Sideways ซื้อเก็งกำไร AAV CENTEL BBL (23 พ.ย. 2565)

Sideways ซื้อเก็งกำไร AAV CENTEL BBL (23 พ.ย. 2565)

คาดดัชนีฯ Sideways แนวต้าน 1,630/1,635 จุด แนวรับ 1,611 (EMA 50 สัปดาห์)/1,600 จุด แนะนำ ซื้อเก็งกำไร AAV CENTEL BBL ทางเทคนิค ดัชนีฯ ยังคงแกว่งตัวก่อนจะเลือกทิศทางที่ชัดเจน

โดยจะเกิดสัญญาณขาย หากดัชนีฯ จะหลุดแนวรับสำคัญ 1,611 จุด โดยมีแนวรับถัดไปที่ 1,594/1,580 จุด และจะเกิดสัญญาณซื้อเพิ่ม หากดัชนีฯ สามารถปิดเหนือ 1,635 จุดได้ ส่วนโมเมนตัมลงทุนวันนี้เป็น Slightly Positive โดยมีปัจจัยบวก จากสัญญาณ FOMC Minutes คืนนี้ คาดส่งสัญญาณว่าเฟดเตรียมชะลอเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ไฮไลท์วันนี้ คือ Thailand: Opportunity Day: OR SPCG BEC APP LEO HANA EPG PROSPECT SMD CRD PROEN SCM EA / ดุลการค้าเดือน ต.ค. คาดขาดดุล -USD1.15bn. (Vs เดือน ก.ย. -USD0.85bn.) ส่งออก +6.0% YoY และ นำเข้า +10% YoY (Vs เดือน ก.ย. +7.8% YoY และ +15.6% YoY); US, EU, UK รายงานภาคการผลิตและภาคบริการเบื้องต้นเดือน ต.ค. คาดลดลง MoM; US: FOMC Minutes (ส่งสัญญาณชะลอเร่งขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมเดือน ธ.ค.); Durable Goods Orders เดือน ต.ค. คาด +0.4% MoM (Vs เดือน ก.ย. +0.4% MoM) Weekly Initial Jobless Claims คาด 225k (Vs สัปดาห์ก่อนหน้า 222k) New Home Sales เดือน ต.ค. คาด -3.8% MoM (Vs เดือน ก.ย. -10.9% MoM)

 

กลยุทธ์การลงทุน แนะนำ

+ KTX Portfolio: พอร์ต Big Cap แนะนำ CRC AWC CK TCAP BEM CPALL AOT EA CPN MINT KTB TTB BDMS PLANB

+ Daily Recommendations: AAV CENTEL (โมเมนตัมเชิงบวก จากแรงซื้อคืนหุ้นกลุ่ม Reopening) BBL (รับประโยชน์จากแนวโน้มการปรับขึ้นดอกเบี้ยของกนง. ในการประชุมสัปดาห์หน้า)

+ หุ้นที่ได้ประโยชน์จากการถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2022: CRC HMPRO BJC MAKRO CPALL

+ FTSE Rebalance Index มีผลต่อราคาปิดในวันที่ 16 ธ.ค.: +TLI BANPU MINT

+ หุ้นได้ประโยชน์จากจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น: CENTEL ERW AOT BAFS AAV SPA

 

ปัจจัยบวก

+ Fed: เฟด เผยรายงานการประชุมเดือน พ.ย. (FOMC Minutes) คืนนี้ คาดมีการส่งสัญญาณการลดขนาดการปรับขึ้นดอกเบี้ยของเฟด หลังจากตัวเลขเศรษฐกิจหลายตัว เริ่มบ่งชี้ถึงภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯ ชะลอตัว ซึ่งจะทำให้เงินเฟ้อปรับลดลงอย่างต่อเนื่อง

 

ประเด็นสำคัญ

- Thailand: Opportunity Day: OR SPCG BEC APP LEO HANA EPG PROSPECT SMD CRD PROEN SCM EA / ดุลการค้าเดือน ต.ค. คาดขาดดุล -USD1.15bn. (Vs เดือน ก.ย. -USD0.85bn.) ส่งออก +6.0% YoY นำเข้า +10% YoY (Vs เดือน ก.ย. +7.8% YoY และ +15.6% YoY)

- US, EU, UK: รายงานภาคการผลิตและภาคบริการเบื้องต้นเดือน ต.ค. คาดลดลง MoM

- US: FOMC Minutes (ส่งสัญญาณชะลอเร่งขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมเดือน ธ.ค.); Durable Goods Orders เดือน ต.ค. คาด +0.4% MoM (Vs เดือน ก.ย. +0.4% MoM) Weekly Initial Jobless Claims คาด 225k (Vs สัปดาห์ก่อนหน้า 222k) New Home Sales เดือน ต.ค. คาด -3.8% MoM (Vs เดือน ก.ย. -10.9% MoM)

- Japan: ตลาดหุ้นปิดทำการ Labor Thanksgiving Day

 

Global Market Summary: วันทำการที่ผ่านมา

- ตลาดหุ้นไทยกลับมาปิดลบ: ตลาดหุ้นไทยขึ้นไปทำจุดสูงสุดของวันในครึ่งชั่วโมงแรกของการซื้อขายที่ 1,629.22 จุด +10.36 จุด ก่อนปรับตัวลดลงตลอดช่วงที่เหลือของการ ซื้อขาย และปิดตลาดที่ 1,615.33 จุด -3.53 จุด วอลุ่มซื้อขาย 5.7 หมื่นล้านบาท นำลงโดยกลุ่มเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร -2.31% บรรจุภัณฑ์ -1.71% สื่อและสิ่งพิมพ์ -1.62% วัสดุก่อสร้าง-0.98% เงินทุนและหลักทรัพย์ -0.86% หุ้นบวก >4% KJL POLY AWC ETC BWG PLUS UREKA LDC AH หุ้นลบ >4% TRUE DTAC JMART TH TEAM TC COMAN MORE GSC BGT KWI TKT

 

 

+ ตลาดหุ้นสหรัฐฯ และตลาดหุ้นยุโรปปิดบวก: DJIA +1.18% S&P500 +1.36% NASDAQ +1.36% นำขึ้นโดย Bestbuy +12.7% หลังเปิดเผยผลประกอบการดีเกินคาด (EPS USD1.38 vs คาด USD1.03) และการปรับขึ้นของหุ้นกลุ่มพลังงาน ตามราคาน้ำมันดิบโลกที่ปรับสูงขึ้น หลังจากรมว.พลังงาน ซาอุดีอาระเบีย ยืนยันคงการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน 2 ล้านบาร์เรล/วัน จนถึงสิ้นปี 2023 และพร้อมแทรกแซงตลอดเวลา เพื่อสร้างสมดุลต่ออุปสงค์และอุปทาน ส่วนตลาดหุ้นยุโรปกลับมาปิดบวก CAC40 +0.35% DAX +0.29% FTSE +1.03% โดยได้แรงหนุนจากการทะยานขึ้นของหุ้นกลุ่มน้ำมันและก๊าซ +4.8% ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจของยูโรโซน ท่ามกลางการส่งสัญญาณที่ไร้ทิศทางจากผู้กำหนดนโยบายเกี่ยวกับแนวโน้มอัตราดอกเบี้ย

+ ราคาน้ำมันดิบและทองปิดบวก: WTI +USD1.22 ปิดที่ USD80.95/บาร์เรล Brent +91 เซนต์ ปิดที่ USD88.36/บาร์เรล หลังจากซาอุดีอาระเบียออกมาปฏิเสธรายงานข่าวของหนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัล โดยยืนยันว่าซาอุดีอาระเบียและสมาชิกโอเปคพลัส ยังคงยึดมั่นต่อนโยบายการปรับลดการผลิตน้ำมันและอาจดำเนินการต่อไปเพื่อสร้างสมดุล ส่วนราคาทองคำ +30 เซนต์ ปิดที่ USD1,739.90/ออนซ์ โดยได้แรงหนุนจากการกลับมาอ่อนค่าของเงิน USD -0.57% แตะ 107.22

 

ประเด็นสำคัญ

- EU: นายโรเบิร์ต โฮลซ์แมนน์ สมาชิกคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางยุโรป (ECB) กล่าวว่า เขายังไม่ได้ตัดสินใจเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือน ธ.ค. อย่างไรก็ดี นายโฮลซ์แมนน์ กล่าวว่า หากยังไม่มีความคืบหน้าอย่างมีนัยสำคัญทางด้านเศรษฐกิจและเงินเฟ้อ เขาก็เลือกที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75%

+ EU: คณะกรรมาธิการยุโรป (EC) ซึ่งเป็นองค์กรบริหารของสหภาพยุโรป (EU) ระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในยูโรโซนปรับตัวขึ้นสู่ระดับ -23.9 ในเดือน พ.ย. จากระดับ -27.5 ในเดือน ต.ค. และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ -26.0

+ China: ธนาคารกลางจีน (PBOC) ประกาศอัดฉีดเงิน 2 พันล้านหยวน (ประมาณ 279 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) เข้าสู่ระบบการเงินเมื่อวานนี้ (22 พ.ย.) ผ่านข้อตกลง reverse repo ประเภทอายุ 7 วัน โดยกำหนดอัตราดอกเบี้ยที่ 2% โดยมีเป้าหมายที่จะรักษาสภาพคล่องในระบบธนาคารให้มีเสถียรภาพอย่างเหมาะสม

+ Thailand: กระทรวงการคลัง เผยการจัดเก็บรายได้ในปีงบประมาณ 2022 อยู่ที่ 2,551,223 ล้านบาท สูงกว่าเป้าหมาย 151,223 ล้านบาท ส่งผลให้การกู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณต่ำกว่าประมาณการ 47,447 ล้านบาท

กลยุทธ์การลงทุน แนะนำ Trading Buy (โดยมีจุดขายตัดขาดทุน 3%)

หุ้นแนะนำรายสัปดาห์: TRUE BJC MAKRO

หุ้นแนะนำเก็งกำไร: AAV CENTEL BBL

Derivatives: Wait & see รอ S50Z22 เลือกทาง