CHG - กำไรจะลดลงต่อเนื่องใน 3Q (26 ต.ค. 2565)

CHG - กำไรจะลดลงต่อเนื่องใน 3Q (26 ต.ค. 2565)

เราคาดกำไรธุรกิจหลัก 474 ล้านบาทใน 3Q22F ลดลง 70% yoy และ 46% qoq เพราะรายได้จากบริการที่เกี่ยวกับ COVID ลดลงตามจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ที่ลดลง และการปรับลดราคาเบิกจ่าย

ซึ่งจะส่งผลให้กำไรจากธุรกิจหลักในงวด 9M อยู่ที่ 2.7 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 13% yoy และคิดเป็น 88% ของประมาณการกำไรปี FY22F ของเรา ทั้งนี้ เนื่องจากผลประกอบการยังอ่อนแอ เราคงคำแนะนำถือ CHG

 

คาดกำไรธุรกิจหลักจะลดลง 70% yoy และ 46% qoq ใน 3Q...

เราคาดกำไรธุรกิจหลัก 474 ล้านบาทใน 3Q22F ลดลงจากกำไรสูงสุดใน 4Q21 ซึ่งจะทำให้กำไรธุรกิจหลักในงวด 9M อยู่ที่ 2.7 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 13% yoy และคิดเป็น 88% ของประมาณการกำไรปี FY22F ทั้งนี้  CHG กำหนดจะส่งงบในวันที่ 11 พฤศจิกายน

 

 

 

… เนื่องจากรายได้โควิดลดลง …

เราคาดรายได้รวมจะลดลง 50% yoy และ 22% qoq เหลือ 2.2 พันล้านบาทใน 3Q22F เนื่องจากรายได้จากบริการที่ไม่เกี่ยวกับ COVID (หลักๆ มาจาก RSV, ไข้หวัดใหญ่) เพิ่มขึ้น 20% qoq เป็น 2 พันล้านบาท ไม่สามารถชดเชยรายได้โควิดที่ลดลงถึง 80% เหลือเพียง 230 ล้านบาท เนื่องจาก i) จำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ทั้งประเทศที่ลดลงถึง 88% yoy และ 82% qoq เหลือ 158,394 รายใน 3Q ii) จำนวนผู้ป่วยที่เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล, ผู้ป่วยที่กักตัวที่บ้าน และโรงพยาบาลสนามลดลงอย่างมากถึง 91% yoy และ 78% qoq เหลือเพียง 45,377 รายเนื่องจากอาการไม่รุนแรง iii) จำนวนการตรวจโควิดลดลงถึง 87% yoy และ 70% qoq เหลือเพียง 6 แสนราย iv) สปสช. และ ประกันสังคม ทยอยลดอัตราการเบิกจ่ายค่ารักษาลง และยกเลิกการจ่ายค่ารักษาตัวแบบ hospital โรงพยาบาลสนาม และการกักตัวที่บ้านสำหรับผู้ป่วยกลุ่มสีเขียว เหลือเพียงโครงการเจอ-จ่าย-จบซึ่งโรงพยาบาลจะได้รับเพียง 1,300 บาท/ราย ซึ่งต่ำกว่าใน 2Q ครึ่งหนึ่ง

 

… และอัตรากำไรขั้นต้นลดลง

เนื่องจากการประหยัดต่อขนาดลดลง เราคาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นจะลดลง 9.2% qoq เหลือ 35% และคาดสัดส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อรายได้จะเพิ่มขึ้นเป็น 10.3% จาก 8.0% ใน 2Q