นายกฯถก ‘ทางออก’ วิกฤติเศรษฐกิจ ช่วยประชาชน
รายงานข่าวระบุว่า ในการประชุมวันนี้ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือ สศช. จะประเมินสถานการณ์ผลกระทบด้านเศรษฐกิจที่สำคัญ เพื่อเตรียมความพร้อมรองรับสถานการณ์ในระดับวิกฤติเศรษฐกิจ
นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ระบุ ในการประชุมคณะกรรมการเฉพาะกิจเพื่อบริหารสถานการณ์วิกฤติเศรษฐกิจนัดแรกวันนี้ เป็นผลจากสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างประเทศขยายวงไปมากขึ้นเรื่อยๆ จำเป็นต้องกำหนดฉากทัศน์ของเราออกมา ซึ่งคณะกรรมการที่ตั้งขึ้นเฉพาะกิจจะต้องมีความสัมพันธ์กับคณะกรรมการชุดอื่นด้วย และทั้งหมดคือ แนวทางในการวางแผนที่จะต้องทำให้สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาล มีรัฐมนตรีหลายคนรับเรื่องนี้ไปดำเนินการแล้ว เพื่อต้องการให้เห็นภาพใหญ่ และเตรียมแผนปฏิบัติไว้รับมือล่วงหน้า เมื่อเกิดเหตุอะไรขึ้นจะได้มีแผนปฏิบัติไว้ได้ทันที
รายงานข่าวระบุว่า ในการประชุมวันนี้ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือ สศช. จะประเมินสถานการณ์ผลกระทบด้านเศรษฐกิจที่สำคัญ เพื่อเตรียมความพร้อมรองรับสถานการณ์ในระดับวิกฤติเศรษฐกิจ
โดยนายกรัฐมนตรีต้องการให้ติดตามวิเคราะห์ปัจจัย และความเสี่ยงให้ครบทุกมิติ เพื่อใช้ในการกำหนดมาตรการแก้วิกฤติเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นทั่วโลก เป็นการเตรียมความพร้อมแผนเผชิญเหตุรองรับล่วงหน้าหากเกิดวิกฤติ แทนการรอให้วิกฤติเกิดก่อนแล้วค่อยดำเนินการ
สำหรับมาตรการช่วยเหลือประชาชนจากวิกฤติพลังงาน ซึ่งจะสิ้นสุดเดือนกันยายน นี้ จะต้องพิจารณาต่อไปเป็นระยะจนถึงเดือนธันวาคม 2565 ซึ่งปัญหาหลักคือ แหล่งงบประมาณ เพราะที่ผ่านมาตั้งแต่เกิดวิกฤติโควิด-19 รัฐบาลมีมาตรการดูแลประชาชนด้านพลังงานวงเงินกว่า 2 แสนล้านบาท ซึ่งเป็นจำนวนเงินที่สูงมาก กระทรวงการคลังจึงต้องบริหารจัดการอย่างรอบคอบ โดยเฉพาะมาตรการที่จะดูแลไปถึงเดือนธันวาคม 2565
ด้านรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน สุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ ระบุ รัฐบาลยังมีความจำเป็นต้องประคับประคองราคาพลังงานเพื่อความเป็นอยู่ของประชาชน เพื่อประคับประคองสร้างสมดุลระหว่างอัตราเงินเฟ้อ การขยายตัวทางเศรษฐกิจ และเสถียรภาพทางการเงินการคลัง
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์