BEC ประมาณการ 3Q65F: จะเป็นไตรมาสที่อ่อนแอ

BEC ประมาณการ 3Q65F: จะเป็นไตรมาสที่อ่อนแอ

ประมาณการ 3Q65F, ปรับประมาณการกำไรเต็มปี และขยับไปใช้ราคาเป้าหมายสิ้นปี 2566

กำไรจะลดลงทั้ง YoY และ QoQ

เราคาดว่ากำไรสุทธิของ BEC ใน 3Q65F จะอยู่ที่ 134 ล้านบาท (-6% YoY, -23% QoQ) โดยกำไรที่ลดลง YoY จะเป็นเพราะอัตรากำไรขั้นต้น (GPM) ลดลง ส่วนกำไรที่ลดลง QoQ จะเป็นเพราะ i) รายได้ค่าโฆษณาลดลง ii) GPM ลดลง เราคาดว่ารายได้ของ BEC จะอยู่ที่ 1.3 พันล้านบาท (+2% YoY, -4%QoQ) เนื่องจาก i) รายได้ค่าโฆษณาเพิ่มขึ้น 6% YoY แต่ลดลง 5% QoQ ตามยอดโฆษณาผ่านสื่อโทรทัศน์ โดยใช้สมมติฐานอัตราค่าโฆษณาที่ 73,696 บาท/นาที (-8% YoY, -2% QoQ) และ utilization rate ที่ 69% ใน 3Q65F (จาก 60% ใน 3Q64 และ 72% ใน 2Q65) ii) รายได้ค่าการให้ใช้ลิขสิทธ์ิลดลง 19% YoY แต่ทรงตัว QoQ เราคาดว่า GPM จะลดลงเหลือ 28.6% ใน 3Q65F เนื่องจากต้นทุนการผลิตรายการไม่เปลี่ยนแปลงในขณะที่รายได้ลดลง (จาก 29.7%/30.3% ใน 3Q64/2Q65) ในขณะเดียวกัน เราคาดว่าสัดส่วน SG&A ต่อรายได้จะเพิ่มขึ้น QoQ เป็น 14.3% ใน 3Q65F เนื่องจากมีการจัดแคมเปญการตลาดเพิ่มขึ้น แต่จะลดลงจาก 14.6% ใน 3Q64

 

ถูกกดดันจากทั้งรายได้ค่าโฆษณา และค่าการให้ใช้ลิขสิทธิ์

จากรายงานยอดโฆษณาผ่านสื่อของ Nielsen พบว่ายอดโฆษณาผ่านสื่อโทรทัศน์เพิ่มขึ้น 6% YoY แต่ลดลง 4% QoQ ใน 3Q65 (คิดเป็น 68% ของระดับก่อน COVID ระบาด) ซึ่งจากการที่ยอดโฆษณาผ่านสื่อโทรทัศน์ขยายตัวอย่างช้า ๆ และภาวะเศรษฐกิจที่ไม่เอื้ออำนวย เราจึงคาดว่ารายได้ค่าโฆษณาจะทยอยฟื้นตัวขึ้น ทั้งนี้ รายได้ค่าโฆษณาในงวด 9M65 คิดเป็น 61% ของประมาณการกำไรเต็มปีของเรา ในขณะที่รายได้จากการให้ใช้ลิขสิทธ์ิ (13% ของรายได้รวม) ในงวด 9M65F คิดเป็น 44% ของประมาณการกำไรเต็มปีของเรา (เป้าของบริษัท และประมาณการของเราในปีนี้อยู่ที่ 1.0 พันล้านบาท) เราจึงคาดว่าประมาณการของเรายังมี downside จากอุปสงค์ content ที่จำกัดเพราะไม่สามารถขาย content ให้ streaming platform ได้ตามแผนภายใต้ภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลง

 

ปรับลดประมาณการกำไร แต่ยังมองบวกกับแนวโน้มตั้งแต่ 4Q65 เป็นต้นไป

เราปรับลดประมาณการกำไรปี 2565F/2566F ลง 19%/21% เพื่อสะท้อนถึง i) การปรับลดประมาณการรายได้ปี 2565F/2566F ลง 13%/9% (จากการปรับลดสมมติฐาน utilization rate ลงเหลือ 70%/74% (จากเดิม 73%/74%) และปรับลดสมมติฐานอัตราค่าโฆษณาลงปีละ 6%) ii) การปรับลดประมาณการรายได้ค่าลิขสิทธ์ิปี 2565F/2566F ลง 33%/26% เราคาดว่ากำไรสุทธิในงวด 9M65F จะอยู่ที่ 481 ล้านบาท (+3%YoY) คิดเป็น 66% ของประมาณการเต็มปีที่ปรับใหม่ของเรา อย่างไรก็ตาม เรายังคงมองบวกกับแนวโน้มกำไร 4Q65 โดยคาดว่าจะดีขึ้น QoQ จากการฟื้นตัวของยอดโฆษณาผ่านสื่อโทรทัศน์และรายได้จากการให้ใช้ลิขสิทธ์ิ นอกจากนี้ เรายังคาดว่ากำไรจะเติบโต 21% YoY ในปี 2566F เนื่องจาก i) รายได้ค่าโฆษณาเพิ่มขึ้นจากการปรับขึ้นอัตราค่าโฆษณา และ utilization rate เพิ่มขึ้น ii) ยอดขาย content เพิ่มขึ้น (+35% YoY) เนื่องจากเราคาดว่าบริษัทจะปรับเป้าหมายของปีนี้ไปเป็นปีหน้า

 

Valuation and action

หลังจากที่ปรับประมาณการใหม่แล้ว เรากำหนด PE แบบอนุรักษ์นิยมมากขึ้นที่ 28x (-0.5 S.D) จากเดิมที่ 31x เพื่อสะท้อนถึงแนวโน้มของบริษัท และขยับไปใช้ราคาเป้าหมายสิ้นเปี 2566 ที่ 12.30 บาท (จากเดิมที่ 15.30 บาท) เราคิดว่าราคาหุ้นที่ลดลงมาน่าจะสะท้อนปัจจัยลบในระยะสั้นไปเรียบร้อยแล้ว ดังนั้น เราจึงยังคงคำแนะนำ ซื้อ BEC

 

Risks

รายได้ค่าโฆษณา และ GCL ต่ำกว่าที่คาดไว้