รัฐทำแผนรับมือ 4 วิกฤติฉุดเศรษฐกิจไทย

โดยมอบให้คณะอนุกรรมการติดตามและวิเคราะห์สถานกรณ์วิกฤตเศรษฐกิจ พิจารณากำหนดรายละเอียดมาเสนอเพื่อทบทวนมาตรการที่จะหมดอายุในเดือน ส.ค.-ก.ย.2565

ปลัดกระทรวงการคลัง กฤษฎา จีนะวิจารณะ ระบุ ในการประชุมคณะกรรมการเฉพาะกิจเพื่อบริหารสถานการณ์วิกฤตเศรษฐกิจนัดแรกวานนี้ ที่ประชุมซึ่งมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานได้เห็นชอบแนวทางเตรียมความพร้อมรองรับสถานการณ์ในระดับวิกฤติเศรษฐกิจ ผ่านมาตรการระยะเร่งด่วน (Quick win) และมาตรการที่ต้องเร่งดำเนินการต่อเนื่อง (Follow-up Urgent Policy) 

โดยมอบให้คณะอนุกรรมการติดตามและวิเคราะห์สถานกรณ์วิกฤตเศรษฐกิจ พิจารณากำหนดรายละเอียดมาเสนอเพื่อทบทวนมาตรการที่จะหมดอายุในเดือน ส.ค.-ก.ย.2565

สำหรับมาตรการที่จะพิจารณาว่าจะดำเนินการต่อหรือไม่ เช่น การต่ออายุมาตรการลดภาษีสรรพสามิตดีเซล ที่ปัจจุบันลดการจัดเก็บภาษีลิตรละ 5 บาท การตรึงราคาค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ (Ft) ในเดือน ก.ย.-ธ.ค.2565 มาตรการช่วยเหลือรถจักรยานยนต์รับจ้างเดือนละ 250 บาทต่อเดือน โครงการช่วยเหลือรถแท็กซี่ในโครงการลมหายใจเดียวกัน โดยนายกรัฐมนตรีมอบหมายให้ไปดูมาตรการที่เหมาะสม รวมถึงวงเงินงบประมาณและแหล่งเงินที่จะใช้ และให้นำเสนอในการประชุมครั้งต่อไป

ที่ประชุมยังได้ประเมินสถานการณ์ที่มีโอกาสกลายเป็นวิกฤติพร้อมทั้งมีแผนรองรับสถานการณ์ 4 ด้านได้แก่ 
1.วิกฤติต้นทุนพลังงานและสินค้าโภคภัณฑ์ 2.วิกฤติการเพิ่มขึ้นของต้นทุนการผลิตและการขาดแคลนวัตถุดิบด้านการเกษตร 3.วิกฤติการเงินภาคครัวเรือนและเอสเอ็มอี และ 4.วิกฤติเชิงโครงสร้างเศรษฐกิจและการลดลงของขีดความสามารถในการแข่งขัน พร้อมทั้งได้เสนอแนวทางที่ควรจะดำเนินการในระยะสั้นและระยะยาวให้ที่ประชุมรับทราบ