VGI - ใกล้พลิกฟื้นแล้ว (1 พฤศจิกายน 2565)

VGI - ใกล้พลิกฟื้นแล้ว (1 พฤศจิกายน 2565)

ธีมการฟื้นตัว คือ เหตุผลหลักที่ทำให้เราแนะนำ ซื้อ VGI โดยเราคาดว่าจะเริ่มเห็นการฟื้นตัวตั้งแต่ 2QFY23 เป็นต้นไป เราคาดว่าผลขาดทุนจากธุรกิจหลักจะลดลงเหลือ 94 ล้านบาท จากที่ขาดทุน 139 ล้านบาทเนื่องจากธุรกิจ OOH ฟื้นตัวขึ้น

เราคาดว่า UR ใน 3QFY22 จะเพิ่มขึ้นเป็น 55-60% จาก 42% ใน 2QFY22 ซึ่งยังต่ำกว่าระดับก่อน COVID ระบาดเล็กน้อย ซึ่งที่ UR ระดับนี้ เราคาดว่าบริษัทน่าจะพลิกเป็นกำไรได้ใน 3QFY23

 

คาดว่าผลขาดทุนจากธุรกิจหลักจะลดลงใน 2QFY23 เพราะธุรกิจ OOH ดีขึ้น

เราคาดว่า VGI จะมีผลขาดทุนจากธุรกิจหลัก 94 ล้านบาทใน 2QFY23 แย่ลงจากที่ขาดทุนจากธุรกิจหลัก 88 ล้านบาทใน 2QFY22 แต่ดีขึ้นจากที่ขาดทุนจากธุรกิจหลัก 139 ล้านบาทใน 1QFY22 เราคาดว่าผลขาดทุนจากรายการ Equity income ที่มาจากบริษัทในเครือจะยังคงฉุดให้ VGI มีผลขาดทุนต่อไปในไตรมาสนี้ แต่อย่างไรก็ตาม ธุรกิจหลักของบริษัท โดยเฉพาะสื่อ OOH มีแนวโน้มจะดีขึ้นทั้ง yoy และ qoq เราใช้สมมติฐานสำคัญในประมาณการ 2QFY23 ดังนี้ i) คาดว่ารายได้จากธุรกิจหลักจะเพิ่มขึ้น 29% yoy และ 15% qoq โดยเป็นการเพิ่มขึ้นจากทุกหน่วยธุรกิจ โดยเฉพาะสื่อ OOH (+54% yoy, +10% qoq) ในขณะที่คาดว่า Utilization rate (UR) จะเพิ่มขึ้นเป็น 42% ใน 2QFY23 จาก 39% ใน 1QFY23 และ 28% ใน 2QFY22 ตามจำนวนผู้โดยสารในระบบรถไฟฟ้า BTS ที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ เรายังคาดว่ารายได้จากบริการดิจิทัล และการพาณิชย์ (Fanslink) จะเพิ่มขึ้นทั้ง yoy และ qoq ii) คาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นจะเพิ่มขึ้นเป็น 24.4% จาก 18% ใน 2QFY22 เนื่องจาก UR ฟื้นตัวขึ้น แต่จะลดลงจาก 25.5% ใน 1QFY22 เพราะได้รับผลกระทบเต็มไตรมาสจากการเพิ่มส่วนแบ่งรายได้ให้กับ BTS (จาก 10% เป็น 15%) iii) คาดว่าจะมีผลขาดทุนจากรายการ equity income 80 ล้านบาท แย่ลงจากที่มีผลขาดทุน23 ล้านบาทใน 2QFY22 แต่ดีขึ้นจากที่มีผลขาดทุน 101 ล้านบาทใน 1QFY23 ซึ่งผลขาดทุนที่ลดลง qoq เป็นเพราะผลการดำเนินงานของ JMART และ KEX ดีขึ้น ในขณะที่ผลขาดทุนที่เพิ่มขึ้น yoy เป็นเพราะ KEX

 

 

 

คาดว่าจะพลิกฟื้นได้ใน 3QFY23 นำโดย OOH

เช่นเดียวกับในกรณีของ PLANB เราคาดว่า UR ของสื่อ OOH มีแนวโน้มจะเร่งตัวขึ้นใน 3QFY23 ซึ่งจากการที่เราได้คุยกับผู้บริหารของบริษัท พบว่า UR ใน 3QFY22 น่าจะสูงถึง 55-60% ต่ำกว่าระดับก่อน COVID ระบาดที่ 60-65% เพียงเล็กน้อย ซึ่งหากผลขาดทุนจากรายการ equity income ยังอยู่ที่ประมาณ 100 ล้านบาท OOH น่าจะพลิกฟื้นจากที่ขาดทุน 100 ล้านบาท มาเป็นกำไรประมาณ 100 ล้านบาท ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานยังคงมีแนวโน้มฟื้นตัวตามที่เราคาดไว้ แต่จังหวะการฟื้นตัวช้ากว่าที่เราคาดเอาไว้ก่อนหน้านี้ ดังนั้น ประมาณการกำไรของเราจึงมีความเสี่ยงด้าน downside อยู่บ้าง

 

ยังคงคำแนะนำ ซื้อ VGI และคงราคาเป้าหมายที่ 5.50 บาท

เรายังคงคำแนะนำซื้อ VGI โดยยังคงราคาเป้าหมายที่ 5.50 บาท จากธีมการฟื้นตัวของกำไร เราคาดว่าโมเมนตัมของกำไรจะเร่งตัวขึ้นใน FY2024 โดยมองว่าผลการดำเนินงานใน 2QFY23 จะเป็นจุดเริ่มต้นของการฟื้นตัว และผลประกอบการจะพลิกฟื้นใน 3QFY23