'รัสเซีย' ไฟเขียว อนุมัติใช้ 'คริปโท' ชำระเงินข้ามพรมแดน

'รัสเซีย' ไฟเขียว อนุมัติใช้  'คริปโท' ชำระเงินข้ามพรมแดน

ธนาคารแห่งรัสเซียและกระทรวงการคลังของประเทศรัสเซีย ไฟเขียว อนุมัติใช้ 'คริปโท' ชำระเงินข้ามพรมแดน เพื่อให้ชาวรัสเซียสามารถเข้าถึงกระเป๋าเงินดิจิทัลได้ จาก 'ปูติน' เคยลงนามในร่างกฎหมายห้ามสินทรัพย์ทางการเงินดิจิทัลเป็นการชำระเงิน ในปี 2563

เว็บไซต์ cointelegraph.com รายงานว่า ธนาคารแห่งรัสเซียและกระทรวงการคลังของประเทศ ได้บรรลุข้อตกลงในการอนุญาตให้มีการชำระเงินข้ามพรมแดนในด้วยคริปโทเคอร์เรนซี่ ตามรายงานเมื่อวันพฤหัสบดีจากหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น Kommersant ในประเทศรัสเซีย 

อเล็กซี่ มอยซีเยฟ (Alexei Moiseev) รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ฝ่ายรัฐบาลได้ตกลง ทั้งหมดกับธนาคารกลางในเรื่องกฎที่จะอนุญาตให้ผู้อยู่อาศัยใช้การชำระเงินข้ามพรมแดนด้วยสกุลเงินดิจิทัล  โดยมีรายงานว่าการเปลี่ยนแปลงนโยบายที่เสนอนั้นมีจุดมุ่งหมายเพื่อให้ชาวรัสเซียสามารถเข้าถึงกระเป๋าเงินดิจิทัลได้

“โดยทั่วไปจะอธิบายวิธีการได้มาซึ่งสกุลเงินดิจิทัล และวิธีที่สามารถหรือไม่สามารถทำได้ในการชำระเงินข้ามพรมแดน” มอยซีเยฟ ระบุ

สำนักข่าวของรัสเซียได้รายงานว่า ธนาคารกลางกำลังหารือเรื่องการชำระเงินข้ามพรมแดนด้วยคริปโทกับเจ้าหน้าที่ของรัฐ อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่า ธนาคารกลางรัสเซีย (Bank of Russia) คัดค้านการอนุญาตให้ศูนย์ซื้อขายคริปโทเคอร์เรนซี่ดำเนินการอย่างถูกต้องตามกฎหมาย และไม่ยอมรับ คริปโทเป็นเงินที่ถูกกฎหมาย

“ตอนนี้ผู้คนกำลังเปิดกระเป๋าเงินคริปโตนอกสหพันธรัฐรัสเซีย จำเป็นต้องทำเช่นนี้ในรัสเซียกับหน่วยงานที่ดูแลโดยธนาคารกลาง ซึ่งจะต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดเรื่องการต่อต้านการฟอกเงิน”

ในปี 2563 ประเทศรัสเซียได้ออกกฎหมายห้ามการใช้คริปโทรวมถึงบิตคอยน์สำหรับการชำระเงิน ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ยังได้ลงนามในร่างกฎหมายในเดือนก.ค. โดยห้ามสินทรัพย์ทางการเงินดิจิทัลเป็นการชำระเงิน

แต่ในเดือนพ.ค. เดนิส มันตูรอฟ (Denis Manturov ) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการค้า แนะนำให้รัสเซียจะทำให้การชำระเงินด้วย crypto ถูกกฎหมาย “ไม่ช้าก็เร็ว”

นับตั้งแต่รัสเซียบุกยูเครนในเดือนก.พ. ทั้งรัฐบาล , ธุรกิจ , และบุคคลบางกลุ่มภายในประเทศก็ตกเป็นเป้าหมายของการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจที่ครอบคลุม โดยเมื่อวันที่ 15 ก.ย.2565 กระทรวงการคลังสหรัฐฯได้เพิ่มบุคคล 22 คนและหน่วยงานที่ตั้งอยู่ในรัสเซีย 2 แห่งในรายการคว่ำบาตร โดยอ้างว่าพวกเขาได้ส่งเสริมวัตถุประสงค์ของรัฐบาลในการบุกยูเครน