ภัยที่แอบแฝงกับการมาของ Metavers

การมาถึงของ cryptocurrency ทำให้คนมีอิสระในการจับจ่ายใช้สอยโดยไร้ตัวกลาง และก็ได้พัฒนาอย่างต่อเนื่องจนถึง การมีความคิดที่พยายามจะสร้างสังคมและโลกของเกมส์ขึ้นมาโดยใช้ cryptocurrency เป็นศูนย์กลางของระบบเศรษฐกิจ เช่น Sandbox, Gala เป็นต้น

   ต่อมาระบบเหล่านี้ก็ถูกเรียกว่า Metaverse อีกทีหนึ่ง และหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้ Metaverse ถือเป็นคำที่โด่งดังมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เพราะยักษ์ใหญ่อย่าง Facebook ลงมาร่วมแข่งขัน

        และประกาศตัวอย่างชัดเจนถึงความจริงจังกับการสร้างโลกเสมือนที่อาจจะถูกใช้เป็นช่องทางการสื่อสารและสังคมใหม่ในอนาคตอันใกล้  Facebook จริงจังถึงขั้นเปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น Meta เลยทีเดียว

          ไม่เพียงเท่านี้ เหล่าบริษัทเอกชนที่เห็นถึงโอกาสการทำธุรกิจในโลก Metaverse ก็รีบเข้าไปจับจองพื้นที่ในโลก Metaverse นั้นๆก่อนใคร 

  ยกตัวอย่างโลก Metaverse ยอดนิยมอย่าง Sandbox ก็เนื้อหอมมาก ได้มีบริษัทเอกชนมากมายได้เข้าไปจับจองพื้นที่เพื่อสร้าง land mark กันก่อน ไม่ว่าจะเป็น HSBC, Standard Chartered Bank, DBS Bank, PwC, JP Morgan, Samsung หรือแม้กระทั่ง SCB 10X ก็เข้าไปสร้างสำนักงานใหญ่ไว้ใน Sandbox แล้วเช่นเดียวกัน

         นั่นทำให้เราเห็นภาพได้ชัดเจนว่าโลก Metaverse เหล่านี้จะมีเม็ดเงินมูลค่ามหาศาลแค่ไหน ที่จะถูกนำมาลงทุนในระบบเหล่านี้ในอนาคต

          การสร้างโลกMetaverseด้วยมือตนเอง  

         Metaverse ชื่อดังอย่าง Sandbox (https://www.sandbox.game) เปิดให้ผู้ใช้งานเลือกได้ว่าตัวเองนั้นอยากจะเป็นผู้เล่นหรือผู้สร้าง ขึ้นอยู่กับความสามารถและความชอบส่วนบุคคล 

หากใครที่มีความสามารถทางด้าน graphic 3D ก็สามารถที่จะเข้าไปสร้างตัวละคร 3D, อุปกรณ์แต่งตัวละคร, ความสามารถของตัวละคร, ภาพ, และอื่นๆอีกมากมายในโลกของ Sandbox ได้เลย

          ผู้สร้างสามารถที่จะนำสิ่งตัวเองสร้างหรือคิดค้นเหล่านั้นเอามาใช้ในโลกของ Metaverse ก็ได้ หรือจะขายให้กับผู้เล่นอื่น ก็สามารถทำได้เช่นเดียวกัน ทำให้เกิดอาชีพมากมายในโลกของ Sandbox ซึ่งก็ไม่ใช่มีเพียงแค่ Sandbox เท่านั้นที่ทำในรูปแบบนี้ แต่ Metaverse อื่นๆ ก็พยายามที่จะสร้างสังคมของโลกเสมือนด้วยวิธีนี้เช่นเดียวกัน

         แต่แน่นอนว่าเมื่อมีผลกำไรหรือระบบเศรษฐกิจมาเกี่ยวข้อง ก็มีคนพยายามที่จะแสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบเช่นเดียวกัน ซึ่งการแสวงหาผลประโยชน์เหล่านี้ก็จะเป็นการอาศัยการโจมตีต่างๆ เป็นไปได้ทั้ง 2 ส่วนนั่น คือผู้ใช้งาน platform และ platform นั่นเอง 

          แต่เนื่องด้วยจุดที่เปราะบาง  มีโอกาสโจมตีได้สำเร็จมากกว่า และใช้ความชำนาญน้อยกว่านั่นคือ ‘คนทั่วไป’ ทำให้คนทั่วไปกลายเป็นเป้าหมายของผู้โจมตี (hacker) และถูกโจมตีมากขึ้นไปโดยปริยายนั่นเอง

      การหลอกล่อเหยื่อของเหล่าผู้ไม่หวังดี

         เมื่อ ‘Metaverse’ ถูกพูดถึงอย่างหนาหูและแพร่หลาย ผู้คนทั่วไปก็เริ่มที่จะค้นหาและพยายามที่จะก้าวเข้าสู่โลก Metamerse ก่อนผู้อื่น เพื่อจะไปแสวงหาผลกำไรมากกว่าคนอื่น 

           และจากความ hype ในเรื่อง Metaverse แบบนี้ hacker จึงนำจุดสนใจและผลประโยชน์เหล่านั้นมาใช้เป็นเครื่องมือหลอกล่อผู้ใช้งานทั่วไปแทน

          ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนที่ได้ผลตอบแทนสูง, การได้สิทธิ์ในการเข้าสู่โลก Metaverse ก่อนคนอื่น, การได้สิทธิ์ซื้อตัวละคร collection ต่างๆก่อนคนอื่น, การได้สิทธิ์เป็นเจ้าของ NFT สุด exclusive และอื่นๆอีกมากมาย 

         โดยผู้โจมตีจะพยายามติดต่อบุคคลทั่วไปผ่านช่องทางต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น email , Messenger ต่างๆ เช่น Twitter, Facebook Group, Telegram เป็นต้น

        อีกทั้งผู้โจมตีมักจะพยายามติดต่อหรือเข้าถึงกลุ่มคนที่สนใจใน cryptocurrency โดยเฉพาะ ผ่านการเข้าร่วมในกลุ่ม community ต่างๆ บน platform ยอดนิยมอย่าง Discord Application ด้วย

        Hacker จะพยายามส่ง link ให้ผู้ใช้งานเพื่อหลอกล่อให้เข้าไปใช้งาน เมื่อเข้าไปแล้วก็จะพยายามโจมตีในรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น การหลอกให้กรอกข้อมูล, การหลอกให้กรอก seed ของ wallet, การหลอกให้โอนเงิน cryptocurrency และอื่นๆอีกมากมาย 

         ดังนั้นผู้ใช้งานจำเป็นต้องระมัดระวังในการเข้าใช้งานเสมอ เพื่อให้ไม่ตกเป็นเหยื่อจากการหลอกลวงแบบนี้

         แม้ Metaverse จะเริ่มถูกผนวกเข้ากับโลกความเป็นจริงมากขึ้น และหลายๆคนก็อยากที่จะเข้าไปในโลกใหม่เหล่านั้นกันแล้ว เพื่ออิสระในเรื่องการดำเนินชีวิต, สังคมใหม่ๆของคนที่ชอบในเรื่องเดียวกัน หรืออยากสรรค์สร้างโลกเหล่านั้นด้วยตนเองก็ตาม

          แต่อย่าลืมถึงความระมัดระวังในเรื่องการรับข้อมูลข่าวสารและการ click ลิงค์ใดๆเสมอ เพื่อที่จะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อของผู้ไม่หวังดีที่อาจจะแอบแฝงตัวเข้ามาด้วยนั่นเอง