CPALL รับอานิสงส์ศก.-ท่องเที่ยวฟื้น หนุนยอดขายสาขาโตแกร่ง

CPALL รับอานิสงส์ศก.-ท่องเที่ยวฟื้น หนุนยอดขายสาขาโตแกร่ง

“ซีพีออลล์” ทุ่มงบลงทุนปีหน้า 1.1-1.2 หมื่นล้าน เร่งขยายสาขาในและต่างประเทศ-พัฒนาแพลตฟอร์มออนไลน์ เพิ่มยอดขายรับกิจกรรมศก.-นักท่องเที่ยวต่างชาติฟื้น ปีนี้ไตรมาส 4 ยังแนวโน้มโตจากไตรมาส 3 ปี 65 

นางสาวจิราพรรณ ทองตัน หัวหน้านักลงทุนสัมพันธ์ บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPALL เปิดเผยว่า  การดำเนินงานในปี 2566  บริษัทวางงบลงทุนไว้ราว 11,000-12,000 ล้านบาท เพื่อขยายสาขาร้านสะดวกซื้อเซเว่น-อีเลฟเว่น (7-Eleven) จำนวน 700 สาขาในประเทศไทย และขยายสาขาในต่างประเทศ ไม่น้อยกว่า 30 สาขาในกัมพูชา และน่าจะเริ่มเห็นสาขาแรกในสปป.ลาว หลังจากช่วงที่ผ่านมา ยังชะลอการเปิดสาขาไปก่อนจากสถานการณ์ค่าเงินกีบที่ผันผวน

โดยเน้นขยายร้านแนวสแตนด์อโลนที่มีที่จอดรถรองรับกลุ่มลูกค้า อีกทั้งการเพิ่มพื้นที่ขนาดใหญ่เพื่อรองรับการขายสินค้าได้มากขึ้น จากในปี 65 เปิดสาขาใหม่ได้แล้ว 526 สาขา คาดไตรมาส 4/65 จะสามารถเปิดครบ 700 สาขาได้ตามเป้า

       

พร้อมกันนี้ มุ่งเน้นการพัฒนาแพลตพอร์ม “โอทูโอ” เช่น เซเว่นดิลิเวอร์รี่ และออร์ออนไลน์ ให้ตอบโจทย์ลูกค้า เป็นอีกหนึ่งเป้าหมาย สร้างเติบโตไม่แตกต่างจากออฟไลน์ อย่างไรก็ตาม เรามุ่งมั่น “ออลล์คอนวีเนียน” จะมีสิ่งแปลกใหม่ ให้ลูกค้าได้ทดลองใช้ และเป็นส่วนที่สร้างกำไรเพิมเติ่มให้กับบริษัท

นางสาวจิราพรรณ กล่าวต่อว่า ทิศทางการฟื้นตัวธุรกิจในปี 2566 มองยังมีโมเมนตัมเติบโตต่อเนื่อง ตามการเปิดกิจกรรมเศรษฐกิจของประเทศและนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาในประเทศเพิ่มขึ้น สะท้อนภาพรวมผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาส 4 ปีนี้ คาดปรับตัวดีขึ้นจากไตรมาส 3 ที่ผ่านมา โดยเฉพาะยอดขายสาขาเดิม (SSSG) คาดว่ามีโอกาสเติบโตมากขึ้น

จากยอดการเข้าใช้บริการ (traffic) เข้ามาในช่วงไฮซีซั่นปลายปี และปัจจัยสำคัญมีนักท่องเที่ยวต่างชาติในปีนี้ ทางรัฐคาดจะมีนักท่องเที่ยวเข้ามา 10 ล้านคน ช่วยหนุนบรรยากาศการบริโภคเพิ่มขึ้น จากฐานที่ต่ำปีก่อน และปีนี้ไม่มีล็อกดาวน์  

อีกทั้ง มีโอกาสได้รับอานิสงส์จากเทศกาลบอลโลกด้วย บริษัทเตรียมสินค้าไว้รองรับโอกาสดังกล่าวแต่ยังต้องติดตามว่า จะเป็นหนึ่งปัจจัยบวกที่จะสนับสนุนการเติบโตในช่วงไตรมาส 4 นี้หรือไม่ 

นอกจากนี้ หน่วยธุรกิจในกลุ่มซีพีออลล์ คาดว่ายังมีโมเมนตัมเติบโตดี อย่าง บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) หรือ MAKRO มีปัจจัยบวกจากนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เพิ่มขึ้น และ โลตัสหลังจากปรับปรุงร้านและแบรนด์ go fresh ชัดเจน 

ส่วนกรณีบิ๊กล็อตหุ้น MAKRO จำนวน 160 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 37.75 บาท มูลค่า 6,040 ล้านบาท เมื่อ 23 พ.ย.65 ทาง CPALL ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ยืนยันไม่ได้ทำธุรกรรมดังกล่าวปัจจุบันยังคงถือหุ้นในสัดส่วนเดิมที่ 34.97%