Selective buy (28 ตุลาคม 2565)

Selective buy (28 ตุลาคม 2565)

ตลาดหุ้นวานนี้ SET Index เพิ่มขึ้น 6 จุด ปิดที่ระดับ 1,602 จุด Fund Flow ไหลเข้าหนุนหุ้น Big Cap ปรับขึ้นนำตลาด อาทิ กลุ่มพลังงาน และ ค้าปลีก  

แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้      

ประเมิน SET แกว่งตัว 1,595 - 1,610 จุด แม้ดัชนีจะได้แรงหนุนจาก ECB ปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.75% ตามคาดและส่งสัญญาณชะลอการขึ้นดอกเบี้ย รวมถึง GDP Q3/22 สหรัฐขยายตัวมากกว่าคาดสะท้อนว่าเศรษฐกิจสหรัฐสามารถรับมือการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ FED ได้ซึ่งเป็นบวกต่อทิศทางการลงทุน อย่างไรก็ตามความผันผวนของการประกาศงบ Q3/22 และแรงขายตามสัญญาณเทคนิคจะกดดันให้ดัชนีสลับอ่อนตัวลง

 

กลยุทธ์การลงทุน: Selective Buy

  หุ้นที่คาด 3Q22 เติบโต BDMS BH CPF TU GFPT BANPU EPG BEM BTS WHA 

  AOT CENTEL ERW BA AAV SPA SISB CPN CRC อานิสงส์การเปิดประเทศ

  PTTEP  BANPU  ราคาน้ำมันดิบ + ถ่านหินทรงตัวระดับสูง

 

หุ้นแนะนำวันนี้

    IVL (ปิด 42 ซื้อ /เป้า 60 บาท) ได้ Sentiment บวกต้นทุนก๊าซและค่าไฟฟ้าของธุรกิจในยุโรปลดลงล่าสุด ราคาก๊าซธรรมชาติในสหรัฐลดลงแตะระดับ 5.8$/MMBtu (MTD-17.8%), ขณะที่ราคาก๊าชธรรมชาติในยุโรป (TTF Gas) ลดลงสู่ระดับ 107 ยูโร/MWh (MTD-48%)

    ASK (ปิด 33.25 ซื้อ /เป้า BB Consensus 49 บาท) คาดกำไรสุทธิ 3Q22 เพิ่มขึ้นทำ All time high จากสินเชื่อที่ขยายตัวและ ยังมีแนวโน้มโตต่อเนื่องตามยอดขายรถบรรทุกที่เพิ่มขึ้น ขณะที่วันนี้ได้ Sentiment บวกจาก Bond yield ที่ลดลง 

 

 

 

บทวิเคราะห์วันนี้

AMATA (ปิด 19.6 ซื้อ /เป้า 24.5), Thailand Strategy

 

ประเด็นสำคัญวันนี้

  (-) ECB มีมติขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ตามคาด: ECB มีมติให้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.75% จาก 1.25% เป็น 2% และเป็นไปตามที่เราและตลาดคาดไว้โดยมีเป้าหมายเพื่อควบคุมหรือกดดันอัตราเงินเฟ้อให้ลดลงหลังจากที่ปัจจุบันอัตราเงินเฟ้อของยูโรโซนพุ่งแตะระดับ 10.9% 

  (+) GDP ไตรมาส 3/22 ของสหรัฐพลิกเป็นบวกช่วยคลายกังวล ศก.ถดถอย: สหรัฐประกาศ GDP ไตรมาส 3/22 พลิกเป็นขยายตัว 2.6% เทียบกับไตรมาส 2/22 หดตัว 0.6% และ ไตรมาส 1/22 หดตัว 1.6% และสูงกว่าที่ตลาดคาดว่าจะขยายตัว 2.4% 

  (+/-) คืนนี้ติดตามตัวเลข PCE Price Index จับสัญญาณเงินเฟ้อของสหรัฐ: เบื้องต้น Consensus คาด Headline PCE Price Index จะลดลงเป็น 6.1% จาก 6.2% ในเดือน ส.ค. แต่ Core PCE Price Index ซึ่งเฟดใช้พิจารณาในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 5.2% จาก 4.9%