บอร์ด ADVANC เดินหน้าซื้อ 3BB - JASIF คาดปิดดีลไตรมาส 1/66

บอร์ด ADVANC เดินหน้าซื้อ 3BB - JASIF คาดปิดดีลไตรมาส 1/66

บอร์ด ADVANC อนุมัติเข้าซื้อหุ้น "3BB - JASIF" ย้ำชัดธุรกรรมยังมีความเหมาะสม ต่อบริษัทในระยะยาว หวังต่อยอดลูกค้าอินเทอร์เน็ตบ้านเพิ่มเป็น 4.4 ล้านราย จากเดิม 2 ล้านราย จ่อขออนุญาต กสทช. ก่อนลงนามคาดดีลเสร็จไตรมาส 1 ปี 2566

1) การลงทุนในครั้งนี้จะช่วยให้บริษัทสามารถขยายธุรกิจอินเทอร์เน็ตบ้านให้เติบโตอย่างก้าวกระโดดจากฐานลูกค้าที่ระดับ 2 ล้านราย เป็นประมาณ 4.4 ล้านราย ขยายฐานรายได้ สร้างมูลค่าเพิ่ม และกระแสเงินสดที่มั่นคงในระยะยาวให้กับบริษัท

2) เนื่องจากที่ประชุมผู้ถือหน่วย JASIF ไม่อนุมัติการแก้ไขสัญญาเช่าตามที่บริษัทเสนอ สัญญาเช่าระหว่าง TTTBB และ JASIF จึงยังคงมีอายุสิ้นสุดในต้นปี 75 ตามเดิมต่อไป ในส่วนเรื่องการต่ออายุสัญญาในอนาคต บริษัทเห็นว่าโอกาสดังกล่าวจะเกิดขึ้นได้ต่อเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขสัญญาให้มีความเหมาะสมมากขึ้นอย่างมีนัยสําคัญเท่านั้น

ทั้งนี้ เพื่อส่งเสริมให้บริษัทคงความสามารถในการแข่งขันทางธุรกิจได้ในระยะยาวซึ่งบริษัทจะพิจารณาเทียบกับทางเลือกอื่นๆ ที่เหมาะสมต่อการบริหารต้นทุนการดำเนินงานให้ยั่งยืนในอนาคต

นอกจากนี้บริษัทเล็งเห็นถึงความสำคัญในการขยาย และสร้างมูลค่าเพิ่มจากสินทรัพย์โครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลที่มีอยู่ และมีนโยบายที่จะพิจารณาทางเลือกในการบริหารทรัพย์สินโทรคมนาคมที่มีอยู่ในปัจจุบันให้เกิดมูลค่าสูงสุด และสร้างทางเลือกในการระดมทุนที่มีต้นทุนที่เหมาะสมในอนาคตต่อไป

อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากนี้บริษัทจะดำเนินการขออนุญาตในการเข้าทำธุรกรรมจากคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ก่อนจึงจะลงนามในสัญญาซื้อขายหุ้น และหน่วยลงทุน โดยบริษัทคาดว่าธุรกรรมซื้อหุ้น และซื้อหน่วยลงทุนจะเสร็จสมบูรณ์ภายในไตรมาส 1 ปี 2566

 

 

1) การลงทุนในครั้งนี้จะช่วยให้บริษัทสามารถขยายธุรกิจอินเทอร์เน็ตบ้านให้เติบโตอย่างก้าวกระโดดจากฐานลูกค้าที่ระดับ 2 ล้านราย เป็นประมาณ 4.4 ล้านราย ขยายฐานรายได้ สร้างมูลค่าเพิ่ม และกระแสเงินสดที่มั่นคงในระยะยาวให้กับบริษัท

2) เนื่องจากที่ประชุมผู้ถือหน่วย JASIF ไม่อนุมัติการแก้ไขสัญญาเช่าตามที่บริษัทเสนอ สัญญาเช่าระหว่าง TTTBB และ JASIF จึงยังคงมีอายุสิ้นสุดในต้นปี 75 ตามเดิมต่อไป ในส่วนเรื่องการต่ออายุสัญญาในอนาคต บริษัทเห็นว่าโอกาสดังกล่าวจะเกิดขึ้นได้ต่อเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขสัญญาให้มีความเหมาะสมมากขึ้นอย่างมีนัยสําคัญเท่านั้น

ทั้งนี้ เพื่อส่งเสริมให้บริษัทคงความสามารถในการแข่งขันทางธุรกิจได้ในระยะยาวซึ่งบริษัทจะพิจารณาเทียบกับทางเลือกอื่นๆ ที่เหมาะสมต่อการบริหารต้นทุนการดำเนินงานให้ยั่งยืนในอนาคต

นอกจากนี้บริษัทเล็งเห็นถึงความสำคัญในการขยาย และสร้างมูลค่าเพิ่มจากสินทรัพย์โครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลที่มีอยู่ และมีนโยบายที่จะพิจารณาทางเลือกในการบริหารทรัพย์สินโทรคมนาคมที่มีอยู่ในปัจจุบันให้เกิดมูลค่าสูงสุด และสร้างทางเลือกในการระดมทุนที่มีต้นทุนที่เหมาะสมในอนาคตต่อไป

อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากนี้บริษัทจะดำเนินการขออนุญาตในการเข้าทำธุรกรรมจากคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ก่อนจึงจะลงนามในสัญญาซื้อขายหุ้น และหน่วยลงทุน โดยบริษัทคาดว่าธุรกรรมซื้อหุ้น และซื้อหน่วยลงทุนจะเสร็จสมบูรณ์ภายในไตรมาส 1 ปี 2566

 

 

นายธีร์ สีอัมพรโรจน์ หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านการเงิน AIS อธิบายว่า “AIS ยังคงมีความมุ่งมั่นพัฒนาโครงข่ายบรอดแบนด์ให้ครอบคลุมทั่วถึงคนไทย และตอบโจทย์การขยายโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลของประเทศให้รวดเร็วยิ่งขึ้น โดยการประกาศยืนยันลงทุนขยายธุรกิจ AIS Fibre ในครั้งนี้ ยังคงเป็นไปตามเป้าหมายในธุรกิจอินเทอร์เน็ตบ้าน และมุ่งสู่การเป็นผู้ให้บริการเทคโนโลยีดิจิทัลอย่างสมบูรณ์ แม้จะมีการปรับเปลี่ยนเงื่อนไข ตามมติจากที่ประชุมผู้ถือหน่วย JASIF ที่ไม่อนุมัติการแก้ไขสัญญาเช่าตาม AIS เสนอไปก็ตาม แต่ทางคณะกรรมการบริษัท ก็ยังเห็นโอกาส และมองว่ายังสามารถเดินหน้าดีลนี้ได้ต่อไป

โดยในเรื่องของการลดค่าเช่าที่ไม่ได้รับการอนุมัติจากผู้ถือหน่วยลงทุน JASIF ก่อนหน้านี้ แม้จะเป็นประเด็นสำคัญต่อการพิจารณา แต่ในท้ายที่สุด AIS มองเห็นถึงประโยชน์ในระยะยาว ที่จะทำให้การดำเนินธุรกิจส่งเสริมด้วยการใช้ศักยภาพร่วมกัน ทั้งในฝั่งของ 3BB ที่มีความแข็งแกร่งในธุรกิจเน็ตบ้านมาอย่างยาวนาน และ AIS ที่เป็นผู้นำในตลาดโทรคมนาคม และบริการดิจิทัลที่ตอบโจทย์ รวมถึงการมีธุรกิจอินเทอร์เน็ตบ้านอย่าง AIS Fibre ที่เติบโตอย่างรวดเร็ว ภายในระยะเวลาไม่กี่ปี พร้อมได้รับการยอมรับจากลูกค้าเรื่องคุณภาพการให้บริการ การผนึกกำลังร่วมกันก็จะยิ่งสร้างความแข็งแกร่ง เสริมขีดความสามารถในการให้บริการอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์ผ่านสายไฟเบอร์ที่ครอบคลุมลูกค้าที่กว้างขวางมากขึ้น ได้รับบริการดิจิทัล และสิทธิพิเศษที่มีความคุ้มค่า และหลากหลายมากขึ้น”

“สำหรับโอกาสในการต่อสัญญาเช่าโครงข่าย JASIF ภายหลังจากหมดอายุสัญญาในเดือนมกราคม 2575 หลังจากที่ผู้ถือหน่วยลงทุน JASIF ไม่ได้มีการอนุมัติในการปรับแก้ไข และต่ออายุสัญญาเช่าตามที่ AIS ได้เสนอ การต่อสัญญาเช่าจึงต้องมาพิจารณาความคุ้มค่าด้านต้นทุนที่เหมาะสม กับความสามารถในการแข่งขันด้านธุรกิจของ AIS และ 3BB ซึ่งบริษัทจะพิจารณาร่วมกับทางเลือกอื่นๆ ที่มีความเหมาะสม เช่น การจัดตั้งกองทุนโครงสร้างพื้นฐานของ AIS เอง เพื่อรองรับการขยายตัวในระยะยาว”

“นอกเหนือจากความแข็งแกร่ง และการเติบโตจากการขยายธุรกิจครั้งนี้ของ AIS แล้ว เรายังมองถึงภาพรวมของอุตสาหกรรมอินเทอร์เน็ตบ้านที่ยังต้องอาศัยผู้เล่นที่มีความพร้อมในการพัฒนาโครงข่ายไฟเบอร์ในประเทศไทย เพื่อให้เกิดการขยายการลงทุนไปยังพื้นที่ใหม่ๆ ให้คนไทยได้รับบริการอินเทอร์เน็ตอย่างทั่วถึงโดยเฉพาะในพื้นที่ต่างจังหวัด และพื้นที่ห่างไกล ซึ่งจะเป็นผลเพื่อผลักดันให้ตลาดเกิดการแข่งขัน สร้างทางเลือกที่หลากหลายให้กับผู้บริโภค รวมถึงช่วยให้ลูกค้าได้รับประโยชน์อย่างเท่าเทียมจากบริการที่รวดเร็ว และมีคุณภาพดีที่สุด โดย AIS จะดำเนินการขออนุญาตในการเข้าทำธุรกรรมครั้งนี้จากคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ก่อนตามขั้นตอน  จึงจะลงนามในสัญญาซื้อขายหุ้นและหน่วยลงทุน โดยคาดว่าธุรกรรมจะเสร็จสมบูรณ์ภายในไตรมาส 1 ปี 2566” นายธีร์ กล่าวทิ้งท้าย

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์