กังวลโควิดจีน หุ้นรายงานพิเศษ PLANB (21 พ.ย. 2565)

กังวลโควิดจีน หุ้นรายงานพิเศษ PLANB (21 พ.ย. 2565)

วันศุกร์ที่ผ่านมา ดัชนีเคลื่อนไหว Sideway มีแรงซื้อเข้ามาในหุ้นกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ และหุ้นกลุ่มค้าปลีก ตลาดถูกกดดันจากประเด็น เจ้าหน้าที่หลายรายจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้ออกมาส่งสัญญาณว่าจะมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยอีกในอนาคต

ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,617.38 จุด +2.43 จุด +0.15% มูลค่าการซื้อขาย 56,407 ลบ.ต่างชาติ +716.65 ลบ. TFEX -411 สัญญา ตราสารหนี้ -8,534.80 ลบ.
 

ปัจจัยบวก  

+ ดัชนีดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 199.37 จุด หรือ +0.59% จากการปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มปลอดภัยได้ช่วยชดเชยการลดลงของหุ้นกลุ่มพลังงาน ขณะที่นักลงทุนปรับตัวรับความเห็นของเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมาดัชนีดาวโจนส์ทรงตัว, ดัชนี S&P500 ลดลง 0.7% และดัชนี Nasdaq ลดลง 1.6%
+ IMF คาด GDP ที่แท้จริงของไทยในปี 2566 จะขยายตัว 3.7% เพิ่มขึ้นจากระดับ 2.8% ของปี 2565 สวนทางทั่วโลกที่ชะลอลง โดยมีไทยและจีนเพียง 2 ประเทศในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกที่มี GDP ที่แท้จริงขยายตัว
+ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาแอตแลนตาสนับสนุน FED ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยน้อยกว่า 0.75% ในการประชุมนโยบายเดือนธ.ค. โดยมองว่าอัตราดอกเบี้ยเป้าหมายของเฟดไม่ควรเพิ่มขึ้นเกินกว่า 1%
+ กระทรวงคมนาคมอยู่ระหว่างเร่งรัดผลักดันโครงการรถไฟทางคู่ ระยะ (เฟส) ที่ 2 จำนวน 7 เส้นทาง ระยะทางรวม 1,479 กิโลเมตร (กม.) วงเงิน 275,301 ล้านบาท เพื่อเสนอครม. อนุมัติ เพื่อให้เริ่มก่อสร้างได้ภายในปี 66
+ ททท.เปิดเผยว่าเห็นสัญญาณที่ดีต่อการท่องเที่ยวของไทยหลังจบการประชุม APEC เพราะมีการใช้ซอฟต์เพาเวอร์ในเรื่องของอาหารและความเป็นประเทศไทยได้ดีมากนำนักท่องเที่ยวกลับมาเที่ยวไทยได้มากขึ้น โดยปี 2566 มั่นใจว่ารายได้จากการท่องเที่ยวจะกลับมาจำนวน 80% ของรายได้ในปี 2562

 

ปัจจัยลบ 

 

- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส (WTI) ร่วงลง 1.56 ดอลลาร์ -1.9% ปิดที่ 80.08 ดอลลาร์/บาร์เรล ต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 30 ก.ย. 2565 และร่วงลง 9.98% ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมาโดยถูกกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับอุปสงค์น้ำมันที่เกิดจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก การเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ FED และความกังวลว่าจีนใช้มาตรการคุมเข้มการแพร่ระบาดของโควิด-19 จะกระทบต่ออุปสงค์น้ำมันในประเทศ
- จีนรายงานพบผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 รายแรกในรอบเกือบ 6 เดือน ในขณะที่ ยอดผู้ติดเชื้อในประเทศเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
- IMF ชี้ความขัดแย้งด้านการค้าอาจทำเศรษฐกิจโลกเสียหาย 1.4 ล้านล้านดอลลาร์ นอกเหนือไปจากความเสียหายอย่างรุนแรงที่เกิดจากการทำสงครามในยูเครน

 

แนวโน้มตลาดวันนี้

คาดดัชนีในวันนี้มีโอกาสแกว่งตัวออกข้าง แม้ว่าเฟดจะปรับเพิ่มเป้าหมายอัตราดอกเบี้ยในปี 2023 สู่ 4.75-5.00% ซึ่งสูงกว่าช่วงก่อนที่ 4.25-5.00% และ ECB เตรียมปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 2.00% สู่ 3.5% แต่ Fund Flow ที่เริ่มกลับมาไหลเข้าเป็นปัจจัยพยุงดัชนี คาดกรอบดัชนีในวันนี้ 1,610-1,625 จุด

 

กลยุทธ์การลงทุน  

• ลุ้น เราเที่ยวด้วยกัน เฟส 5-มาตรการกระตุ้นท่องเที่ยว เข้าครม. 28 พ.ย. : ERW CENTEL VRANDA ASAP SPA AAV BA AOT
• ลุ้นมาตรการอุดหนุน EV เข้า ครม. เดือน พ.ย. นี้ : EA NEX BYD GPSC
• MSCI Rebalancing มีผล 30 พ.ย. : MSCI Global Standard หุ้นเข้า : - , หุ้นออก : BAM
MSCI Global Small Cap หุ้นเข้า: BAM, ERW, JWD, NEX, RAM หุ้นออก: PSG, SYNEX
• FTSE : Mid Cap หุ้นเข้า TLI

 

หุ้นรายงานพิเศษ  

                                                            PLANB – Bloomberg Consensus 8.80 บาท
                         “มุมมองบวกต่อแนวโน้มกำไร 4Q65-2566 ตามแนวโน้มอุตสาหกรรมสื่อโฆษณาที่ดีต่อเนื่อง”

กังวลโควิดจีน หุ้นรายงานพิเศษ PLANB (21 พ.ย. 2565)

•งวด 3Q65 กำไร 184 ลบ. (ดีกว่าตลาดคาด 22%) พลิกจาก 3Q64 ที่ขาดทุน 54 ลบ. และโต 6%QoQ จากรายได้เท่ากับ 1,734 ลบ. +58%YoY +6.5%QoQ ตามธุรกิจสื่อนอกที่อยู่อาศัย (OOH) ที่ฟื้นตัวดีจากสถานการณ์โควิด-19 ที่คลี่คลายลง สะท้อนจาก U.rate ที่เร่งดีขึ้นสู่ 62.1% (3Q64 = 34.9%, 2Q65 = 57.3%) ส่วน %GPM อยู่ที่ 26.3% (3Q64 = 2.9%, 2Q65 = 28.8%) อ่อนลง QoQ จาก One-time items จากการปรับเปลี่ยนป้ายหลังจากการควบรวมกิจการกับ AQUA

•แนวโน้มอุตสาหกรรมสื่อโฆษณายังคงเติบโตดีต่อเนื่องทุกกลุ่ม อาทิ OOH, Online และ TV ซึ่งช่วง 9M65 มีเม็ดเงินโฆษณารวมกว่า 8.8 หมื่นล้านบาท โดยแนวโน้มทั้งปี 65 คาดที่ 1.2 แสนลบ. และแนวโน้มช่วง 4Q65 คาดจะยังดีต่อเนื่อง QoQ จากกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวชัดเจน ประกอบกับเข้าสู่ช่วง High Season โดยช่วงเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา U.rate ของบริษัทยังเร่งดีขึ้นอีกสู่ราว 62-65%

ความเห็น เรามีมุมมองบวกต่อแนวโน้มกำไร 4Q65-2566 ตามแนวโน้มอุตสาหกรรมสื่อโฆษณาที่ดีต่อเนื่อง ส่วนธุรกิจ Engagement Marketing (สัดส่วนรายได้ 20%) อาทิ การจัดงานกีฬามวย ฟุตบอล วิ่ง และงาน BNK คาดจะโตดีใน 4Q65 เช่นกันจากปริมาณการจัดงานที่เพิ่มขึ้น และปี 66 ได้สิทธิในการถ่ายทอดสดงานเอเชียนเกมส์ ทั้งนี้ Bloomberg Consensus คาดกำไรปี 65 ราว 636 ลบ. +894%YoY (9M65 กำไร 462 ลบ. คิดเป็น 73% ของประมาณการทั้งปี 65)

 

หุ้นมีข่าว

(+) BGC ( Bloomberg Consensus 11.50 บาท) คาดยอดขายปีหน้าเติบโตต่อเนื่องจากปีนี้ พร้อมตั้งเป้าอัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 16% มองอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ยังมีแนวโน้มการเติบโตที่ดี เน้นจัดการต้นทุน ชี้ปีนี้ยอดขายกลับมาเติบโตกว่าช่วงก่อนเกิดการแพร่ระบาดโควิดแล้ว เดินหน้าซื้อกิจการบริษัทนอกกลุ่ม เพื่อสู่เป้าหมายการเป็นผู้นำธุรกิจบรรจุภัณฑ์แบบครบวงจร (ที่มา ทันหุ้น)

(+) BA ( Bloomberg Consensus 14.62 บาท) ส่องโค้งท้ายยังเติบโตต่อเนื่อง จากจำนวนผู้โดยสารทั้งในและต่างประเทศหนุน ลุยอัดโปรโมชั่นการตลาดรองรับท่องเที่ยว เดินหน้าขยายเส้นทางบินใหม่ และเพิ่มเที่ยวบิน คาดรายได้รวมสิ้นปี 2565 แตะระดับ 8,100 ล้านบาท โกยยอดผู้โดยสาร 2.6 ล้านคน (ที่มา ทันหุ้น)

(+) SMD (Bloomberg consensus - บาท) เล็งขาย ATK นวัตกรรมใหม่เจ้าแรกในไทย ชี้ มาร์จิ้นสูง คาดโกยยอดขาย 100 ล้านบาท ต่อไตรมาส ด้านผู้บริหาร "วิโรจน์ วสุศุทธิกุลกานต์" แย้มแผนควบรวมกิจการเสริมทัพ หนุนมาร์จิ้นแน่น กำเงินสดพร้อมลุย 600 ล้านบาท พร้อมตั้งเป้ารายได้ปี 2566 แตะ 2.2 พันล้านบาท (ที่มา ทันหุ้น)

(+) JR (Bloomberg consensus - บาท) โค้งสุดท้ายคว้างานใหม่ 2 โครงการ มูลค่า 93 ล้านบาท ฟากซีอีโอ "จรัญ วิวัฒน์เจษฎาวุฒิ"เผยเดินหน้ารุกประมูลงานทั้งภาครัฐและเอกชน กว่า 7 พันล้านบาท โดยเฉพาะโครงการขนาดใหญ่ประเภทงานระบบโครงสร้างพื้นที่มีความปลอดภัยขั้นสูง ดัน Backlog ที่มีอยู่ 3,474 ล้านบาท ทยอยรับรู้รายได้ 3 ปีข้างหน้า มั่นใจผลงานปีนี้โตตามเป้า (ที่มา ทันหุ้น)