TOP - กำไรสุทธิใน 3Q ถูกฉุดโดยผลขาดทุนจากสต็อกน้ำมัน

TOP - กำไรสุทธิใน 3Q ถูกฉุดโดยผลขาดทุนจากสต็อกน้ำมัน

กำไรสุทธิใน 3Qที่ 12 ล้านบาท จาก 2.52 หมื่นล้านบาทใน 2Q โดยผลประกอบการที่ดีกว่าประมาณการของเราเป็นเพราะผลขาดทุนจากสต็อกน้ำมันต่ำเกินคาดที่ 9.2 พันล้านบาท (เราคาดไว้  9.5 พันล้านบาท)

และ market GRM (US$6.7 จากที่เราคาดไว้ที่ US$6.8) อัตราการกลั่นเป็นไปตามคาดที่ 104% ลดลงจาก 112% ใน 2Q ส่วนธุรกิจ Aromatics ยังคงอ่อนแอและมีผลขาดทุน 584 ล้านบาท โดย spread ของ PX เพิ่มขึ้นเป็น US$152 จาก US$44 ใน 2Q และ spread ของ BZ เพิ่มขึ้นเป็น US$42 จาก US$23/t ใน 2Q แต่อัตราการใช้กำลังการผลิตลดลงเหลือ 70% จาก 77% ใน 2Q ทั้งนี้ ธุรกิจ Aromatics ช่วยหนุน GIM US$0.2/bbl ในขณะที่ spread ของน้ำมันหล่อลื่นเพิ่มขึ้น US$190 qoq เป็น US$798/t และช่วยหนุน GIM US$1.9 ทำให้ market GIM รวมอยู่ที่ US$8.8/bbl ลดลงจาก US$25.6 ใน 2Q นอกจากนี้ TOP ยังมีผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน 1.7 พันล้านบาท (จากขาดทุน 1.3 พันล้านบาทใน 2Q) เนื่องจากเงินบาทอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับ USD

 

Market GRM จะดีดตัวขึ้น qoq เนื่องจาก crack spread ของน้ำมันดีเซลสูงขึ้น และ crude premium ลดลง

Market GRM น่าจะเฉลี่ยอยู่ที่ US$7 เนื่องจาก crack spread ของน้ำมันดีเซลเพิ่มขึ้น ในขณะที่ต้นทุน crude premium ลดลงเหลือ US$7.0 จาก US$10.5 ใน 3Q เรายังไม่แน่ใจว่า crack spread จะยังอยู่ในระดับนี้ได้นานแค่ไหน เพราะจีนประกาศโควตาการส่งออกรอบล่าสุดอีก 15 ล้านตัน จาก 22.5 ล้านตันในงวด 9M22 นอกจากนี้ เราคาดว่าจะมีกำลังการกลั่นกลับเข้ามาในระบบอีก 2.2 ล้าน bpd หลังจากที่มีการปิดซ่อมบำรุงในเดือนพฤศจิกายน ซึ่งจะเพิ่มแรงกดดันต่อ GRM ใน 4Q 

 

คงคำแนะนำขาย และประเมินราคาเป้าหมายที่ 46 บาท

ราคาเป้าหมายของเราที่ 46 บาท อิงจาก PBV ปี FY23F ที่  0.7x เราเชื่อว่าน้ำมันที่ส่งออกจากจีนจะไปที่ตลาดเอเชีย และกดดัน market GRM ในช่วงปลายปี นอกจากนี้ GRM ยังจะเผชิญอุปสรรคจากภาวะเศรษฐกิจโลกที่มีแนวโน้มชะลอตัวในปีหน้าด้วย