คัดหุ้นรับตรุษจีนปี 66 เลือกจังหวะลงทุนก่อนเทศกาล

คัดหุ้นรับตรุษจีนปี 66  เลือกจังหวะลงทุนก่อนเทศกาล

บรรยากาศการท่องเที่ยว และการใช้จ่ายกลับมาอีกครั้งหลังเผชิญโควิด-19 ไปเกือบ 3 ปี ท่ามกลางการเปิดประเทศของจีนเร็วกว่าที่คาดการณ์เมื่อวันที่ 8 ม.ค. ทำให้เทศกาลตรุษจีนปี 2566 จะอยู่ในช่วง 20-22 ม.ค. จึงกลับมามีกระแสบวกต่อการลงทุน

            ธีม China reopening กลายเป็นปัจจัยหลักสำหรับการลงทุนในตลาดหุ้นช่วงไตรมาส 1 ปี 2566  แม้ว่าเศรษฐกิจจีนปี 2565 มีการเติบโตลดลงอยู่ที่ 3% จากปี 2564 ที่ 8% ผลกระทบล็อกดาวน์แต่ตลาดรับรู้ข่าวดังกล่าว และไปคาดหวังปี 2566 แทน

            ถือว่าเป็นจุดที่น่าสนใจเพราะถือว่าเป็นครั้งแรกของประธานาธิบดี “สี จิ้นผิง”  เข้าร่วมนัดแรกหลังได้รับความไว้วางใจดำรงตำแหน่งต่อเป็นสมัยที่ 3 เดือนมี.ค.นี้ พร้อมประกาศเป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนปี 2566

            หลัง จีน – สหรัฐ มีแรงปะทะกันมาอย่างต่อเนื่อง จากนโยบายการค้า นโยบายเทคโนโลยี และภูมิรัฐศาสตร์ทำให้เศรษฐกิจเผชิญแรงกดดัน และกลายเป็นปัจจัยลบในบางธุรกิจ เช่น ธุรกิจเซมิคอนดักเตอร์ หลังจากสหรัฐไม่อนุญาตให้บริษัทในประเทศใช้ชิปจากประเทศจีน หรือ “ขึ้นบัญชีดำ” บริษัทจีนถึง 30 แห่งไม่ให้ซื้อสินค้าเทคโนโลยีจากสหรัฐเพื่อความปลอดภัยทางทหาร        

           

            สิ่งที่เกิดขึ้นคือ จีนเร่งฟื้นความสัมพันธ์ทางการค้ากับประเทศอื่นๆ เช่น สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์  ที่นอกเหนือจากคู่ค้าน้ำมันสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ยังเป็นประเทศแรกๆ ที่เข้าร่วมโครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง (Belt and Road Initiative)

            สำหรับไทยว่าได้รับประโยชน์มากขึ้นเฉพาะด้านการท่องเที่ยวถือว่าได้เปรียบเป็นจุดหมายปลายทางเดินทางท่องเที่ยว ซึ่ง ททท.ประเมินนักเที่ยวจีนปีนี้มาไทยแตะ 5 ล้านหรือ 20% จากนักท่องเที่ยวทั้งหมดที่ 25 ล้านคน พร้อมจะจัดโรดโชว์ที่จีนสัปดาห์ที่ 3 ก.พ.2566 ในพื้นที่หลัก 3 เมือง เซี่ยงไฮ้ กว่างโจว เฉิงตู ซึ่งล้วนเป็นเมืองที่นักท่องเที่ยวมาไทยแบบมาด้วยตนเอง ผ่านเกณฑ์ช่วงแรกของไทย 

            นอกจากนี้ยังมีเพิ่มสีสันช่วงตรุษจีนช่วง 21 ม.ค. นักแสดงรุ่นใหญ่จีน “หมี เซี๊ยะ, เยิ่น ต๊ะหัว, โรเจอร์วู” จะมาช่วยโปรโมตสถานที่ท่องเที่ยวที่เยาวราช

            สอดคล้องกับการท่าอากาศยานรายงานตัวเลขผู้ใช้บริการทุกสนามบินสำหรับเส้นทางต่างประเทศวันที่ 1-14 ม.ค. 2566 (รวมจีนเริ่มเดินทางนอกประเทศอีกครั้งตั้งแต่ 8 ม.ค.) เติบโต 720.7% (y-y )เร่งขึ้นจาก 1-7 ม.ค. ที่เติบโต 699.5% (y-y )

         บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) หยวนต้า (ประเทศไทย)ประเมินเทศกาลตรุษจีนปีนี้ ไม่เหมือน 3 ปีที่ผ่านมา ซึ่งจะมีการหยุดยาวถึง 1 สัปดาห์ โดยก่อนที่จะถึงวันตรุษจีนจะมีวันสำคัญอีก 2 วันได้แก่ วันจ่าย และวันไหว้ซึ่งจะเป็นช่วงที่การบริโภค และการเดินทางภายในประเทศเร่งตัวขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ จากการซื้ออาหารจำพวกผลไม้ หมู เป็ด ไก่ ฯลฯ มาประกอบการไหว้บูชา รวมถึงการเดินทางกลับบ้านเกิดของชาวจีน

            วันตรุษจีนปีนี้ตรงกับวันที่ 22 ม.ค. – 27 ม.ค.2566 ขณะที่วันจ่ายและวันไหว้ ตรงกับวันที่ 20 ม.ค. และ 21 ม.ค.ตามลำดับ ซึ่งคาดว่าจะเห็น Pent up demand จากการบริโภคที่เร่งตัวขึ้นมากกว่าปีที่ผ่านๆ มา หลังชาวจีนเผชิญกับการล็อกดาวน์ตลอดช่วง 3 ปี

            หากประเมินจากบรรยากาศลงทุนในตลาดหุ้น SET INDEX ให้ผลตอบแทนที่ดีในช่วง 1 สัปดาห์ก่อนตรุษจีน เนื่องจากประเทศจีนมีความสัมพันธ์กับเศรษฐกิจไทยพอสมควร ทั้งด้านการส่งออก และการท่องเที่ยว คาดว่าจะเห็น Sentiment เชิงบวกในหุ้นที่เกี่ยวข้อง นอกจากนี้ผลสำรวจจาก NIDA Poll ยังพบว่าคนไทยราว 24.6% เป็นเชื้อสายจีน ให้คาดว่าการบริโภคภายในประเทศ
จะเร่งตัวขึ้นด้วยเช่นกัน

            จากการเก็บสถิติ 10 ปีย้อนหลังที่ไม่นับรวมช่วง COVID-19 ระบาด พบว่า SET INDEX มักปรับตัวขึ้นช่วง 1 สัปดาห์ก่อนถึงเทศกาลตรุษจีนเฉลี่ย 0.4% (WoW ) ด้วยจำนวนปีที่ปรับตัวขึ้น 6 ใน 9 ปี โดยกลุ่มที่ให้ผลตอบแทนเด่นกว่า SET INDEX คือ ท่องเที่ยว, สินค้าเกษตร, ขนส่ง, อสังหาริมทรัพย์, พาณิชย์, ธนาคาร, พลังงาน และ ปิโตรเคมี
            ทั้งนี้หากประเมินผลตอบแทนในช่วงสัปดาห์ของเทศกาลตรุษจีนกลับไม่พบความสัมพันธ์มากนัก โดย SET INDEX ให้ผลตอบแทนเฉลี่ยเพียง 0.1% WoW และมีจำนวนปีที่ให้ผลตอบแทนเป็นบวก 4 ใน 9 ปี ซึ่งกลุ่มที่ให้ผลตอบแทนเด่นกว่า SET INDEX คือ ท่องเที่ยว,สินค้าเกษตร, อสังหาริมทรัพย์, พาณิชย์, ปิโตรเคมี และวัสดุก่อสร้าง
            นอกจากนี้เห็นการเคลื่อนไหวของทองคำที่มักจะให้ผลตอบแทนเป็นบวกในสัปดาห์ตรุษจีน
โดยปรับตัวขึ้นเฉลี่ย 0.4%( WoW) ด้วยจำนวนปีที่ปรับตัวขึ้น 5 ใน 9 ปี หุ้นเด่น และสินทรัพย์ที่แนะนำในธีมตรุษจีนในเชิงกลยุทธ์มองว่าการเข้าเก็งกำไรในช่วง 1 สัปดาห์ก่อนถึงวันตรุษจีน ให้ผลตอบแทนที่น่าสนใจมากกว่าการเข้าลงทุนในช่วงสัปดาห์ของตรุษจีน โดยกลุ่มที่ประเมินว่ามีความน่าสนใจทั้งในเชิงสถิติ และเชิง Sentiment ได้แก่
            1) กลุ่มอาหาร แม้ภาพรวมทั้งอุตสาหกรรมไม่เด่นเพราะถูกกดดันจากเงินบาทแข็งค่า แต่
หากประเมินเป็นรายตัว คาดว่าหุ้นได้ประโยชน์จากอุปสงค์หมู/ไก่ที่เร่งตัวขึ้น เช่น
GFPT, TFG, CPF จะเคลื่อนไหวดีกว่ากลุ่มในระยะสั้น
            2) กลุ่มท่องเที่ยว ได้ sentiment เชิงบวกจากนักท่องเที่ยวจีนที่มีโอกาสเร่งตัวขึ้น เนื่องจาก
เข้าสู่ช่วงวันหยุดยาว SHR, VRANDA, SPA
            3) กลุ่มธนาคารพาณิชย์ การบริโภคภายในประเทศที่เร่งตัวขึ้นเป็นบวกต่อสินเชื่อของกลุ่ม
ธนาคาร BBL, KBANK
            4) กลุ่มค้าปลีก การซื้ออาหาร และของไหว้ต่างๆ เป็นบวกต่อกลุ่มค้าปลีก MAKRO, BJC,
CPALL
            สำหรับ ทองคำ คาดว่าจะได้ Sentiment เชิงบวกจากการเป็นสินทรัพย์ยอดนิยม ที่ถูกใช้เป็น
ของขวัญหรืออั่งเปา หากอิงสถิติพบว่า ทองคำปรับตัวขึ้นได้ดีกว่า SET INDEX ในช่วงสัปดาห์
ตรุษจีน เพราะฉะนั้นทองคำจึงน่าสนใจสำหรับการเก็งกำไรต่อเนื่อง เมื่อเข้าสู่สัปดาห์ตรุษจีน
แนะนำกองทุน K-GOLD-A(A) และ K-GOLD-A(D)

 

 

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์