Sideways ซื้อเก็งกำไร TOP KBANK ERW (25 พ.ย. 2565)

Sideways ซื้อเก็งกำไร TOP KBANK ERW (25 พ.ย. 2565)

คาดดัชนีฯ Sideways แนวต้าน 1,630/1,635 จุด แนวรับ 1,611 (EMA 50 สัปดาห์)/1,600 จุด แนะนำ ซื้อเก็งกำไร TOP KBANK ERW ทางเทคนิค ยังคงส่งสัญญาณแกว่งตัวออกด้านข้าง จนกว่าจะมีสัญญาณ Break Up/Down ชัดเจน

ส่วนโมเมนตัมลงทุนวันนี้เป็น Slightly Positive รับแรงซื้อคืนสินทรัพย์เสี่ยง หลังจากขาขึ้นดอกเบี้ยของเฟดเริ่มมีสัญญาณใกล้ผ่านจุดสูงสุด ไฮไลท์วันนี้ คือ US: ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดทำการครึ่งวัน เนื่องในวันขอบคุณพระเจ้า; Thailand: Opportunity Day: TVD S SPRIME DMT MICRO THANI NVD VCOM SEAFCO TPIPL RPH AH JKN NCL; Germany: 3Q22E GDP Growth ครั้งสุดท้าย คาด +0.3% QoQ +1.2% YoY (Vs 2Q22 +1.7% YoY และ +0.1% QoQ); Gfk Consumer Confidence เดือน ธ.ค. คาดดีขึ้นเป็น -39.6 (Vs เดือน พ.ย. -41.9)

 

กลยุทธ์การลงทุน แนะนำ

+ KTX Portfolio: พอร์ต Big Cap แนะนำ CRC AWC CK BEM AOT BBL EA CPN MINT KTB TTB BDMS PLANB (ขำย TCAP; ซื้อ PTG และ MAJOR)

+ Daily Recommendations: TOP (ปัจจัยบวกจากค่าการกลั่นที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น จาก USD3.53/บาร์เรล ณ วันที่ 28 ต.ค. เป็น USD10.91/บาร์เรล ทำให้แนวโน้มกำไร 4Q22E มีโอกาสฟื้นตัว QoQ) KBANK (ปัจจัยบวกระยะสั้น จากแนวโน้มการปรับขึ้นดอกเบี้ยของกนง. ในการประชุมวันที่ 30 พ.ย.) ERW (Sentiment เชิงบวก จากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าไทยมาแล้วกว่า 8 ล้านคน และมีโอกาสแตะระดับ 9.5 ล้านคน ซึ่งเป็นเป้าหมายของกนง.)

+ หุ้นที่ได้ประโยชน์จากการถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2022: CRC HMPRO BJC MAKRO CPALL

+ หุ้นได้ประโยชน์จากจานวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น: CENTEL ERW AOT BAFS AAV SPA

 

 

ปัจจัยบวก

+ Thailand: กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-19 พ.ย. 2022 ประเทศไทยมีนักท่องเที่ยวต่างชาติสะสม 8.2 ล้านคน ใกล้เคียงกับเป้าหมายของกนง. ที่ 9.5 ล้านคน และมีรายได้จากการท่องเที่ยวสะสมประมาณ 2.81 แสนล้านบาท (+กลุ่มท่องเที่ยวและโรงแรม)

+ Thailand: ส.อ.ท. เผยยอดส่งออกรถยนต์เดือน ต.ค. 2022 อยู่ที่ 94,228 คัน ขยายตัว 15.51% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน คิดเป็นมูลค่า 8.4 หมื่นล้านบาท ส่งผลให้ยอดส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปช่วง 10 เดือนแรกของปีนี้ (ม.ค.-ต.ค. 2022) อยู่ที่ 8 แสนคัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 5.48% คิดเป็นมูลค่ารวม 7.27 แสนล้านบาท

 

ปัจจัยลบ

- US: ตลาดหุ้นสหรัฐฯ รวมถึงตลาดน้ำมันและทองคำปิดทำการเต็มวันในวันที่ 24 พ.ย. และปิดครึ่งวันในวันที่ 25 พ.ย. ทำให้ปริมาณการซื้อขายของนักลงทุนต่างชาติมีแนวโน้มเบาบางกว่าปกติ ทำให้ตลาดหุ้นไทยมีโอกาสปรับตัวขึ้นได้จำกัด

 

ประเด็นสำคัญ

- US: ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดทำการต่อเนื่องอีกครึ่งวัน เนื่องในวันขอบคุณพระเจ้า และ วันเริ่มต้นฤดู Shopping

- Germany: 3Q22E GDP Growth ครั้งสุดท้าย คาด +0.3% QoQ +1.2% YoY (Vs 2Q22 +0.1% QoQ +1.7% YoY); Gfk Consumer Confidence เดือน ธ.ค. คาดดีขึ้นเป็น -39.6 (Vs เดือน พ.ย. -41.9)

- Thailand: Opportunity Day: TVD S SPRIME DMT MICRO THANI NVD VCOM SEAFCO TPIPL RPH AH JKN NCL

 

Global Market Summary: วันทำการที่ผ่านมา

+ ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดทำการ ส่วนตลาดหุ้นยุโรปปิดบวก: ตลาดหุ้นยุโรปปิดที่ระดับสูงสุดครั้งใหม่ในรอบ 3 เดือน CAC40 +0.42% DAX +0.78% FTSE +0.02% นำขึ้นโดยหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ โดยมีปัจจัยสนับสนุนจาก FOMC Minutes บ่งชี้ว่าเฟดอาจจะชะลออัตราการปรับขึ้นดอกเบี้ย และรายงาน Ifo เยอรมนี บ่งชี้ว่าความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจ (Ifo business climate) เพิ่มขึ้นมากเกินคาดในเดือน พ.ย. ที่ 86.3 (Vs คาด 85 และสูงขึ้นจากเดือน ต.ค. ที่ 84.5)

 

 

+ ตลาดหุ้นไทยปิดบวกเล็กน้อย: ตลาดหุ้นไทยปรับขึ้นไปสร้างจุดสูงสุดของวันที่ 1,630.08 จุด ในช่วงเปิดตลาด ก่อนที่จะอ่อนตัวในลักษณะ Sideways Down กรอบ 1,621.8-1,626.19 จุด ตลอดช่วงที่เหลือของการซื้อขาย และปิดตลาดที่ 1,624.96 จุด +0.56 จุด วอลุ่มซื้อขาย 4.6 หมื่นล้านบาท นำขึ้นโดยกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ +1.44% ยานยนต์ +1.24% ปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์ และวัสดุก่อสร้าง +0.71% เงินทุนและหลักทรัพย์ +0.54% หุ้นบวก >4% MORE POLY TEAM TKT TASCO ETC HEMP ANAN WIN IMH หุ้นลบ >4% KJL ITNS DITTO JKN TEAMG FORTH PSG TSR IND UREKA

+/- ราคาน้ำมันดิบสหรัฐฯ และตลาดทองสหรัฐฯ ปิดทำการ: เนื่องในวันขอบคุณพระเจ้าของสหรัฐฯ

 

ประเด็นสำคัญ

+ Thailand: BAY ประกาศเข้าซื้อหุ้นบริษัท PT. Home Credit Indonesia ในประเทศอินโดนีเซีย และบริษัท HC Consumer Finance Philippines ในประเทศฟิลิปปินส์ รวมมูลค่าราว 17.7 พันล้านบาท (หรือคิดเป็น 473.9 ล้านยูโร) Consensus คาดมี upside ต่อประมาณการกำไรในปี 2023E ราว 1.1% จากศักยภาพการเติบโตของทั้ง 2 ประเทศ แม้ราคาเข้าซื้อ PER สูงกว่าบริษัทฯ ประเภทเดียวกันในไทย

+ Thailand: ผู้บริหาร TFG ยังคง bullish ธุรกิจหมูใน 4Q22 และต่อเนื่องไปถึงปี 2023 จาก ASF ในไทยที่ระบาดเพิ่มขึ้นในช่วง 2Q-3Q22 และผลผลิตหมูที่ คาดว่าจะอยู่ในระดับต่ำไปจนถึง 1H23 ส่งผลต่อราคาหมูไทยอยู่ที่ 97-98 บาท/กก. ในปี 2023 ขณะที่ธุรกิจไก่ยังคงมีแนวโน้มดีต่อเนื่อง จากภาวะการขาดแคลนอุปทานลูกเจี๊ยบของผู้ประกอบการรายย่อย ณ ปัจจุบัน

- US: ทีมนักเศรษฐศาสตร์ของเฟด แจ้งเตือนบรรดากรรมการเฟดว่ามีโอกาสสูงขึ้นเกือบ 50% ที่เศรษฐกิจสหรัฐฯ จะเข้าสู่ภาวะถดถอยในปี 2023 เนื่องจากมีความเสี่ยงที่การใช้จ่ายของผู้บริโภคจะชะลอตัวลง รวมทั้งความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นกับเศรษฐกิจโลก และผลกระทบจากการเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

- China: รัฐบาลจีนส่งสัญญาณใช้มาตรการกระตุ้นด้านการเงินเพิ่มเติม รวมถึงการปรับลดสัดส่วนการกันสำรองของธนาคารพาณิชย์ (RRR) โดยมีเป้าหมายที่จะพยุงเศรษฐกิจ ซึ่งกำลังได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 และการใช้มาตรการล็อกดาวน์ เพื่อควบคุมการระบาด

กลยุทธ์การลงทุน แนะนำ Trading Buy (โดยมีจุดขายตัดขาดทุน 3%)

หุ้นแนะนำรายสัปดาห์: TRUE BJC MAKRO

หุ้นแนะนำเก็งกำไร: TOP KBANK ERW

Derivatives: แนะถือ Long S50Z22