ย้อนรอย “แอน” จักรพงษ์ เทขายหุ้น JKN ก่อนเพิ่มทุนก้อนโต 3 พันล้าน

ย้อนรอย “แอน” จักรพงษ์ เทขายหุ้น JKN ก่อนเพิ่มทุนก้อนโต 3 พันล้าน

เกิดอะไรขึ้นกับบริษัท เจเคเอ็น โกลบอล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ JKN เมื่อ “แอน” หรือ นายจักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ JKN ทยอยขายหุ้น JKN ออกมาอย่างต่อเนื่อง

 หลังจากซื้อกิจการ Miss Universe Organization (MUO) ซึ่งเป็นผู้จัดการประกวดนางงามจักรวาล หรือ Miss Universe ในวันที่ 26 ตุลาคม ในราคา 800 ล้านบาท โดยประมาณ ควรจะเป็นข่าวดีใช่หรือไม่ และควรจะเป็นข่าวที่ทำให้นักลงทุนเชื่อมั่นอนาคตของบริษัท ที่จะมีผลประกอบการที่ดีขึ้นของ JKN และน่าจะเป็นข่าวดี ที่ผู้บริหารควรจะเข้าไปเก็บหุ้น JKN ไม่ใช่ขายหุ้นออกมาสวนทางอย่างหนักแบบนี้

ย้อนรอยการขายหุ้น JKN ของ “แอน” หรือ นายจักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ ที่แจ้งสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.) ผ่านแบบรายงานการเปลี่ยนแปลงการถือหลักทรัพย์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้าของผู้บริหาร (แบบ 59) พบว่า ในรอบปีที่ผ่านมา “แอน” หรือ นายจักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ แจ้งขายหุ้น JKN ข้างเดียว 4 รายการ ซึ่งทั้งหมดทำรายการผ่านบริษัทหลักทรัพย์กรุงไทยเอ็กซ์สปริง จำกัด ประกอบด้วย

รายการที่ 1 วันที่ 23 พ.ย.2565 ขายหุ้น JKN จำนวน 17,516,400 หุ้น ที่ราคาเฉลี่ย 4.74 บาทต่อหุ้น คิดเป็นเงินที่ได้รับรวม 83.17 ล้านบาท

รายการที่ 2 วันที่ 24 พ.ย.2565 ขายหุ้น JKN จำนวน 18,292,500 หุ้น ที่ราคาเฉลี่ย 4.54 บาทต่อหุ้น  คิดเป็นเงินที่ได้รับรวม  83.04 ล้านบาท

รายการที่ 3 วันที่ 25 พ.ย.2565 ขายหุ้น JKN จำนวน 20,191,100 หุ้น ที่ราคาเฉลี่ย 4.26 บาทต่อหุ้น  คิดเป็นเงินที่ได้รับรวม  86.01 ล้านบาท

รายการที่ 4 วันที่ 28 พ.ย.2565 ขายหุ้น JKN จำนวน 14,000,000 หุ้น ที่ราคาเฉลี่ย 4.10 บาทต่อหุ้น  คิดเป็นเงินที่ได้รับรวม  57.40 ล้านบาท

รวมทั้ง 4 รายการ “แอน” หรือ นายจักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ รับเงินจากการขายหุ้น JKN ทั้งสิ้น 309.62 ล้านบาท

ทั้งนี้รายการขายหุ้นที่ 1 และ ที่ 2 “แอน” หรือนายจักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ ระบุในเอกสารเผยแพร่ของ JKN ว่า จะนำเงินดังกล่าวไปให้บริษัท กู้ยืมโดยไม่มีหลักประกัน และไม่คิดดอกเบี้ย เพื่อลงทุนในธุรกิจน้ำดื่ม MU Water และรองรับการจัดประกวด Miss Universe 2022 เพื่อสร้างความแข็งแกร่ง และเติบโตอย่างยั่งยืนให้กับบริษัทในอนาคต 

และเป็นที่น่าสังเกตว่า ในวันที่ “แอน” หรือนายจักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ แถลงซื้อกิจการ Miss Universe Organization (MUO) ระบุชัดเจนว่า

 “เราไม่มีความจำเป็นต้องเพิ่มทุนจดทะเบียนแต่อย่างใด เพราะการเข้าซื้อกิจการ MUO ครั้งนี้มาจากกระแสเงินสดจากการดำเนินกิจการ และไม่จำเป็นต้องกู้เงินแต่อย่างใด และด้วยแผนงาน MUO ที่วางไว้จะส่งเสริมความแข็งแกร่งด้านรายได้ของ JKN ให้เติบโตแบบก้าวกระโดด”

ไม่เพียงเท่านี้ “แอน” หรือ นายจักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ ระบุว่า JKN วางเป้าหมายรายได้ธุรกิจองค์กรนางงามจักรวาล (MUO) เฉลี่ยปีละ 800-1,200 ล้านบาท เลยทีเดียว

จากความชัดเจนเช่นนี้ส่งผลให้ราคาหุ้นของ JKN ปรับขึ้นแรง 2 วันติด จากราคาแถวๆ 3.80 บาท ถูกลากขึ้นไปปิดที่ 5.60 บาท ในวันที่ 27 ตุลาคม 2565 ก่อนที่ 1 เดือนต่อมา “แอน” หรือ นายจักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ จะเทขายหุ้น JKN ออกมาตามรายการข้างต้น และทำให้เหลือหุ้นที่ถือ ณ วันที่ 28 พ.ย. 2565 เพียง 274,018,523 หุ้น เท่านั้น

ข้ามปีใหม่ 2566 ไม่ทันไร JKN แจ้งผลการประชุมคณะกรรมการบริษัท เมื่อวันที่ 5 ม.ค.2566 มีมติเพิ่มทุน 1,019.79 ล้านหุ้น ราคาพาร์ 0.50 บาท เสนอขายผู้ถือหุ้นเดิมในสัดส่วน 1 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นใหม่ ราคาหุ้นละ 3 บาท รวมเงินที่ได้จากการระดมทุนครั้งนี้กว่า 3 พันล้านบาท

ด้วยเหตุผลคลาสสิกนำเงินชำระหนี้ ซึ่งจะลดภาระดอกเบี้ย เสริมสร้างเงินทุน และฐานการเงินให้แข็งแกร่ง และใช้เป็นทุนหมุนเวียนนั่นเอง

การขายหุ้นเพิ่มทุนในราคาที่ต่ำกว่าหน้ากระดาน กดหุ้น JKN ถอยหลังลงมาอีก มาซื้อขายแถว 3.40-3.50 บาท

ระยะเวลาเพียง 1 เดือนหลังจากทำรายการขายหุ้น และการเพิ่มทุนในราคาที่ต่ำกว่ากระดาน และต่ำกว่าราคาที่ขาย มีนัยแฝงเร้นหรือไม่ เป็นประเด็นที่นักลงทุนไม่ควรมองข้าม และตัดสินใจให้ดีก่อนจะควักเงินเพิ่มทุน JKN

 

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์