หุ้นสนามบิน - สายการบิน ครองใจธีม "จีนเปิดประเทศ"

หุ้นสนามบิน - สายการบิน  ครองใจธีม "จีนเปิดประเทศ"

ปีทองไม่ทันตั้งตัวสำหรับภาคการท่องเที่ยวของไทย หลังจากจีนยอมปรับนโยบาย และเปิดประเทศเร็วกว่าที่คาดการณ์ตั้งแต่ 8 ม.ค.2566 จนทำให้ต้องมีการปรับประมาณการตัวเลขนักท่องเที่ยวปี 2566 ของไทยกันใหม่ และพาให้หุ้นด้านการเดินทางสนามบิน และสายการบินพลิกสถานการณ์ทันที

ด้วยไทยเป็นหนึ่งใน 3 ประเทศคนจีนให้ความสนใจเดินทางมาท่องเที่ยวหลังสถานการณ์โควิด ซึ่งมีญี่ปุ่น และเกาหลีใต้รวมอยู่ด้วย แต่จุดได้เปรียบคือ ไทยไม่มีการจัดโซนนิ่ง และกักตัวนักท่องเที่ยวทำให้การตัดสินใจมาไทยทำได้ง่ายมากขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับเกาหลีใต้ที่ระงับวีซ่านักท่องเที่ยวที่มาจากจีน และญี่ปุ่นจำกัดเที่ยวบินระหว่างญี่ปุ่น-จีน-ฮ่องกง และมาเก๊า รวมถึงมาตรการกักตัว 7 วัน ผลตรวจเป็นบวก

ขณะเดียวกันทางการจีนยังมีการทยอยผ่อนคลายมาตรการออกนอกประเทศอย่างต่อเนื่อง ให้วีซ่า 9 ประเทศสำหรับคนจีนในการเดินทางไปต่างประเทศ ถัดมา ทางการประเทศจีนดำเนินการนำร่องให้ชาวจีนเดินทางออกไปท่องเที่ยวต่างประเทศแบบหมู่คณะ หรือ กรุ๊ปทัวร์ ได้ใน 20 ประเทศ รวมถึงประเทศไทย ส่วนประเทศญี่ปุ่น–เกาหลีใต้ และเวียดนามไม่ได้อยู่ใน 20 อันดับซึ่งถือว่าเร็วกว่าที่ไทยคาดการณ์ว่าจะเกิดขึ้นช่วง ไตรมาส 2 ปี 2566

สอดรับกับกระทรวงการต่างประเทศไทย ได้พัฒนาระบบขอรับตรวจลงตรา(วีซ่า)เพื่ออำนวยความสะดวกให้ชาวต่างชาติ ที่ปัจจุบันสามารถขออนุญาตผ่านระบบออนไลน์หรือ e-Visa  ทำให้คาดว่า นักท่องเที่ยวจีน จะเพิ่มขึ้นในอัตราเร่ง และทั้งปีมีโอกาสมากกว่าที่ตลาดคาดราว 5.0 ล้านคน (นักท่องเที่ยวกลุ่มทัวร์มีสัดส่วนราว 40% ของนักท่องเที่ยวจีนช่วงก่อน COVID) ตั้งแต่วันที่ 6 ก.พ.

รวมทั้งระหว่างปี มาตรการอื่นจากภาครัฐ ที่พยายามหนุนกาลังซื้อเพิ่ม เช่น "เราเที่ยวด้วยกันเฟส 5" ขณะที่การกลับมาของนักท่องเที่ยวจากประเทศจีน ที่เร็วขึ้นจะเป็นส่วนช่วยสนับสนุน โดยภาครัฐมีนโยบายอื่นช่วยเพิ่ม เช่น ททท.เดินหน้า นโยบาย “China is Back” โดยจับมือกับเอกชน และบริษัทนำเที่ยวเพื่อส่งเสริมการตลาด โดยภาพรวมการกลับมาของนักท่องเที่ยวจะเป็นแรงขับเคลื่อนกาลังซื้อสำคัญ โดยทั้งปีทาง ททท. คาดจะมีนักท่องเที่ยวต่างประเทศจะเดินทางเข้ามาในประเทศราว 30 ล้านคน จากเดิมที่คาดราว 20 ล้านคน

ข้อมูลการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เปิดเผย 7 จังหวัดที่เป็นที่นิยมของคนจีน คือ

  1. กรุงเทพฯ 
  2. ชลบุรี
  3. ภูเก็ต
  4. เชียงใหม่
  5. กระบี่
  6. สุราษฎร์ธานี
  7. เชียงราย 

โดยแบ่งเป็น 5 กลุ่ม คือ

  1. กรุงเทพฯ - ชลบุรี  
  2. ท่องเที่ยวหลากหลายชลบุรี 
  3. กรุงเทพฯ - เชียงใหม่  เน้นท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ และอาหาร
  4. ทะเลภูเก็ต เน้นกิจกรรมทางทะเล
  5. ภูเก็ต - ดำน้ำกระบี่  เน้นกิจกรรมทางทะเล และสามารถไปทำกิจกรรมที่กระบี่ได้ด้วย

ปัจจัยดังกล่าวกระตุ้นธุรกิจสนามบิน และสายการบินได้ก่อนเป็นธุรกิจแรก  รายแรก บมจ.ท่าอากาศยานไทย (AOT) จากสถานการณ์เที่ยวบิน และผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง คาดการณ์ว่าผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/2566 (ต.ค.- ธ.ค.65) ตัวเลข EBITDA จะเป็นบวก และมีกำไรสุทธิเล็กน้อย

ปี 2566 จะมีกำไรในทุกไตรมาส และหาก นักท่องเที่ยวจีน กลับมาจะมีส่วนเพิ่มรายได้ และกำไรที่มากขึ้น โดยคาดการณ์กำไรสุทธิในปี 2566 อยู่ที่ระดับพันล้านบาท แต่ยังคงไม่กลับไปที่ระดับหมื่นล้านบาทเหมือนช่วงก่อนโควิด ที่สนามบิน 6 แห่ง มีจำนวนผู้โดยสารเฉลี่ยประมาณ 380,000 - 390,000 คนต่อวัน

ปัจจุบันจำนวนผู้โดยสารภายในประเทศถือว่ากลับมาในระดับเกือบเท่าเดิมแล้ว ส่วนผู้โดยสารระหว่างประเทศกลับมาแล้วประมาณ 70% ส่วนที่ยังไม่มาคือ นักท่องเที่ยวจีน ซึ่งเดิมมีสัดส่วนราว 26% จากจำนวนผู้โดยสารทั้งหมด ซึ่งขณะนี้ มีผู้โดยสารจากตะวันออกกลาง โดยเฉพาะ ซาอุดีอาระเบีย และอินเดีย ที่เข้ามาเพิ่มในระดับหนึ่ง

ถัดมาธุรกิจสายการบินยอมรับเลยว่า เจอผลกระทบหนักจากการขาดทุนต้องลดคน ลดฝูงบิน และปิดเส้นทางการบินไปจำนวนมาก  หากปัจจุบัน "เจ้าพ่อสายการบินโลว์คอร์สแอร์ไลน์"  เติบโตจากนักท่องเที่ยวจีน บมจ.เอเชีย เอวิเอชั่น (AAV) กำลังนำพาไทยแอร์เอเชียครองใจคนจีน

ด้วยการกลับมาขยายเส้นทางบินเข้าจีนเพื่อขอโควตาเพิ่มเส้นทางบินเข้าออกจีน โดยสายการบินได้ขอไปทุกเส้นทางที่เคยทำการบินรวม 18 เส้นทางบิน ใน 13 จุดหมายปลายทางสู่จีน อาทิ กว่างโจว 2 เที่ยวบินต่อวัน หนานจิง 4 เที่ยวบินต่อวันโดยแอร์เอเชียพร้อมแล้วที่จะกลับมาเปิดเส้นทางบินตรงสู่ประเทศจีนอีกครั้ง

เส้นทางที่พร้อมเปิดสำรองที่นั่งแล้วในวันที่ 20 มกราคม 2566 นี้ ได้แก่ เส้นทางบินตรงจากกรุงเทพฯ (ดอนเมือง) สู่ กว่างโจว ฉงชิ่ง เซินเจิ้น คุนหมิง หางโจว นานจิง ฉางซา และมาเก๊า โดยแต่ละเส้นทางจะทยอยเปิดให้บริการตั้งแต่ปลายเดือนมกราคม 2566 เป็นต้นไป และจะค่อยๆ เพิ่มจำนวนเที่ยวบินในเดือนมีนาคม เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการเดินทางไป-กลับ สู่ประเทศจีน

บมจ.บางกอกแอร์เวย์ส (BA) ที่สนามบินสมุยเป็นแหล่งรายได้ และกำไรเคยมีจำนวนผู้โดยสารเฉลี่ย  2.14  ล้านคาดปี 2566 กลับมามีกำไรสุทธิตามจำนวนผู้โดยสารจะเพิ่มขึ้นเป็น 4.4 - 4.5 ล้านคนหรือ มีจำนวนผู้โดยสารฟื้นตัวขึ้นสู่ระดับ 75 - 80% เมื่อเทียบกับช่วงก่อนการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในปี 2562 ที่มีจำนวนผู้โดยสารอยู่กว่า 6 ล้านราย

การกลับมาเปิดเส้นทางการบินเพิ่มเป็น 30 เส้นทาง ใกล้เคียงกับช่วงก่อนการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่มีเส้นทางบินทั้งหมด 34 เส้นทาง  พร้อมบริหารฝูงบินของบริษัทในปัจจุบันมีอยู่ทั้งหมด 35 ลำ ซึ่งจะลดจำนวนฝูงบินเหลือ 28-31 ลำ ที่บางลำหมดสัญญาเช่า และทยอยขายออกบางส่วน เพื่อที่จะเป็นการบริหารจัดการต้นทุนอย่างเหมาะสม และ มีจำนวนฝูงบินที่เหมาะสมกับการให้บริการในปัจจุบัน เครื่องบินใช้งานอยู่ทั้งหมด 23 ลำ

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์