Sideways Up ซื้อเก็งกำไร HMPRO SPA CRC (9 พ.ย. 2565)

Sideways Up ซื้อเก็งกำไร HMPRO SPA CRC (9 พ.ย. 2565)

คาดดัชนีฯ Sideways Up แนวต้าน 1,636/1,649 จุด แนวรับ 1,612 (EMA 200 วัน)/1,607 (EMA 50 วัน) จุด แนะนำ ซื้อเก็งกำไร HMPRO SPA CRC ทางเทคนิค ดัชนีฯ อยู่ในทิศทางขาขึ้นรูปแบบ Rounding Bottom (U-Shape) เพื่อไปทดสอบแนวต้านเป้าหมาย 1,649 จุด

ส่วนโมเมนตัมลงทุนวันนี้เป็น Neutral รอลุ้น Exit Poll ของ US Midterm Elections  ไฮไลท์วันนี้ คือ 3Q22E Earnings Results: Thailand: BCP BCPG PTTGC SC SHR TASCO TOP WORK; US: สุนทรพจน์ประธานเฟด สาขานิวยอร์ก Williams, ริชมอนด์ Barkins, ตัวเลข Wholesale Inventories เดือน ก.ย. คาด +0.8% MoM (Vs เดือน ส.ค. +1.3% MoM); China: CPI, PPI เดือน ต.ค. คาดปรับลดลงเป็น +2.5% YoY และ -1.4% YoY (Vs เดือน ก.ย. +2.8% YoY และ +0.9% YoY)

 

กลยุทธ์การลงทุน แนะนำ

+ KTX Portfolio: พอร์ต Big Cap แนะนำ CRC AWC CK TCAP BH BEM AOT EA KKP CPN MINT KTB TTB BDMS (ขำย BBL)

+ Daily Recommendations: HMPRO (ได้ประโยชน์จำกควำมต้องกำรสินค้ำกลุ่ม Home Improvement ที่ฟื้นตัว ขณะที่ Consensus คำดกำไร 4Q22E ที่ 1,743 ล้ำนบำท +19.0% QoQ และ +9.1% YoY) SPA (รับผลบวกจำกฤดูกำลท่องเที่ยวใน 4Q22E) CRC (Consensus คำดกำไร 3Q22E ฟื้นตัวแรง +165.00% YoY)

+ MSCI Rebalance: ประกำศในวันที่ 10 พ.ย. และมีผลต่อรำคำปิดในวันที่ 30 พ.ย. (คำดตลำดหุ้นไทยมีน้ำหนักเพิ่มขึ้น และ TLI ถูกเพิ่มคำนวณ เม็ดเงิน USD70mn และ BAM คำดถูกถอด)

+ World Cup 2022: รัฐบำลเตรียมอนุมัติกำรเป็นเจ้ำภำพถ่ำยทอดสดที่กำตำร์ในวันที่ 21 พ.ย.-18 ธ.ค. (+กลุ่มพำณิชย์ อำหำร บันเทิง: BEC RS CPALL MAKRO)

+ หุ้นที่ได้ประโยชน์จากการซ่อมแซมบ้านเรือนหลังน้าท่วม: GLOBAL HMPRO DOHOME

+ หุ้นได้ประโยชน์จากจานวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น: CENTEL ERW AOT BAFS AAV SPA

 

ปัจจัยบวก

+ Fund Flows: นักลงทุนต่างชาติยังคงซื้อหุ้นไทยอย่างต่อเนื่อง โดยวานนี้ซื้อสุทธิ หุ้นไทย +3,384.76 ล้านบาท (สะสม 3.0 หมื่นล้านบาท ในช่วง 4 สัปดาห์) และเปิด Long ตลาดอนุพันธ์เพิ่ม +24,875 สัญญา (สะสม 2.32 แสนสัญญา ในช่วง 4 สัปดาห์)

 

ปัจจัยลบ

- กลุ่มโรงกลั่นและสถานีบริการน้ำมัน: แรงขายหุ้นกลุ่มโรงกลั่น รวมถึงกลุ่มสถานีบริการน้ำมัน คาดปรับสูงขึ้น หลังรายงานผลกำไร 3Q22 ออกมาแย่กว่าคาดการณ์ของตลาด โดย IRPC ต่ำกว่าคาด -2.8%, OR ต่ำกว่าคาด -66.1% และ SPRC ต่ำกว่าคาด -101.5% ซึ่งจะเป็นปัจจัยลบระยะสั้นต่อดัชนีฯ (น้ำหนักต่อ SET Index: OR 1.48%, IRPC 0.33% และ IRPC 0.27%)

 

ประเด็นสำคัญ

- 3Q22E Earnings Results: BCP BCPG PTTGC SC SHR TASCO TOP WORK

- Opportunity Day: SNC SMT SPRC PSL

- US: สุนทรพจน์ประธานเฟด สาขานิวยอร์ก Williams, ริชมอนด์ Barkins, ตัวเลข Wholesale Inventories เดือน ก.ย. คาด +0.8% MoM (Vs เดือน ส.ค. +1.3% MoM)

- China: CPI, PPI เดือน ต.ค. คาดลดลงเป็น +2.5% YoY และ -1.4% YoY (Vs เดือน ก.ย. +2.8% YoY และ +0.9% YoY)

 

Global Market Summary: วันทำการที่ผ่านมา

+ ตลาดหุ้นไทย กลับมาปิดบวก: ตลาดหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนบวกตลอดการซื้อขายในลักษณะ Up & Down กรอบ 1,627.93-1,635.87 จุด ก่อนปิดตลาดที่ 1,632.61 จุด +9.04 จุด วอลุ่มซื้อขาย 5.8 หมื่นล้านบาท นำขึ้นโดยกลุ่มเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร +1.69% พาณิชย์ +1.27% การแพทย์ +0.77% พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ +0.63% หุ้นบวก >4% THG SVI DOHOME JTS BJC MPIC TPBI TMI MSC SMT หุ้นลบ >4% KLINIQ THCOM AAI D TKT VNG ALL
 

 

+ ตลาดหุ้นสหรัฐฯ และ หุ้นยุโรป ปิดบวก: DJIA +1.02% S&P500 +0.56% NASDAQ +0.49% โดยหุ้น 10 ใน 11 กลุ่มอุตสาหกรรมของดัชนี S&P500 ปิดใน แดนบวก นำโดยหุ้นกลุ่มวัสดุฯ (ฟรีพอร์ท-แมคมอแรน +2.93%, วัลแคน มาเทเรียลส์ +0.20%, ยูเอส สตีล คอร์ป +4.14%) รวมถึงการฟื้นตัวของหุ้นกลุ่มเทคฯ (อัลฟาเบท +0.43%, ไมโครซอฟท์ +0.44%, แอปเปิล +0.42% และอินวิเดีย +2.10%) รับผลบวกจากแรงซื้อเก็งกำไรผลเลือกตั้งกลางเทอมสหรัฐฯ ส่วนตลาดหุ้นยุโรปปิดบวก CAC40 +0.39% DAX +1.15% FTSE +0.08% จากแรงซื้อเก็งกำไรผลประกอบการ โดยบจ. 216 แห่ง ที่คำนวณดัชนี STOXX600 ประกาศงบแล้ว พบว่า 60% ของทั้งหมด รายงานกำไรดีกว่าคาด

+/- ราคาน้ำมันดิบ ปิดลบ แต่ทองปิดบวก: WTI -USD2.88 ปิดที่ USD88.91/บาร์เรล Brent -USD2.56 ปิดที่ USD95.36/บาร์เรล กังวลสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 ที่ย่ำแย่ในจีน จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกและความต้องการใช้น้ำมัน (NHC แถลงว่าจีนพบผู้ติดเชื้อ COVID-19 รายใหม่ จำนวน 7,691 ราย ในวันจันทร์ที่ผ่านมา) ส่วนราคาทองคำปิดบวกต่อเนื่อง +USD35.50 ปิดที่ USD1,716.00/ออนซ์ จากการอ่อนค่าของเงิน USD และการปรับลดของ US10Y Bond Yield -9bps สู่ระดับ 4.12% อิงคาดการณ์เฟดจะชะลอปรับขึ้นดอกเบี้ย หากพรรครีพับลิกันได้รับชัยชนะเลือกตั้งกลางเทอม

 

ประเด็นสำคัญ

+/- US: หัวหน้านักวิเคราะห์ของโกลด์แมน แซคส์ ระบุว่า ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทจะปรับตัวลง หากพรรคเดโมแครตคว้าชัยชนะครองเสียงข้างมากทั้งในสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาในการเลือกตั้งกลางเทอมครั้งนี้ เนื่องจากนักลงทุนคาดการณ์ว่ารัฐบาลจะผลักดันการเพิ่มอัตราภาษีต่อภาคธุรกิจต่อไป นอกจากนี้ ประธานาธิบดีโจ ไบเดน จะผลักดันมาตรการใช้จ่ายของรัฐบาล ซึ่งจะทำให้เฟดคุมเข้มนโยบายการเงิน เพื่อสกัดเงินเฟ้อ

+ Thailand: รมว.พาณิชย์ จะเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) สัปดาห์หน้า พิจารณาโครงการประกันรายได้ข้าว ปี 2022/2023 โดยยืนยันว่าวงเงินโครงการประกันรายได้ข้าว จะอยู่ภายใต้กรอบวินัยการเงินการคลัง ซึ่งขณะนี้ราคาข้าวมีแนวโน้มสูงขึ้น ซึ่งจะทำให้การใช้งบประมาณ เพื่อจ่ายส่วนต่างระหว่างราคาประกันกับราคาตลาดน้อยลงกว่าปีก่อน

+ Japan: ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เปิดเผยรายงานการประชุมนโยบายการเงินประจำเดือน ต.ค. ชี้ว่า เจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายได้หารือกันถึงสิ่งจำเป็นที่ต้องระมัดระวังเกี่ยวกับผลข้างเคียงจากการผ่อนคลายนโยบายการเงินเป็นระยะเวลายาวนาน และผลกระทบจากการยกเลิกการใช้อัตราดอกเบี้ยระดับต่ำพิเศษ

+ China: คณะกรรมการด้านสุขภาพแห่งชาติของจีน (NHC) แถลงว่า จีนพบผู้ติดเชื้อ COVID-19 รายใหม่ จำนวน 7,691 ราย เมื่อวันจันทร์ (7 พ.ย.) ทั้งนี้ สถานการณ์ COVID-19 ในจีน มีแนวโน้มแย่ลง ทำให้จีนไม่สามารถกำจัด COVID-19 และผ่อนคลายมาตรการควบคุมลงได้ โดยจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่รายวันพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 6 เดือน ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งส่งผลให้กิจกรรมทางธุรกิจหลายอย่างต้องหยุดชะงัก

กลยุทธ์การลงทุน แนะนำ Trading Buy (โดยมีจุดขายตัดขาดทุน 3%)

หุ้นแนะนำรายสัปดาห์: BCPG BEM KCE WHA

หุ้นแนะนำเก็งกำไร: HMPRO SPA CRC

Derivatives: แนะปิด Long S50Z22 ทำกำไร