Sideways Up ซื้อเก็งกำไร PTTEP GLOBAL KKP

Sideways Up ซื้อเก็งกำไร PTTEP GLOBAL KKP

คาดดัชนีฯ Sideways Up แนวต้าน 1,597/1,605 จุด แนวรับ 1,580/1,573 จุด แนะนำ ซื้อเก็งกำไร PTTEP GLOBAL KKP ทางเทคนิค ยังคงอยู่ในรูปแบบขาลงแบบ Double Bottom มีแนวรับแรกที่ 1,550 จุด แต่หากดัชนีฯ ทะลุ 1,600 จุด ขึ้นไปได้ เพื่อฟอร์มตัวเป็นรูปแบบ ขาขึ้น Triple Top

โมเมนตัมบวก คือ การกลับมาฟื้นตัวของตลาดหุ้นโลกช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่การรีบาวนด์คาดมีจำกัด เพราะความกังวลต่อผลประชุมเฟดสัปดาห์หน้า ยังคงส่งสัญญาณเร่งปรับขึ้นดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่อง เพื่อสกัดเงินเฟ้อ หากรายงาน US 3Q22E GDP ปลายสัปดาห์นี้ พลิกจากติดลบ มาเป็นบวก 2-2.9% QoQ  ไฮไลท์วันนี้ คือ 3Q22E Earnings Results: BIOGEN, GM, ALPHABET, COCA-COLA, MOODY'S, 3M, MICROSOFT และ VISA; Thailand: ดุลการค้าเดือน ก.ย. คาดขาดดุลลดลง -USD2.2bn. ส่งออก 4.3% YoY นำเข้า +18.2% YoY (Vs เดือน ส.ค. -USD4.2bn. ส่งออก +7.5% YoY นำเข้า +21.3% YoY) ;US: ราคาบ้านเดือน ส.ค. -0.3% MoM (Vs เดือน ก.ค. -0.6% MoM), CB Consumer Confidence เดือน ต.ค. คาดลดลง 106 (Vs เดือน ก.ย. 108); EU-G7 ประชุมหารือเรื่องยูเครน

 

กลยุทธ์การลงทุน แนะนำ

+ KTX Portfolio: พอร์ต Big Cap แนะนำ GULF, CRC, AWC, CK, TCAP, CENTEL, BH, BEM, AOT, BBL, EA, CPN, MINT, KTB และ BDMS (ซื้อ KKP)

+ Daily Recommendations: PTTEP (เก็งกำไรระยะสั้นรับอานิสงส์ของราคาน้ำมันที่ขยับขึ้น) GLOBAL (กำไร 3Q22E มีแนวโน้มเติบโต YoY) KKP (กำไร 3Q22E ออกมาดีกว่าคาด แล้วมีโอกาสเติบโตต่อเนื่องในช่วงที่เหลือของปี)

+ หุ้นที่ได้ประโยชน์จากการซ่อมแซมบ้านเรือนหลังน้ำท่วม: GLOBAL HMPRO DOHOME

+ หุ้นได้ประโยชน์จากจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น (CENTEL ERW AOT BAFS AAV SPA)

 

 

ปัจจัยบวก

+ Fund Flow: นักลงทุนต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิหุ้นไทยเป็นสัปดาห์แรก +2 พันล้านบาท หลังจากขายต่อเนื่อง 7 สัปดาห์สะสม –24,899 ล้านบาท เช่นเดียวกันตลาดอนุพันธ์ ต่างชาติกลับมาเปิด Long SET50 Index Futures เป็นสัปดาห์แรก ด้วยปริมาณสูงถึง +75,342 สัญญา หลังจากเปิด Short สะสม 5 สัปดาห์ สูงถึง -241,504 สัญญา

+ Fed: ประธานเฟดบางท่านเริ่มส่งสัญญาณการชะลอการปรับขึ้นดอกเบี้ย เช่น นาง แมรี ดาลี (Non-Voter) ประธานเฟด สาขาซานฟรานซิสโก ซึ่งมีความเห็นว่า ควรชะลอการปรับขึ้นดอกเบี้ย เพื่อลดผลกระทบต่อเศรษฐกิจ และนางชาร์ลส์ อีแวนส์ (Non-Voter) ประธานเฟด สาขาชิคาโก ระบุว่าเฟดควรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสู่เหนือระดับ 4.5% เพียงเล็กน้อยในต้นปีหน้า และคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับดังกล่าวหลังจากนั้น

 

ประเด็นสำคัญ

- US: 3Q22E Earnings Results: BIOGEN, GM, ALPHABET, COCA-COLA, MOODY'S, 3M, MICROSOFT และ VISA และสุนทรพจน์ประธานเฟด Williams (Voter)

- Thailand: DELTA, HMPRO, PTTEP และ SCGP

- Thailand: ดุลการค้าเดือน ก.ย. คาดขาดดุลลดลง -USD2.2bn. ส่งออก 4.3% YoY นำเข้า +18.2% YoY (Vs เดือน ส.ค. -USD4.2bn. ส่งออก +7.5% YoY นำเข้า +21.3% YoY)

- US: ราคาบ้านเดือน ส.ค. คาด -0.3% MoM (Vs เดือน ก.ค. -0.6% MoM) และ CB Consumer Confidence เดือน ต.ค. คาดลดลง 106 (Vs เดือน ก.ย. 108); EU-G7 ประชุมหารือเรื่องยูเครน

 

 

 

 

 

Global Market Summary: วันทำการที่ผ่านมา

- ตลาดหุ้นไทยปิดลบเล็กน้อย: (21 ต.ค. 2022) ตลาดหุ้นไทยเคลื่อนไหวตลอดการซื้อขายในลักษณะ Sideways Down กรอบ 1,597.93-1,588.01 จุด ก่อนปิดตลาดที่ 1,591.32 จุด -1.41 จุด วอลุ่มซื้อขาย 5.02 หมื่นล้านบาท นำลงโดยกลุ่มเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร -0.92% เงินทุนและหลักทรัพย์ -0.88% ธนาคาร -0.64% พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ -0.4% หุ้นบวก >4% PTC CIVIL SMK ARIP SK TPCH PPM หุ้นลบ >4% PCC STARK SUPER UMS MEGA AMARC TSR ABM

+ ตลาดหุ้นสหรัฐฯ และยุโรปปิดบวก: (24 ต.ค. 2022) DJIA +1.34% S&P500 +1.19% NASDAQ +0.86% ปรับตัวขึ้นต่อเนื่องจากสัปดาห์ที่แล้ว หลังมีรายงานว่ากิจกรรมทางธุรกิจของสหรัฐฯ ชะลอตัวลงในเดือน ต.ค. ซึ่งบ่งชี้ว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเชิงรุกของเฟดเริ่มได้ผล โดยหุ้น 9 ใน 11 กลุ่มในดัชนี S&P500 ปิดในแดนบวก นำโดยดัชนีหุ้นกลุ่มเฮลธ์แคร์ (หุ้นอิไล ลิลลี่ +2.09%, หุ้นแอ๊บบอต ลาบอแรตอรี่ +3.41%, หุ้นยูไนเต็ดเฮลธ์ +1.44% และหุ้นจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน +1.40%) ส่วนหุ้นยุโรป CAC40 +1.59% DAX +1.58% FTSE +0.64% โดยได้แรงหนุนจากความหวังว่าเฟดอาจชะลออัตราการปรับขึ้นดอกเบี้ย ขณะที่นักลงทุนขานรับชัยชนะของนายริชิ ซูนักในการชิงชัยตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอังกฤษคนใหม่ นำบวกโดยหุ้นกลุ่มสาธารณูปโภค, กลุ่มสื่อ รวมถึงกลุ่มท่องเที่ยว

+ น้ำมันดิบโลกและทองคำปิดลบ: (24 ต.ค. 2022) WTI -47 เซนต์ ปิดที่ USD84.58/บาร์เรล Brent -24 เซนต์ ปิดที่ USD93.26/บาร์เรล หลังจากจีนเปิดเผยยอดนำเข้าน้ำมันดิบชะลอตัวลง อย่างไรก็ดี สัญญาน้ำมันดิบขยับลงเพียงเล็กน้อย เนื่องจากนักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับการเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด ส่วนราคาทองคำ -USD2.2 ปิดที่ USD1,654.1/ออนซ์ โดยถูกกดดันจากการพุ่งขึ้นของ US Bond Yield 10 ปี ซึ่งพุ่งขึ้นแตะระดับ 4.22%

 

ประเด็นสำคัญ

+ China: จีน รายงานผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) 3Q22 ขยายตัว 3.9% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งแข็งแกร่งกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะขยายตัวราว 3.3%-3.4% และขยายได้ดีกว่าในไตรมาส 2 ที่มีการขยายตัวเพียง 0.4% ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เศรษฐกิจจีนได้รับผลกระทบอย่างหนัก จากมาตรการล็อกดาวน์ เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของ COVID-19

- China: จีน รายงานในยอดส่งออกเดือน ก.ย. ปรับตัวขึ้น 5.7% เมื่อเทียบรายปี ซึ่งชะลอตัวลงจากเดือน ส.ค. ที่มีการขยายตัว 7.1% เนื่องจากอุปสงค์ที่ซบเซาในตลาดต่างประเทศยังคงสร้างแรงกดดันต่อเศรษฐกิจจีน ซึ่งมีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก อย่างไรก็ดี ยอดส่งออกเดือน ก.ย. ของจีนขยายตัวได้ดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 4%

- US: กระทรวงการคลังสหรัฐฯ เปิดเผยว่า ยอดขาดดุลงบประมาณของสหรัฐฯ ในปี 2022E ลดลงครึ่งหนึ่งจากปีก่อนหน้าเหลือ 1.38 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เนื่องจากค่าใช้จ่ายในการรับมือกับการแพร่ระบาดของ COVID-19 ลดน้อยลง และรัฐบาลมีรายได้สูงเป็นประวัติการณ์ ขณะที่เศรษฐกิจกระเตื้องขึ้น

- UK: มูดี้ส์ อิสเวสเตอร์ส เซอร์วิส ประกาศลดแนวโน้มความน่าเชื่อถือของอังกฤษลงสู่ "เชิงลบ" จาก "มีเสถียรภาพ" เนื่องจากอังกฤษกำลังเผชิญกับภาวะไร้เสถียรภาพด้านการเมืองและอัตราเงินเฟ้อที่สูงมาก ทั้งนี้ มูดี้ส์ยังคงอันดับความน่าเชื่อถือของอังกฤษไว้ที่ Aa3 แต่ได้ปรับลดแนวโน้มความน่าเชื่อถือลงสู่ "เชิงลบ" เนื่องจากสถานการณ์การเมืองในอังกฤษเผชิญกับความไม่แน่นอนและไม่อาจคาดเดาได้ นอกจากนี้ แนวโน้มเศรษฐกิจของอังกฤษยังอ่อนแอ และ เงินเฟ้อก็อยู่ในระดับที่สูงมาก

 

กลยุทธ์การลงทุน แนะนำ Trading Buy (โดยมีจุดขายตัดขาดทุน 3%)

หุ้นแนะนำรายสัปดาห์: WHA BEM HMPRO

หุ้นแนะนำเก็งกำไร: PTTEP GLOBAL KKP

Derivatives: แนะรอเปิด Long S50Z22 เมื่อย่อตัว