PLANB - แนวโน้มสดใส แต่ไม่ได้น่าซื้อมากเท่าเดิมแล้ว

อย่างไรก็ตาม เรามองว่าผลประกอบการยังมีแนวโน้มแข็งแกร่ง โดยคาดว่ากำไรสุทธิใน 4Q22 จะอยู่ที่ 208 ล้านบาท เพิ่มขึ้นทั้ง yoy และ qoq ตาม UR ที่เพิ่มขึ้น เราคิดว่าโมเมนตัมของกำไรจะเร่งตัวขึ้นต่อเนื่องในปี 2023 จากการที่ UR เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

 

UR กำลังอยู่ในขาขึ้น โดยเฉพาะใน 4Q22 

เรามีโอกาสได้คุยกับผู้บริหาร PLANB และ เกี่ยวกับแนวโน้ม และผลประกอบการ 4Q22ของบริษัท ซึ่งประเด็นสำคัญที่เราได้จากการคุยกับผู้บริหารได้แก่ i) utilization rate เดือนตุลาคม และพฤศจิกายน 2022 เพิ่มขึ้นตามคาดเป็น 66-67% จาก 61% ใน 3Q22  โดยบริษัทยังไม่ได้รับข้อมูล UR เดือนธันวาคม ทั้งนี้ ลูกค้าในกลุ่ม super brand (รวม Chanel และ Celine) ซึ่งได้อานิสงส์จากนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ทะลักเข้ามา และกำลังซื้อที่ยังประคองตัวได้ค่อนข้างดีของกลุ่มที่มีรายได้ปานกลาง และสูง จะยังคงเป็นกลุ่มหลักที่สร้างรายได้ให้กับ PLANB ใน 4Q22 นอกจากนี้ เรายังได้ถามเกี่ยวกับต้นทุนค่าไฟฟ้าที่แพงขึ้น เนื่องจากสินทรัพย์ส่วนใหญ่ของบริษัทเป็นจอดิจิทัล ซึ่งทางบริษัทแจ้งว่าต้นทุนค่าไฟฟ้าคิดเป็นสัดส่วนเพียงประมาณ 5% ของต้นทุนรวมเท่านั้น ดังนั้น บริษัทจึงไม่ได้รับผลกระทบมากนักจากต้นทุนที่เพิ่มขึ้นในส่วนนี้

 

 

 

 

คาดว่ากำไรใน 4Q22 จะเพิ่มขึ้นทั้ง yoy และ qoq

เราได้ทำการ simulation กำไรใน 4Q22 ในกรณีที่ UR เดือนธันวาคมยังคงแข็งแกร่งเหมือนกับในเดือนตุลาคมและพฤศจิกายนที่ 66-67% และพบว่าหากเป็นไปตามสมมติฐานดังกล่าว กำไรน่าจะไม่ต่ำกว่า 208 ล้านบาทใน 4Q22 (+71% yoy, +20% qoq) ซึ่งจะทำให้มีกำไรเต็มปี 2022 อยู่ที่ 666 ล้านบาท จากที่ขาดทุน 2 ล้านบาทในปี 2021 เราคาดว่าโมเมนตัมของกำไรจะเร่งขึ้นอย่างต่อเนื่องในปี 2023 และทำสถิติสูงสุดใหม่ที่ 999 ล้านบาท (+50% yoy) จากรายได้ที่เพิ่มขึ้นตาม UR ที่เพิ่มขึ้น และอานิสงส์จาก operational leverage

 

คงคำแนะนำ ซื้อ และประเมินราคาเป้าหมายที่ 9.10 บาท

เรายังคงคำแนะนำซื้อ PLANB แต่เรามองบวกน้อยลงจากเดิมเพราะราคาหุ้นวิ่งขึ้นมาแรงแล้ว ซึ่งที่ระดับราคาปัจจุบันถือว่าหุ้น PLANB ไม่ได้ถูกมากเหมือนเดิมแล้ว โดยคิดเป็น PE ปี 2023 ที่ 34x 2023 ซึ่งคาดว่า EPS จะโต 33% CAGR ในช่วงปี 2022-24