท ลดลง 4 บาท หรือ 2.35%

2. DELTA   มูลค่า 3,985.05 ล้านบาท ราคาหุ้นปิดที่ 950 บาท เพิ่มขึ้น 34 บาท หรือ 3.71%

3. KCE       มูลค่า 2,719.13 ล้านบาท ราคาหุ้นปิดที่ 58 บาท เพิ่มขึ้น 1.25 บาท หรือ 2.20%

4. EA มูลค่า 2,257.60 ล้านบาท ราคาหุ้นปิดที่ 89.50 บาท เพิ่มขึ้น 3 บาท หรือ 3.47%

5. AOT มูลค่า 1,936.71 ล้านบาท ราคาหุ้นปิดที่ 73.75 บาท ลดลง 0.75 บาท หรือ 1.01%

นายประกิต สิริวัฒนเกตุ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) เมอร์ชั่น พาร์ทเนอร์ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเหมือนจะมีการเทขายเพื่อทำกำไรในช่วงเช้า แต่ก็มีแรงซื้อกลับคืนมา ที่น่าสนใจคือ แรงซื้อคืนในช่วงเช้าเน้นไปที่กลุ่มอุปโภคบริโภคภายในประเทศ​ ซึ่งสะท้อนว่าภาพรวมภาวะตลาดหุ้นไทยไม่ดูย่ำแย่มากนัก ประกอบกับมี Sentiment เชิงบวกจากการปรับลดหน่วยขั้นต่ำในการซื้อหุ้นบริษัท เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ DELTA

“ในภาพรวมตลาดหุ้นไทยยังมีแนวโน้มที่ค่อนข้างโอเคอยู่ กลุ่มหุ้นที่ปรับตัวขึ้นมาดูสมเหตุสมผลกับสถานการณ์ปัจจุบัน ทั้งเรื่อง Domestic Consumption อิงกับกำลังซื้อภายในประเท​ศที่ดีขึ้น หรือตอบรับเรื่องการกลับมาเปิดประเทศของจีน และการเลือกตั้งที่จะมาถึง ดังนั้นต้นสัปดาห์หน้าอาจดูดีต่อ”

อย่างไรก็ตาม คืนนี้นักลงทุนอาจต้องระวังกับความผันผวนในตลาดหุ้นต่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ตลาดหุ้นอเมริกา เพราะจะมีการรายงานตัวเลขการจ้างงาน ซึ่งมีความเป็นไปได้สูงที่ตัวเลขการจ้างงานจะออกมาดูดีกว่าที่ตลาดคาดการณ์ ซึ่งจะส่งผลอีกทอดหนึ่งให้ตลาดอยู่ในสภาวะหมดปัจจัยเชิงบวก และต้องกลับมากังวลประเด็นเรื่องอัตราเงินเฟ้อที่อาจจะไม่ปรับตัวลดลงเร็วมากต่อ

รวมทั้งการที่ตลาดหุ้นอเมริกาขยับตัวขึ้นมาอย่างมีนัยสำคัญในช่วงที่ผ่านมา จากนี้ไปก็อาจเริ่มมีการเทขายเพื่อทำกำไรได้ ซึ่งอาจส่งผลให้เกิด Sentiment เชิงลบต่อตลาดหุ้นไทยในต้นสัปดาห์หน้า ซึ่งอาจมีแนวรับอยู่ที่ 1,680 จุด ส่วนแนวต้าน 1,695 จุด และดัชนีอาจขยับขึ้นเป็นบวกเล็กน้อย จากปัจจัยเรื่องการประกาศงบไตรมาส 4 ของบริษัทที่เหลืออยู่ และทิศทางเศรษฐกิจในประเทศที่กำลังฟื้นตัวตอบรับกับความคาดหวังเรื่องการรีบาวด์ของจำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศ รวมทั้งการเลือกตั้งที่จะมาถึง

สำหรับการลงทุนในต้นสัปดาห์หน้าแนะนำหุ้นที่ปันผลดี เพราะหุ้นกลุ่มดังกล่าวกำลังมีศักยภาพดีขึ้นเรื่อยๆ และส่วนใหญ่กระจุกตัวอยู่ในภาคอสังหาริมทรัพย์ เช่น SC LALIN LH AP รวมไปถึงหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ที่จ่ายปันผลดี เช่น TISCO เป็นต้น

 

 


พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์