คลังพร้อมเปิดลงทะเบียนคนจนรอบใหม่ 5 ก.ย.-19 ต.ค. นี้

คลังพร้อมเปิดลงทะเบียนคนจนรอบใหม่ 5 ก.ย.-19 ต.ค. นี้

คลังพร้อมเปิดลงทะเบียนคนจนรอบใหม่ 5 ก.ย.-19 ต.ค. นี้ เผยเตรียมให้สิทธิประโยชน์ เพิ่ม คาดมียอดลงทะเบียนราว 15-16 ล้านคน

นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลัง ได้ข้อสรุปสำหรับการเปิดให้ผู้มีรายได้น้อยลงทะเบียนรับสวัสดิการแห่งรัฐเพิ่มเติม  หรือ บัตรคนจน โดยจะเปิดตั้งแต่วันที่ 5 ก.ย. -19 ต.ค.นี้ รวมเป็นเวลา 45 วัน

การลงทะเบียน จะผ่านช่องทางต่างๆ โดยเฉพาะสาขาของธนาคาร 3 แห่ง คือ ธนาคารเพื่อการเกษตร และสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.)  ธนาคารออมสิน และธนาคารกรุงไทย รวมถึง หน่วยงานท้องถิ่น อาทิ องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) สำนักงานเขต ของ กทม.และผ่านระบบออนไลน์

เขากล่าวว่า เมื่อมีการลงทะเบียนเรียบร้อยแล้ว จะมีการตรวจสอบความคุณสมบัติ โดยครั้งนี้จะนำระบบเอไอ ที่เชื่อมโยงกับ หน่วยงานภาครัฐต่างๆ ที่เข้ามาช่วยตรวจสอบคุณสมบัติเพิ่มเติม จาก 38 หน่วยงานของภาครัฐ โดยจะมีการจัดพิธีลงนาม ในวันที่ 16 ส.ค.นี้ ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาไม่นาน

 

ทั้งนี้  กระทรวงการคลังจะทำการตรวจสอบคุณสมบัติ และ จะเปิดให้มีการอุทธรณ์กรณีผู้ที่อาจมีการตรวจสอบตกหล่น  ซี่งคาดว่า  จะใช้เวลาไม่นานหรือเสร็จสิ้นภายในสิ้นปีนี้

 

"ระบบเอไอ จะเข้ามาช่วยตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ถือบัตร ในทุกๆปี เพื่อคัดกรองบุคคล ที่มีคุณสมบัติที่เหมาะสมตามเงื่อนไขเท่านั้น" 

 

ทั้งนี้ บัตรคนจนรอบใหม่ ที่จะใช้บัตรประชาชน แทนบัตรคนจนแบบเดิม คาดว่า จะใช้สิทธิได้ เร็วที่สุด คือเดือนม.ค. 2566

 

" สำหรับผู้ที่ใช้บัตรเดิมไม่ต้องกังวล เพราะยังใช้สิทธิ์ได้ตามปกติ จนกว่าจะมีบัตรใหม่ใหม่ ที่เป็นบัตรประชาชน จะเชื่อมระบบได้"

 

สำหรับสิทธิประโยชน์ที่มีในบัตรคนจนรอบใหม่ นี้ จะที่การขยายสิทธิเพิ่มเติมด้วย ส่วนเป้าหมายในการลงทะเบียนครั้งนี้ จะมี 15-16 ล้านคน จากเดิมที่มี 13 ล้านคน 

 

เขากล่าวด้วยว่า  การลงทะเบียนครั้งนี้  จะมีการว่าจ้างนักศึกษาจบใหม่ที่ยังไม่มีงานทำภายใน 3 หลังจบการศึกษาเพื่อมาช่วยลงทะเบียนตำบลละ 5 คน รวมทั้งหมด 3 หมื่นคน โดยกำหนดอัตราค่าจ้างระดับปริญญาตรี 15,000 บาท ปวส. 11,500 บาท และปวช. 9,500 บาท ใช้งบการจ้างงานรวม 750 ล้านบาทรวมระยะเวลาการจ้างงาน 45 วัน และมีการทั้งสิ้นอบรม 6 วัน 

 

สำหรับคุณสมบัติเบื้องต้นของคนที่จะได้รับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่ยังคงเหมือนเดิม เช่น เป็นคนสัญชาติไทย ,อายุ 18 ปีขึ้นไป ,มีรายได้ต่อปีไม่เกิน 1 แสนบาท ,มีทรัพย์สินทางการเงิน เช่น เงินฝากในธนาคารหรือพันธบัตรรัฐบาล ไม่เกิน 1 แสนบาท กรณีเป็นเจ้าของบ้านเดี่ยว ทาวเฮาส์ ห้องแถว ตึกแถว ต้องมีพื้นที่ไม่เกิน 25 ตารางวา กรณีเป็นห้องชุดต้องไม่เกิน 35 ตารางเมตร เป็นต้น

 

ความแตกต่างในการลงทะเบียนเพื่อรับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐในครั้งนี้ คือ จะนำรายได้ของครอบครัวมาร่วมพิจารณาด้วย เช่น กรณี ครอบครัว ที่มีพ่อ แม่ และลูกที่มีอายุไม่เกิน 18 ปี รวม 3 คน พ่อ และแม่ จะต้องผ่านเกณฑ์การได้รับบัตรสวัสดิการดังกล่าวข้างต้น แล้วยังต้องนำรายได้ทั้งครอบครัวมารวมกัน แล้วหารสาม หากรายได้ครอบครัวเฉลี่ยไม่เกิน 1 แสนบาท ถือว่าผ่านเกณฑ์ได้รับบัตรสวัสดิการ

 

 นอกจากนี้ ยังมีเกณฑ์ อื่นๆ ที่ใช้เพื่อกลั่นกรองคุณสมบัติของผู้สมควรได้รับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เช่น จะต้องไม่เป็นผู้ที่มีบัตรเครดิต,ไม่เคยเดินทางไปต่างประเทศ , ไม่มีประวัติการซื้อขายหุ้น , มีวงเงินกู้ซื้อบ้านไม่เกิน 1.5 ล้านบาท และมีวงเงินกู้เพื่อซื้อยานพาหนะ ไม่เกิน 1 ล้านบาทและไม่มีประวัติการซื้อขายหลักทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เป็นต้น  ทั้งนี้ ผู้มีสิทธิ์ จะต้องไม่เป็นภิกษุ สามเณร นักพรตนักบวช ผู้ต้องกักขัง ,ข้าราชการ หรือพนักงานราชการ