GULF เดินนโยบายลดโลกร้อน ส่ง GULF HK เข้าลงทุนกองทุน LCI Fund 75 ล้านยูโร

GULF เดินนโยบายลดโลกร้อน  ส่ง GULF HK เข้าลงทุนกองทุน LCI Fund  75 ล้านยูโร

GULF ส่ง GULF HK เข้าลงทุนในกองทุน LCI Fund มูลค่า 75 ล้านยูโร โดยมีกำหนดอายุกองทุนประมาณ 10 ปี และมีระยะเวลาลงทุน 5 ปี ซึ่งจะทยอยเรียกชำระทุนภายในระยะเวลาลงทุนดังกล่าว แสดงเจตนารมณ์สนับสนุนความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ควบคู่ไปกับการให้ผลตอบแทนที่ดีอีกด้วย

บริษัท กัลฟ์  เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ว่า Gulf International Investment(Hong Kong) Limited (Gulf HK) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่บริษัท ถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 100 ได้ลงนามในสัญญาลงทุน (Subscription Agreement) เพื่อเข้าลงทุนในวงเงิน 75 ล้านยูโร ในกองทุน Lightrock Cimate Impact Fund scsp (LCI Fund) โดยกองทุนดังกล่าวมีกำหนดอายุกองทุนประมาณ 10 ปี และมีระยะเวลาลงทุน 5 ปี ซึ่งจะทยอยเรียกชำระทุนภายในระยะเวลาลงทุนดังกล่าว

LCI Fund ถือเป็นกองทุน Private Equity ภายใต้การบริหารจัดการของบริษัท Lightrock ที่ถูกก่อตั้งขึ้นโดยราชวงศ์แห่งลิกเตนสไตน์ และ LGT ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจธนาคาร และการจัดการสินทรัพย์ชั้นนำของโลก ในด้านธนบดีธนกิจ (Private Banking และการจัดการสินทรัพย์ (Asset Management)

โดยกองทุนมีนโยบายการลงทุนในกลุ่มธุรกิจที่เน้นการแก้ปัญหาโลกร้อนภายใต้บริบทของการดำเนินธุรกิจตามหลักสิ่งแวดล้อม สังคม และการกำกับดูแล (ESG: environmental, social, governance) อาทิเช่น

1) การเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน (Energy Transition) เช่น ธุรกิจพลังงานหมุนเวียน ระบบกักเก็บพลังงานด้วยแบตเตอรี่ และการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ

2) การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกภาคอุตสาหกรรม (Decarbonizing Industries) เช่น การดักจับ และกักเก็บคาร์บอน และกระบวนการอุตสาหกรรมสีเขียว

3) การขนส่งที่ยั่งยืน (Sustainable Transportation)  

4) อาหารและการเกษตรที่ยั่งยืน (Sustainable Food and Agriculture)

5) การนำเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องมาใช้ในการบริหารจัดการธุรกิจ (Enabling Technologies and Solutions) เช่น บริการที่ปรึกษาสำหรับการพัฒนาโครงการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก

การลงทุนใน LCI Fund สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของบริษัท ที่มุ่งเน้นการลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับพลังงาน หมุนเวียน และการจัดการสภาพภูมิอากาศ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายของประเทศทั่วโลกในการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์
(Net Zero Greenhouse Gas Emissions) ภายในปี 2050

ทั้งนี้ การลงทุนดังกล่าว ยังเป็นการแสดง เจตนารมณ์ ในการสนับสนุนความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ควบคู่ไปกับการให้ผลตอบแทนที่ดีอีกด้วย

 

 

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์