Sideways Down ซื้อเก็งกำไร SIRI BEM CK (11 ต.ค. 2565)

Sideways Down ซื้อเก็งกำไร SIRI BEM CK (11 ต.ค. 2565)

คาดดัชนีฯ Sideways Down แนวต้าน 1,580/1,588 จุด แนวรับ 1,562/1,556 จุด แนะนำ ซื้อเก็งกำไร SIRI BEM CK ทางเทคนิค อยู่ในลักษณะขาลงรูปแบบ Rounding Top โดยมี แนวรับสำคัญที่ 1,556 จุด

ส่วนโมเมนตัมลบ คือ นักลงทุนชะลอการถือครองหุ้นก่อนช่วงเทศกาลหยุดยาว เพื่อลดความเสี่ยงตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ ซึ่งจะประกาศวันพฤหัสฯนี้ ไฮไลท์วันนี้ คือ IMF ประกาศตัวเลขคาดการณ์เติบโตเศรษฐกิจโลก คาดปรับลดลงรอบใหม่ หลังจากเพิ่งปรับลดไปเมื่อเดือน ก.ค. ที่ผ่านมา (-การส่งออก), Japan เริ่มเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติแบบไม่มีวีซ่าเป็นวันแรก (+กลุ่มสายการบิน กลุ่มโรงกลั่น AOT)

 

กลยุทธ์การลงทุน แนะนำ

+ KTX Portfolio: พอร์ต Big Cap แนะนำ GULF CRC AWC TCAP CENTEL BH BEM AOT EA PTG WHA CPN KTB BDMS (ขาย BBL)

+ Daily Recommendations: SIRI (คาดการณ์ 3Q22E Presale สูงสุดในรอบ 4 ปีย้อนหลัง เมื่อคิดเป็นรายไตรมาส) BEM (จำนวนผู้โดยสารรถไฟฟ้าของเดือน ก.ย. 2022 อยู่ที่ 3.4 แสนคนต่อวัน +244% YoY และ +8% MoM) CK (คาดจะมีการประมูลงานขนาดใหญ่เพิ่มขึ้น Backlog จะสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ)

+ หุ้นได้ประโยชน์จาก Bond Yields ขาขึ้น: BBL TTB TLI BLA

+ หุ้นได้ประโยชน์จากราคาน้ามันที่ฟื้นตัว: PTTEP ESSO SPRC

+ หุ้นที่ได้ประโยชน์จากการซ่อมแซมบ้านเรือนหลังน้ำท่วม: GLOBAL HMPRO DOHOME

+ หุ้นได้ประโยชน์จากจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น: CENTEL ERW AOT BAFS AAV SPA

 

ปัจจัยลบ

- IMF: รายงานปรับปรุงเศรษฐกิจโลกวันนี้ คาดปรับลดเป้าหมายการเติบโตเศรษฐกิจโลกปี 2022-23E ลงอีกรอบ หลังจากเพิ่งปรับลดไปเมื่อเดือน ก.ค. 2022

- US: เงินเฟ้อสหรัฐฯ มีโอกาสลดลงได้ช้ากว่าที่คาด หลังจากอัตราการว่างงานลดลงจาก 3.7% เป็น 3.5% ส่งผลให้ตลาดยังคงกังวลว่าเฟดจะเร่งขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย สะท้อนจาก Fed Fund Futures ซึ่งให้น้ำหนัก 78.4% ในการปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.75% สำหรับการประชุมเดือน พ.ย.

- Thailand: เนื่องจากวันที่ 13–14 ต.ค. เป็นวันหยุดทำการของตลาดหุ้นไทย ทำให้มีแรงขายลดความเสี่ยงออกมา ก่อนช่วงวันหยุดยาว

 

 

ประเด็นสำคัญ

- IMF: ประกาศตัวเลขคาดการณ์เติบโตเศรษฐกิจโลก (ล่าสุด ณ เดือน ก.ค. คาดเศรษฐกิจโลกปี 2022-23E เติบโต 3.2% และ 2.9% โดยประเทศพัฒนาแล้วเติบโต 2.5% และ 1.4% ส่วนประเทศกำลังพัฒนา และกลุ่มประเทศเกิดใหม่ เติบโต 3.6% และ 3.9% ตามลำดับ)

- Japan: เริ่มเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติแบบไม่มีวีซ่าเป็นวันแรก

 

Global Market Summary: วันทำการที่ผ่านมา

- ตลาดหุ้นไทยปิดลบต่อเนื่อง: ตลาดหุ้นไทยในช่วงเช้าปรับตัวลดลงในลักษณะ Zig-Zag Down กรอบ 1,573-1,563 จุด ก่อนรีบาวนด์ขึ้นในภาคบ่ายมาปิดตลาดที่ 1,570.57 จุด -9.09 จุด วอลุ่มซื้อขาย 5.3 หมื่นล้านบาท นำลงโดยกลุ่มเงินทุนและหลักทรัพย์ -3.41% สื่อและสิ่งพิมพ์ -2.62% บรรจุภัณฑ์ -2.14% วัสดุก่อสร้าง -1.65% อาหารและเครื่องดื่ม -0.98% หุ้นบวก >4% MAKRO TKT TMC UMI TC DPAINT CPANEL หุ้นลบ >4% TIDLOR BAM JMT MTC BEC SABUY BCPG NCH CHAYO RBF

- ราคาน้ำมันดิบและทองคำปิดลบ: WTI -USD1.51 ปิดที่ USD91.13/บาร์เรล Brent -USD1.73 ปิดที่ USD96.19/บาร์เรล โดยตลาดถูกกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับอุปสงค์น้ำมันโลกที่อาจชะลอตัว ตามการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน หลัง Caixin รายงานภาคบริการเดือน ก.ย. เข้าสู่ภาวะหดตัว 49.3 (Vs เดือน ส.ค. 55) รวมทั้งเศรษฐกิจโลกที่เริ่มส่งสัญญาณภาวะเศรษฐกิจถดถอย ส่วนตลาดทองคำปิดลบ -USD34.10 ปิดที่ USD1,675.20/ออนซ์ เนื่องจากนักลงทุนยังคงกังวลว่าตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรสูงกว่าคาดของสหรัฐฯ จะผลักดันให้เฟดเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และการแข็งค่าของสกุลเงิน USD +0.31% แตะ 113.14

 

- ตลาดหุ้นสหรัฐฯ และตลาดหุ้นยุโรปปิดลบ: DJIA -0.32% S&P500 -0.75% NASDAQ -1.04% เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบจากการเร่งปรับขึ้นดอกเบี้ยของเฟด และผลกระทบจากรัฐบาลสหรัฐฯ ออกมาตรการควบคุมการส่งออกชิปขั้นสูงให้กับจีน ส่งผลหุ้นกลุ่มผู้ผลิตชิปร่วงลงอย่างหนัก นำโดยหุ้น ควอลคอมม์ -5.22%, หุ้นอินวิเดีย -3.36%, หุ้นอินเทล -2.02% และหุ้นเอเอ็มดี -1.08% ฉุดดัชนี NASDAQ ปิดที่ระดับต่ำสุดในรอบกว่า 2 ปี ส่วนตลาดหุ้นยุโรปปิดลบต่อเนื่อง CAC40 -0.45% DAX 0% FTSE -0.45% นำลงโดยกลุ่มเทคโนโลยี กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ เป็นผลจากแรงขาย เพื่อลดความเสี่ยงก่อนประกาศผลประกอบการของบจ. ในสัปดาห์นี้ และการกังวลต่อปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ระหว่างรัสเซียและยูเครนที่ปะทุขึ้นรอบใหม่

 

ประเด็นสำคัญ

- US: เจพีมอร์แกน เชส กล่าวว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯ และเศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มเข้าสู่ภาวะถดถอยในกลางปีหน้า โดยได้รับผลกระทบจากปัจจัยหลายประการ อาทิ การพุ่งขึ้นของเงินเฟ้อ, การดีดตัวของอัตราดอกเบี้ย และการที่รัสเซียส่งกำลังทหารบุกโจมตียูเครน จะทำให้เศรษฐกิจสหรัฐฯ และเศรษฐกิจโลกเข้าสู่ภาวะถดถอยในช่วง 6-9 เดือนต่อจากนี้ ขณะที่เศรษฐกิจยุโรปได้ถดถอยแล้ว

- EU: สถาบันวิจัย Sentix ของเยอรมนี เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของนักลงทุนในยูโรโซนปรับตัวลงเป็นเดือนที่ 3 ในเดือน ต.ค. แตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือน พ.ค. 2020 และบ่งชี้คาดการณ์การเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย

- IMF: จะเปิดเผยรายงานแนวโน้มเศรษฐกิจโลกในคืนนี้ คาดว่าจะมีการปรับลดตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปี 2023 ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อ, การแพร่ระบาดของ COVID-19, การที่รัสเซียบุกโจมตียูเครน และผลกระทบจากภาวะโลกร้อนต่อเศรษฐกิจในทุกทวีป หลังจากในเดือน ก.ค. ได้ปรับลดตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปี 2022-23 สู่ระดับ 3.2% และ 2.9% ตามลำดับ

+ Thailand: ดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวใน 3Q22 ดีขึ้นกว่าไตรมาสที่ผ่านมา ผลจากการเปิดประเทศเต็มรูปแบบ และเริ่มมีการใช้ Booster Shot ด้านการตลาด สำหรับ 4Q22E ผู้ประกอบการคาดว่าสถานการณ์ท่องเที่ยวจะดีขึ้นอีก และเชื่อมั่นว่าในปีนี้จะมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ 12 ล้านคน ก่อนขยับสู่ 30-40 ล้านคน ในปี 2023

กลยุทธ์การลงทุน แนะนำ Trading Buy (โดยมีจุดขายตัดขาดทุน 3%)

หุ้นแนะนำรายสัปดาห์: BBL BLA TIPH

หุ้นแนะนำเก็งกำไร: SIRI BEM CK

Derivatives: แนะเปิด Short S50Z22 เก็งกำไร