“หุ้นไทย” ปิดตลาดวันแรกของปี บวก 10.31 จุด ที่ 1,678.97 จุด

ความเคลื่อนไหว “ดัชนีหุ้นไทย” วันนี้ (3ม.ค.66)ผันผวนในทิศทางปรับตัวเพิ่มขึ้น ซึ่งดัชนีทำจุดสูงสุดของวันที่ 1,683.38 จุด  ต่ำสุดอยู่ที่ 1,673.29  ก่อนมาปิดตลาดที่1,678.97 จุด เพิ่มขึ้น 10.31 จุด หรือ 0.62%  มูลค่าซื้อขาย 64,998.07 ล้านบาท 

  สำหรับหุ้นที่มีมูลค่าซื้อขายสูงสุด 5 ลำดับแรกได้แก่

1. DELTA   มูลค่า 1,248.50 ล้านบาท ราคาหุ้นปิดที่ 930.00 บาท  เพิ่มขึ้น 100 บาท หรือ 12.05%          

2. BBL     มูลค่า  231.18 ล้านบาท   ราคาหุ้นปิดที่ 151.00 บาท  เพิ่มขึ้น  3 บาท หรือ 02.03%                   

3. CPALL มูลค่า  206.21 ล้านบาท ราคาหุ้นปิดที่ 69.50 บาท เพิ่มขึ้น1.25 บาท หรือ 1.83%                  

4. KBANK มูลค่า 190.46 ล้านบาท ราคาหุ้นปิดที่ 149 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท หรือ 1.02%            

5. AOT     มูลค่า 165.14 ล้านบาท ราคาหุ้นปิดที่ 75 บาท  ไม่เปลี่ยนแปลงจากราคาปิดก่อนหน้า

 

ทั้งนี้นักลงทุนต่างประเทศซื้อสุทธิ 1,441.77 ล้านบาท  บัญชีหลักทรัพย์ขายสุทธิ 270.62 ล้านบาท นักลงทุนในประเทศขายสุทธิ  1,791.63 ล้านบาท  ส่วนนักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิ 620.47ล้านบาท  

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บริษัทหลักทรัพย์(บล.) ทิสโก้ จำกัด ระบุว่า ดัชนีหุ้นไทยปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นวันที่ 9 และยังคงสามารถรักษาระดับ 1,680 จุดได้ ซึ่งเป็นแนวต้านสำคัญ  โดยเป็นผลมาจากหุ้นต่างประเทศที่พลิกกลับมาเป็นบวก เพราะ กระแสของการแข็งค่าของเงินบาท รวมทั้งการปรับตัวขึ้นของหุ้นเทคโนโลยี โดยเฉพาะอย่างยิ่งหุ้น บริษัท เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ DELTA

โดยแม้วันนี้หุ้นไทยมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นดี  แต่ก็ต้องระวังความผันผวน เพราะดัชนีหุ้นไทยที่ปรับขึ้นส่วนใหญ่เป็นผลมาจากหุ้นDELTAที่ปรับตัวขึ้นแรง ดังนั้นนักลงทุนควรระวังแรงขายทำกำไร เพราะขณะนี้สัญญาณทางเทคนิคชี้ว่าตลาดอยู่ในสภาวะที่มีแรงซื้อมากเกินไป (Overbought)

อย่างไรก็ตามดัชนีหุ้นไทยที่ขึ้นมาต่อเนื่อง ทำให้ในช่วงนี้นักลงทุนควรเน้นขายมากกว่าซื้อ เพราะราคาหุ้นขึ้นเร็ว มีความเสี่ยงกลับทิศสูง หากต้องการซื้อควรรอตอนตลาดปรับฐานลงมา โดยประเมินแนวต้านพรุ่งนี้ (4ม.ค.66)อยู่1,700 จุด ส่วนแนวรับอยู่ที่​1,670-1,675 จุด