บล.บัวหลวงแนะ ”ซื้อ” หุ้น DITTO รอบุ๊กกำไรส่วนเพิ่มคาร์บอนเครดิต 50% ต่อปี

บล.บัวหลวงแนะ ”ซื้อ” หุ้น DITTO รอบุ๊กกำไรส่วนเพิ่มคาร์บอนเครดิต 50% ต่อปี

บล.บัวหลวง แนะนำ “ซื้อ” หุ้น DITTO รับอานิสงส์โครงการปลูกป่าชายเลน 1.1 หมื่นไร่ จะสร้างกำไรจากคาร์บอนเครดิต 230 ล้านบาท ในปี 2526 cover ต้นทุนภายใน 3 ปี และจะสร้างกำไรส่วนเพิ่มได้อีกไม่ต่ำกว่าปีละ 50% ชี้กฎเหล็ก CBAM ของยุโรป และภาษีคาร์บอนของกรมสรรพสามิต ดันราคาพุ่ง

นภนต์ ใจแสน นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน บล.บัวหลวง ออกบทวิเคราะห์หุ้น บริษัทดิทโต้(ประเทศไทย) จำกัด(มหาชน) (DITTO) ฉบับลงวันที่ 16 ก.ย.2565 ภายหลังจาก DITTO แจ้งตลาดหลักทรัพย์ลงนามดำเนินการโครงการปลูกป่าชายเลนเพื่อประโยชน์จากคาร์บอนเครดิต กับกรมทรัพยากรฯ ซึ่งเป็นอีกช่องทางหนึ่งจะสร้างกำไรส่วนเพิ่มให้ DITTO ปีละ 50%  พร้อมแนะนำให้ “ซื้อ” ขณะที่ราคาเป้าหมาย “อยู่ระหว่างการทบทวน”

นภนต์ ระบุในบทวิเคราะห์ที่ทำขึ้นสดๆ ร้อนๆ ว่าเย็นวานนี้(15 ก.ย.2565)  DITTO ประกาศแจ้งลงนามดำเนินการโครงการปลูกป่าชายเลนเพื่อประโยชน์จากคาร์บอนเครดิต กับกรมทรัพยากรฯ โดยไฮไลต์คือ พื้นที่ได้รับการจัดสรรอยู่ที่ 11,448.3 ไร่ ระยะเวลาดำเนินการ 30 ปี ผลประโยชน์จากโครงการตังกล่าวจะออกมาในรูปของ Carbon credit สัดส่วน 90% และอีก 10% จัดสรรให้ภาครัฐ

"เราประเมินว่าหาก DITT0 เริ่มดำเนินโครงการในปี 2023 จะใช้เวลา 3 ปีที่จะเริ่มรับรู้คาร์บอนเครดิตในปี 2026 โดยคาดเงินลงทุนเริ่มต้นในปีแรกจะอยู่ที่ราว 160-170 ล้านบาท และค่าดูแลรักษาตั้งแต่ปีที่ 2 เป็นต้นไป จะอยู่ที่ 30 ล้านบาท/ปี ตั้งแต่ปี 2026 เราคาด DITTO จะได้รับคาร์บอนเครดิตต่อปีอยู่ที่ราว 1 แสนตัน/ปี คิดจากสัดส่วน 90%"

ขณะที่ราคาคาร์บอนเครดิตในประเทศไทยยังไม่ได้มีการซื้อขายที่แพร่หลายมากนัก แต่หากอิงจากตลาดในต่างประเทศอย่างยุโรปราคาตอนนี้อยู่ที่ราว 70 ยูโร หรือ 2,600 บาท ปรับตัวขึ้นมาต่อเนื่องจากปี 2020 ที่อยู่ระดับ 15-20 ยูโร และเคยขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่ 100 ยูโร ในช่วงเดือนส.ค. ที่ผ่านมา

หากประเมินจากราคาที่ 70 ยูโร จะสามารถสร้างกำไรในปี 2026 ได้ราว 230 ล้านบาท ซึ่งจะครอบคลุมต้นทุนทั้งหมดที่ลงทุนไปใน 3 ปีแรก และจะสร้างกำไรอย่างต่อเนื่องไปอีก 26 ปีที่เหลือ

ปัจจุบันเราประเมินกำไรของ DITTO อยู่ที่ราว 300-400 ล้านบาท /ปี นั่นหมายความว่ากำไรจากธุรกิจคาร์บอนเครดิตจะสร้างกำไรส่วนเพิ่มได้มากกว่า 50% ต่อปีให้กับ DITTO ถึงแม้ว่าราคา Carbon credit ในตลาดไทยกับต่างประเทศยังต่างกันมาก แต่เมื่อกฎหมายต่างๆ มีผลบังคับใช้มากขึ้น (สรรพสามิตกำลังศึกษาการเก็บภาษีคาร์บอนเครดิตในประเทศ) ราคาที่แตกต่างกันของคู่ค้าจะวิ่งเข้าหาจุดสมดุล (เสียภาษีที่ไทยน้อยก็ต้องไปเสียอีกต่อที่ต่างประเทศอยู่ดี ถ้าอัตราภาษีที่จะเก็บต่างกัน)
 

เรามองว่าหลังจากที่มาตรการผลักดันด้านสิ่งแวดล้อมของต่างประเทศถูกนำมาบังคับใช้มากขึ้น เช่น CBAM จากยุโรปที่จะเริ่มใช้ 1 ม.ค.2026 (การบังคับใช้ภาษีคาร์บอนกับประเทศคู่ค้าสำหรับการส่งออก/นำเข้า) จะยิ่งทำให้ Demand ของ Carbon credit ปรับตัวขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ (Supply ด้านสิ่งแวดล้อมจำกัด)

ท้ายที่สุดราคาของ Carbon credit น่าจะปรับตัวขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเช่นเดียวกัน โดยราคาที่เพิ่มขึ้นจะวิ่งลงสู่กำไรของ DITTO ทันทีเนื่องจากต้นทุนทั้งหมดเป็นต้นทุนคงที่

เรามองว่าพัฒนาการที่เกิดขึ้นถือเป็นก้าวสำคัญในการขยายธุรกิจใหม่ของ DITTO โอกาสที่จะเพิ่มกำไรในอนาคตมีมากถึง 50% ต่อปี และยังเป็นรายได้/กำไรที่เกิดขึ้นประจำอย่างต่อเนื่องตลอด 30 ปี 

เรายังคงคำแนะนำ ซื้อ โดยอยู่ระหว่างการทบทวนราคาเป้าหมาย 

ราคาหุ้น DITTO ปิดตลาดวานนี้ ที่ 76.50 บาท ลดลง 3.25 บาท หรือ 4.08%

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์