NRF - ผู้นำธุรกิจอาหารแบบยั่งยืน (4 พ.ย. 2565)

NRF - ผู้นำธุรกิจอาหารแบบยั่งยืน (4 พ.ย. 2565)

เรามองแนวโน้มเป็นบวกเนื่องจากคาดว่าอุปสงค์ของอาหารประจำถิ่น (ethnic) และอาหารที่ผลิตจากพืช (plant-based) จะโตเกิน 10% เราคาดว่ากำไรปกติปี FY22F จะเพิ่มขึ้น 48% yoy เป็น 116 ล้านบาท และกำไรปกติปี FY23F จะเพิ่มขึ้นอีกถึง 126% เป็น 262 ล้านบาท

เราเริ่มต้นศึกษาหุ้น NRF ด้วยคำแนะนำ “ซื้อ” โดยประเมินราคาเป้าหมายที่ 7.80 บาท

 

ผู้นำในอุตสาหกรรมอาหารแบบยั่งยืน

NRF เป็นผู้นำในอุตสาหกรรมการผลิตอาหารอย่างยั่งยืน โดยเน้นที่ 1) อาหารประจำถิ่น(Ethnic) 2) โปรตีนจากพืช (Plant-based) และ 3) อาหารเพื่อสุขภาพและ (Functional foods) นอกจากนี้ บริษัทยังดำเนินกลยุทธ์เพื่อจะเป็นบริษัทที่พร้อมให้การสนับสนุน Plant-Based Platform

 

แนวโน้มเป็นบวกในช่วงปี 2023-2027

เนื่องจากหลายประเทศมีจำนวนผู้ที่อพยพย้ายถิ่นฐานมากขึ้น และผู้บริโภคมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการบริโภคอาหารมากขึ้น ทำให้มีอปุสงค์อาหาร ethnic เพิ่มขึ้นในหลายประเทศทั่วโลก ในขณะเดียวกัน ผู้บริโภคมีแนวโน้มสนใจซื้ออาหารที่ดีต่อสุขภาพ และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น พร้อมลดการบริโภคเนื้อสัตว์ และเพิ่มการบริโภคอาหาร plant-based แทน เราคาดว่าอุปสงค์อาหาร ethnic และ plant-based จะโตปีละ 10.3% และ 10.5% ในช่วงปี 2023-2027

 

 

 

คาดว่ากำไรปกติจะเพิ่มขึ้นในปี FY23F

สำหรับใน 3Q21 เราคาดว่ากำไรสุทธิจะอยู่ที่ 150 ล้านบาท (+151% yoy, +280% qoq) เนื่องจาก 1) อุปสงค์จากตลาดต่างประเทศแข็งแกร่ง 2) เงินบาทอ่อนค่า และ 3) จะมีกำไรจพิเศษจากการขายการลงทุน 100 ล้านบาท นอกจากนี้ เรายังคาดว่ากำไรจากปกติในปี FY22F จะเพิ่มขึ้น 48% yoy เป็น 116 ล้านบาท และจะโตต่อเนื่องอีกถึง 124% เป็น 260 ล้านบาทในปี FY23F เนื่องจาก 1) อุปสงค์ที่แข็งแกร่งของผลิตภัณฑ์ทั้งสามกลุ่ม 2) มีการเพิ่มกำลังการผลิตเพื่อตอบสนองต่ออุปสงค์ที่เพิ่มขึ้น และ 3) สัดส่วน SG&A ต่อยอดขายลดลงตามค่าใช้จ่าย amortization ที่ลดลง

 

เริ่มต้นศึกษาด้วยคำแนะนำ “ซื้อ” และประเมินราคาเป้าหมายที่ 7.80 บาท

เราเริ่มต้นศึกษาหุ้น NRF ด้วยคำแนะนำ ซื้อ และประเมินราคาเป้าหมาย DCF ที่ 7.80 บาท โดยใช้ WACC ที่ 9.4% และ terminal growth rate ที่  2.0%