CPALL ผลประกอบการ 3Q65: กำไรเพิ่มขึ้นทั้ง YoY และ QoQ

CPALL ผลประกอบการ 3Q65: กำไรเพิ่มขึ้นทั้ง YoY และ QoQ

กำไรสุทธิของ CPALL ใน 3Q65 อยู่ที่ 3.2 พันล้านบาท (+115% YoY, +7% QoQ) ซึ่งเป็นไปตาม Bloomberg consensus โดยกำไรที่เพิ่มขึ้นทั้ง YoY และ QoQ จะเป็นเพราะผลการดำเนินงานของร้านสะดวกซื้อ (CVs) ฟื้นตัวขึ้น

และ ธุรกิจของ Siam Makro (MAKRO.BK/MAKRO TB) ได้อานิสงส์จากการที่กิจกรรมทางเศรษฐกิจกลับมา ทำให้กำไรสุทธิในงวด 9M65 อยู่ที่ 9.6 พันล้านบาท (+54% YoY) และคิดเป็น 67% ของประมาณการกำไรเต็มปีของเรา

 

โมเมนตัมยอดขายเร่งตัวขึ้นตามกิจกรรมทางธุรกิจที่กลับมา

ยอดขายรวมบริษัทในเครือของ CPALL อยู่ที่ 2.08 แสนล้านบาท (+66% YoY, -0.3% QoQ) จากยอดขายที่เพิ่มขึ้นของทั้งธุรกิจ CVs และ ธุรกิจค้าส่งและค้าปลีกของชำ (MAKRO และ Lotus’s) ทำให้ยอดขายในงวด 9M65 อยู่ที่ 6.10 แสนล้านบาท (+58% YoY) และคิดเป็น 77% ของประมาณการเต็มปีของเรา ทั้งนี้ ยอดขายของธุรกิจ CVs เพิ่มขึ้นเป็น 9 หมื่นล้านบาท (+33% YoY, +2% QoQ) เนื่องจาก i) SSSG ใน 3Q65 เพิ่มขึ้นเป็น 22.1% (จาก -9.2% ใน 3Q64 และ 14.2% ใน 2Q65) ตามกิจกรรมทางธุรกิจ และจำนวนนักท่องเที่ยวที่กลับมา ii) มีการขยายสาขาร้านใหม่เพิ่มอีก 227 ร้านใน 3Q65 ทำให้จำนวนสาขาร้านรวมเพิ่มขึ้นเป็น 13,660 ร้าน ทั้งนี้ เมื่อแบ่งประเภทสินค้าตามยอดขาย พบว่าส่วนใหญ่ยังคงเป็น
หมวดอาหารที่คิดเป็นสัดส่วน 74.1% ใน 3Q65 (จาก 73.9% ใน 3Q64 และ 73.6% ใน 2Q65) ในขณะเดียวกัน สินค้าหมวดที่ไม่ใช่อาหารคิดเป็นสัดส่วน 25.9% ใน 3Q65 (จาก 26.1% ใน 3Q64 และ 26.4% ใน 2Q65)

 

 

อัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นเราะบริหารต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

อัตรากำไรขั้นต้นรวมบริษัทในเครือใน 3Q65 อยู่ที่ 21.8% (+0.8ppts YoY, +0.8ppts QoQ) ทำให้อัตรากำไรขั้นต้นในงวด 9M65 อยู่ที่ 21.4% (+0.3ppts YoY) ซึ่งยังต่ำกว่าสมมติฐานปีนี้ของเราที่ 21.8% ทั้งนี้ Margin ของสินค้าหมวดอาหารใน 3Q65 อยู่ที่ 26.4% (ลดลงจาก 26.6% ใน 3Q64 และ 26.0% ใน 2Q65) เพราะได้รับผลกระทบจากการเสนอขายสินค้าเป็นแพ็คใหญ่ และมีการปรับราคาอย่างต่อเนื่อง ในขณะเดียวกัน อัตรากำไรขั้นต้นของสินค้าหมวดที่ไม่ใช่อาหารเพิ่มขึ้นเป็น 27.1% ใน 3Q65 (จาก 26.5% ใน 3Q64 และ 26.4% ใน 2Q65) เพราะยอดขายสินค้าด้านการดูแลสุขภาพ และของใช้ส่วนตัวเพิ่มขึ้น (สะท้อนถึงการที่ผู้คนกลับมาเดินทางอีกครั้ง) ทำให้อัตรากำไรขั้นต้นรวมของสินค้าทุกรายการใน 3Q65 อยู่ที่ 26.6% (เท่ากับใน 3Q64 และเพิ่มขึ้นจาก 26.1% ใน 2Q65)

 

โมเมนตัมของกำไรจะเร่งตัวขึ้นในระยะต่อไป

เราคาดว่าโมเมนตัมของกำไรจะเร่งตัวขึ้นใน 4Q65 จากปัจจัยฤดูกาล และการกลับมาของนักท่องเที่ยวต่างชาติ รวมถึงการที่กิจกรรมทางธุรกิจโดยรวมกลับมา ดังนั้น เราจึงคาดว่ากำไรของ CPALL จะฟื้นตัวขึ้นทั้ง YoY และ QoQ ใน 4Q65 ก่อนที่จะโตต่อเนื่องอีก 32% ในปี 2566 ซึ่งจะได้อานิสงส์อย่างเต็มที่จากการกลับมาเปิดประเทศอีกครั้ง

 

 

 

Valuation & action

เรายังคงคำแนะนำ “ซื้อ” CPALL และประเมินราคาเป้าหมายสิ้นปี 2566 ที่ 74.00 บาท อิงจาก PER ที่ 35.0x (ค่าเฉลี่ยในอดีตระหว่าง MAKRO และ CPALL +1.0 S.D.)

 

Risk

เศรษฐกิจชะลอตัวลง, ขยายสาขาใหม่ได้ช้ากว่าแผนที่วางไว้, disruption จากเทคโนโลยีใหม่มาใช้, ถูกยกเลิกการใช้เครื่องหมายการค้า 7-Eleven, ความเสี่ยงด้าน logistic