Sideways ซื้อเก็งกำไร BGRIM GPSC TIDLOR

Sideways ซื้อเก็งกำไร BGRIM GPSC TIDLOR

คาดดัชนีฯ Sideways แนวต้าน 1,650 / 1,666 จุด แนวรับ 1,631 จุด (EMA 10 วัน) / 1,620 จุด (EMA 25 วัน) แนะนำ ซื้อเก็งกำไร BGRIM GPSC TIDLOR ทางเทคนิค ยังคงอยู่ในทิศทางขาขึ้น โดยมีสัญญาณซื้อเพิ่ม หากทะลุแนวต้านเดิม 1,650 จุด

โมเมนตัมลบ คือ โอกาสที่เฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย 0.75% ในการประชุมเฟดในวันที่ 21 ก.ย. ปรับสูงขึ้นเป็น 86% หลังจากประธานเฟด Powell วานนี้ส่งสัญญาณเร่งขึ้นดอกเบี้ย เพื่อสกัดเงินเฟ้อ และการปรับขึ้นของดัชนีฯ พึ่งพิงการปรับขึ้นของหุ้นบางหลักทรัพย์เท่านั้น เช่น DELTA ไฮไลท์วันนี้ คือ EU Emergency Energy Meeting, China-เงินเฟ้อเดือน ส.ค. คาด 2.8% YoY (Vs เดือน ก.ค. +2.7% YoY) PPI เดือน ส.ค. คาด 3.1% YoY (Vs เดือน ก.ค. +4.2% YoY); USA-สุนทรพจน์ Fed Kansas City George และคณะกรรมการเฟด Waller (มีสิทธิ์โหวต) และ Fed Chicago Evans (ไม่มีสิทธิ์โหวต)

 

กลยุทธ์การลงทุน แนะนำ

+ KTX Portfolio: พอร์ต Big Cap แนะนำ GULF CRC JMART TCAP JMT CENTEL BEM AOT WHA CPN MINT KTB BDMS FORTH (ขาย EA; ซื้อ BH)

+ Daily Recommendations: BGRIM GPSC (Bond Yield มีแนวโน้มผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว ขณะที่กลุ่มโรงไฟฟ้าได้ประโยชน์จากการปรับขึ้นค่า FT และราคาพลังงานที่ปรับตัวลดลง) TIDLOR (Bond Yield มีแนวโน้มผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว)

+ หุ้นที่ได้ประโยชน์จากการปรับสูงขึ้นของ Bond Yield: KBANK TTB BLA TIPH

+ หุ้นกลุ่มได้ประโยชน์จากการอ่อนค่าของเงินบาท: TFG ASIAN BH BDMS + หุ้นกลุ่ม Smart Phone รับอานิสงส์ประเทศกลุ่ม Tier 1 ในการจอง iPhone 14: COM7 CPW SPVI JMART SIS SYNEX

+ หุ้นที่มีโอกาสเข้าคำนวณ SET50 จากการปรับเกณฑ์ Turnover Ratio: DELTA BJC

 

ปัจจัยลบ

- USA: GDPNow โดยเฟด สาขาแอตแลนต้า เปิดเผยประมาณการ 3Q22E US GDP ณ วันที่ 7 ก.ย. ถูกปรับลดเป็น 1.4% QoQ (Vs 2.6% QoQ เมื่อวันที่ 1 ก.ย.) สอดคล้องกับรายงาน Fed Beige Book ที่ส่งสัญญาณเศรษฐกิจเริ่มอ่อนแอ จากราคาที่สูงขึ้นและตลาดแรงงานตึงตัว แต่ใกล้เคียงกับ Bloomberg Consensus ที่คาด 3Q22E US GDP เติบโต +1.5% QoQ

 

- FED: CME Group เผย Fed Fund Futures ล่าสุด พบว่ามีโอกาสสูงถึง 86% (วำนนี้ 77%) ที่เฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยฯ 0.75% เป็น 3.25% ในกำรประชุมเฟดในวันที่ 21 ก.ย. หลังสุนทรพจน์ประธานเฟด Powell ส่งสัญญาณเร่งคุมเงินเฟ้อให้อยู่ในกรอบเป้าหมาย

- การเมืองไทย: ศาลรัฐธรรมนูญสั่งเลขาสภาผู้แทนฯ ส่งบันทึกการประชุมคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ ครั้งที่ 501 ที่มีความเห็นของกรธ. แต่ละคนในเรื่องการดำรงตำแหน่ง 8 ปี ของนายกฯ ภายในวันที่ 13 ก.ย. ก่อนนัดประชุมอีกครั้งในวันที่ 14 ก.ย. ทำให้ผลตัดสินฯ ยังคงมีความไม่แน่นอน

 

ประเด็นสำคัญ

- Opportunity Day: SUPER XO UPOIC LST ASK BA

- Eurogroup Meeting: หารือฉุกเฉินเรื่องพลังงาน (Emergency Energy Meeting)

- China: เงินเฟ้อเดือน ส.ค. คาด 2.8% YoY (Vs เดือน ก.ค. +2.7% YoY) และ PPI เดือน ส.ค. คาด 3.1% YoY (Vs เดือน ก.ค. +4.2% YoY)

- USA: สุนทรพจน์ Fed Kansas City George และคณะกรรมการเฟด Waller (มีสิทธิ์โหวต) และ Fed Chicago Evans (ไม่มีสิทธิ์โหวต)

- เทศกาลไหว้พระจันทร์: ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ไต้หวัน ปิดทำการ

 

 

 

Global Market Summary: วันทำการที่ผ่านมา

+ ตลาดหุ้นไทยปิดบวกเป็นวันที่ 3: ตลาดหุ้นไทยปรับขึ้นไปสูงสุดที่ 1,649.17 จุด ในช่วง 15 นาทีแรกของการซื้อขาย ก่อนเคลื่อนไหวในทิศทาง Sideways Down ตลอดการซื้อขาย ก่อนปิดตลาดที่ 1,640 จุด +0.08 จุด วอลุ่มซื้อขาย 7.6 หมื่นล้านบาท นำขึ้นโดยกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ +4.52% บรรจุภัณฑ์ +1.95% การแพทย์ +1.15% ปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์ +0.65% หุ้นบวก >4% DELTA BGRIM BE8 PTG A5 MVP PLUS BBIK SNNP SMK IIG ASAP SITHAI KISS PROEN หุ้นลบ >4% JASIF ESSO KWI TVI SICT PAP CRANE

+/- ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดบวก ส่วนหุ้นยุโรปปิดผสมผสาน: DJIA +0.61% S&P500 +0.66% NASDAQ +0.60% ฟื้นตัว หลังจากดัชนีดาวโจนส์ร่วงลงกว่า 100 จุด จากการส่งสัญญาณปรับขึ้นดอกเบี้ยเชิงรุกของประธานเฟด Powell ผ่านสุนทรพจน์ที่สถาบันคาโต นำขึ้นโดยกลุ่มธนาคาร (หุ้นเจพีมอร์แกน +2.33% หุ้น มอร์แกน สแตนลีย์ +1.82% หุ้นซิตี้กรุ๊ป +2.61%) และกลุ่มเฮลธ์แคร์ (หุ้นรีเจเนอรอน ฟาร์มาซูติคอล +18.85% หุ้นอิไล ลิลลี่ +1.25% หุ้นแอ๊บบอต ลาบอแรตอรีส +2.19% หุ้นยูไนเต็ดเฮลธ์ +1.19%) ส่วนหุ้นยุโรปปิดคละ CAC40 +0.33% DAX -0.09% FTSE +0.33% นำขึ้นโดยกลุ่มธนาคาร หลัง ECB มีมติปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.75% เป็น 1.25%

+/- ราคาน้ำมันดิบปิดบวก ส่วนทองคำปิดลบ: WTI +USD1.60 ปิดที่ USD83.54/บาร์เรล Brent +USD1.15 ปิดที่ USD89.15/บาร์เรล เป็นผลจากประธานาธิบดีรัสเซีย ปูติน ขู่ระงับการส่งน้ำมันให้ชาติตะวันตก หากมีการใช้มาตรการกำหนดเพดานราคาน้ำมันของรัสเซีย และแรงซื้อเก็งกำไร หลังราคาน้ำมันลดลงต่ำสุดรอบ 7 เดือน แม้สหรัฐฯ รายงานตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบสัปดาห์ก่อนสูงกว่าคาด +8.84 ล้านบาร์เรล (Vs คาด +2.5 แสนบาร์เรล) ส่วนราคาทองคำกลับมาปิดลบ -USD7.60 ปิดที่ USD1,720.20/ออนซ์ เพราะยิลด์พันธบัตรสหรัฐฯ ปรับขึ้นเป็น 3.31% (Vs 3.23%) หลังประธานเฟดส่งสัญญาณมุ่งมั่นต่อความพยายามเร่งฉุดเงินเฟ้อให้ลดต่ำลง

 

ประเด็นสำคัญ

+ Thailand: ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการที่พักแรมเดือน ส.ค. 2022 พบว่า อัตราการเข้าพักเฉลี่ยอยู่ที่ 48% เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน และเพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันของปีก่อน สอดคล้องกับจำนวนนักท่องเที่ยวที่ทยอยเพิ่มขึ้น หลังจากมีการเปิดประเทศอย่างเต็มรูปแบบ และการขยายสิทธิโครงการเราเที่ยวด้วยกันตั้งแต่เดือน ก.ค. พร้อมคาดการณ์ว่าอัตราการเข้าพักเดือน ก.ย. 2022 โดยเฉลี่ยจะอยู่ที่ 40%

+ USA: กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 6,000 ราย สู่ระดับ 222,000 ราย ในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 3 เดือน และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 240,000 ราย อย่างไรก็ดี ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานดังกล่าวอยู่สูงกว่าระดับ 215,000 ราย ซึ่งเป็นค่าเฉลี่ยต่อสัปดาห์ในช่วงก่อนเกิดการแพร่ระบาดของ COVID-19 ในสหรัฐฯ

- USA: โกลด์แมน แซคส์ กรุ๊ป ได้ปรับเพิ่มคาดการณ์ระดับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) โดยคาดว่าเฟดมีแนวโน้มจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ในเดือนนี้ และอีก 0.50% ในเดือน พ.ย. เพิ่มจากคาดการณ์ก่อนหน้าว่าจะปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ย 0.50% และ 0.25% ตามลำดับ

- USA: นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) กล่าวว่า เฟดมีความมุ่งมั่น "อย่างแรงกล้า" ในการควบคุมเงินเฟ้อ และเฟดหวังว่าการบรรลุเป้าหมายดังกล่าวจะไม่ทำให้เกิดต้นทุนทางสังคมที่สูงเกินไป นอกจากนี้ นายพาวเวล ระบุว่า การยุติการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หรือการปรับลดอัตราดอกเบี้ย จะยังไม่เกิดขึ้นในเร็วๆนี้

- EU: ECB มีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินฝากสู่ระดับ 0.75% และปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์สู่ระดับ 1.25% รวมทั้งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้สู่ระดับ 1.50% โดยมีผลบังคับใช้ในวันที่ 14 ก.ย. โดยครั้งนี้เป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งที่ 2 ติดต่อกัน หลังจากปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในเดือน ก.ค. ซึ่งเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกในรอบ 11 ปี และเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ปี 2000 เพื่อสกัดการพุ่งขึ้นของเงินเฟ้อ นอกจากนี้ ECB ยังส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป โดยระบุว่า "อัตราเงินเฟ้อยังคงอยู่สูงเกินไป และมีแนวโน้มอยู่สูงกว่าเป้าหมายของ ECB เป็นระยะเวลาหนึ่ง"

กลยุทธ์การลงทุน แนะนำ Trading Buy (โดยมีจุดขายตัดขาดทุน 3%)

หุ้นแนะนำรายสัปดาห์: JMART COM7 SPVI

หุ้นแนะนำเก็งกำไร: BGRIM GPSC TIDLOR

Derivatives: แนะ Wait&see หลังดัชนียัง sideway กรอบแคบ