OSP - ไม่เป็นไปตามแผน (วันที่ 18 ตุลาคม 2565)

OSP - ไม่เป็นไปตามแผน (วันที่ 18 ตุลาคม 2565)

เราคาดกำไร 3Q22F ลดลง 43% yoy และ 45% qoq เป็น 331 ลบ. เป็นผลจากปริมาณขายของเครื่องดื่มชูกำลังลดลงและต้นทุนพลังงานสูงขึ้น เราคาดธุรกิจเครื่องดื่มชูกำลังในประเทศจะมีการแข่งขันที่รุนแรงขึ้น

คงคำแนะนำ ถือ ปรับราคาเป้าหมายลงเป็น 26.00 บาท (จาก 34.25 บาท) โดยวิธี DCF-valuation

 

คาดกำไร 3Q ลดลงตามปริมาณขายเครื่องดื่มชูกำลังและต้นทุนที่สูงขึ้น

เราคาดรายได้ 3Q22F ทรงตัว yoy ที่ 6.15 พันลบ. รายได้ขายจากธุรกิจเครื่องดื่มชูกำลัง (Energy drink) จะลดลงตามปริมาณขาย โดยส่วนแบ่งการตลาดลดลงจาก 54% เป็น 48% แต่รายได้ที่ลดลงจากเครื่องดื่มชูกำลังจะมีรายได้จากธุรกิจเครื่องใช้ส่วนบุคคล (Personal care) ช่วยชดเชยหลังการเปิดเมือง ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นใน 3Q22F มีแนวโน้มอ่อนแอลงเป็น 30.0% จาก 33.5% ใน 3Q21 และ 31.2% ใน 2Q22 เนื่องจาก (1) ต้นทุนพลังงานที่สูงขึ้น และ (2) ประสิทธิภาพการผลิตของโรงงานขวดแก้วลดลงตามปริมาณการผลิตชะลอตัวลง ด้านสัดส่วน SG&A ต่อยอดขายมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจาก 23.0% ใน 2Q22 เป็น 25.5% ใน 3Q22F เนื่องจาก (1) ต้นทุนการตลาดสูงขึ้น และ (2) ขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยน 63 ลบ. เราคาดกำไร 3Q22F ลดลง 43% yoy และ 45% qoq เป็น 331 ลบ.  

 

 

 

 

 

 

ต้องการเวลาสำหรับการเปลี่ยนผ่านในตลาดเครื่องดื่มชูกำลังในประเทศ

แม้ปริมาณขายจะลดลง แต่บริษัทคงราคาขายเครื่องดื่มชูกำลังไว้ที่ 12 บาทต่อขวด และใช้กลยุทธ์ในการเปลี่ยนเครื่องดื่มชูกำลังไปยังตลาดพรีเมียมคล้ายกับในตลาดต่างประเทศ อย่างไรก็ตาม กลยุทธ์นี้อาจใช้เวลานานกว่าที่คาดกว่าจะเห็นผลที่ชัดเจน เนื่องจากคู่แข่งคู่แข่งไม่ได้ปรับราคาตาม

 

คงคำแนะนำ ถือ และปรับ TP เป็น 26.00 บาท (จาก 34.25 บาท)

เราปรับคาดการณ์กำไร FY22F และ FY23F ลง 25% และ 19% เป็น 2.37 พันลบ. และ 3.15 พันลบ. ตามลำดับ หลังปรับลด (1) สมมติฐานการเติบโตของรายได้ และ (2) สมมติฐานอัตรากำไรขั้นต้นลงเพื่อสะท้อนปริมาณขายที่ลดลงและต้นทุนพลังงานที่สูงขึ้น ราคาเป้าหมายของเราอ้างอิงวิธี DCF-valuation และใช้ WACC เท่ากับ 8.5% และ terminal growth rate เท่ากับ 2%