ESSO ประมาณการ 3Q65F: ปล่อยกำไรวิ่งไปก่อนในช่วงหน้าหนาว

ESSO ประมาณการ 3Q65F: ปล่อยกำไรวิ่งไปก่อนในช่วงหน้าหนาว

เราคาดว่า ESSO จะพลิกเป็นขาดทุนสุทธิ 2.5 พันล้านบาทใน 3Q65F ลดลงจากที่มีกำไรสุทธิ 46 ล้านบาทใน 3Q64 และ 8.3 พันล้านบาทใน 2Q65 โดยผลประกอบการที่แย่ลงอย่างมากทั้ง YoY และ QoQ จะเป็นเพราะมีผลขาดทุนก้อนใหญ่จากสต็อกน้ำมัน

เราคาดว่า ESSO จะต้องบันทึกผลขาดทุนจากสต็อกน้ำมัน 4.5 พันล้านบาท ลดลงจากที่มีกำไรจากสต็อกน้ำมัน 1.3 พันล้านบาทใน 3Q64 และ 2.7 พันล้านบาทใน 2Q65 เนื่องจากราคาน้ำมันดิบดูไบลดลงจาก US$113/bbl ในเดือนมิถุนายน เหลือ US$91/bbl ในเดือนกันยายน เรายังคาดว่า market GRM ของ ESSO จะลดลง 73% QoQ เหลือ US$5.3/bbl เนื่องจาก spread ของน้ำมันเบนซิน, น้ำมันเครื่องบิน และน้ำมันดีเซลลดลงอย่างมากเหลือ US$13.2/bbl, USS32.4/bbl และ US$35.2/bbl ตามลำดับ  แต่อย่างไรก็ตาม เราคาดว่าอัตราการกลั่นจะเพิ่มขึ้น 2% QoQ เป็น 134KBD ใน 3Q65F นอกจากนี้ เรายังคาดว่ากำไรจากธุรกิจการตลาดน้ำมันจะเพิ่มขึ้น QoQ เพราะค่าการตลาดน้ำมันอ้างอิงในประเทศไทยพุ่งสูงขึ้นถึง 26% QoQ เป็น 1.98 บาท/ลิตร ใน 3Q65 ตามข้อมูลของสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (EPPO) หลังจากที่รัฐบาลลอยตัวราคาขายปลีกน้ำมันดีเซล ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม แต่เราคาดว่าปริมาณยอดขายน้ำมันของบริษัทจะลดลง 1% QoQ เหลือ 1,320ล้านลิตร เนื่องจากเป็นช่วงฤดูฝน ในขณะเดียวกันบริษัทยังคงปิดโรงงาน PX อยู่ต่อไป

 

 

มีความร่วมมือกันระหว่าง ESSO และ SUSCO มากขึ้น

ESSO กำลังจับมือกับ SUSCO Pcl. (SUSCO.BK/SUSCO TB) เพื่อรีแบรนด์สถานีบริการน้ำมันประมาณ 80 แห่งโดยเปลี่ยนจาก SUSCO เป็น ESSO ในภาคเหนือและอีสานของประเทศไทยภายในปี 2565 ซึ่งมีสถานีบริการ 68 แห่งที่ทำการรีแบรนด์ไปแล้วจนถึงเดือนตุลาคม 2565 เพิ่มขึ้นจากที่รีแบรนด์ไป 35 สถานีในปี 2564 ทั้งนี้ความสำเร็จจากการร่วมมือกันทำให้ ESSO ขายน้ำมันจากโรงกลั่นของ ESSO ได้มากขึ้นผ่านสถานีบริการน้ำมันของ SUSCO ที่รีแบรนด์เป็น ESSO ในขณะที่ปริมาณยอดขายน้ำมันต่อสถานีของ SUSCO ก็เพิ่มขึ้นเช่นกันในส่วนของสถานีบริการที่ทำการรีแบรนด์ นอกจากนี้ ผู้บริหารกำลังอยู่ระหว่างพิจารณาที่จะขยายความร่วมมือต่อไปอีกในปีหน้า

 

Valuation & action

เรายังคงคำแนะนำซื้อ โดยคงราคาเป้าหมายปี 2566 เอาไว้ที่ 14.10 บาท อิงจาก EV/EBITDA ที่ 6.5x ถึงแม้เราจะคาดว่า ESSO จะมีผลขาดทุนสุทธิใน 3Q65 และราคาหุ้นในปัจจุบันแซงหน้าราคาเป้าหมายของเราไปเล็กน้อยแล้ว แต่เราแนะนำให้นักลงทุนปล่อยให้กำไรวิ่งไปก่อน เพราะคาดว่าอุปสงค์จะสูงตามฤดูกาลในช่วงหน้าหนาวที่กำลังจะมาถึงใน 4Q65-1Q66 และคาดว่าอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลใน 2H65 จะสูงถึง 7% เมื่อคำนวณจากราคาหุ้นในปัจจุบัน (ไม่รวมเงินปันผลระหว่างกาล 0.50 บาท/หุ้น สำหรับงวด 1H65)

 

Risks

ความผันผวนของราคาน้ำมันดิบ, GRM และค่าการตลาดน้ำมัน