CPALL ผลประกอบการ 2Q65: กำไรเพิ่มขึ้น YoY แต่ลดลง QoQ

CPALL ผลประกอบการ 2Q65: กำไรเพิ่มขึ้น YoY แต่ลดลง QoQ

กำไรสุทธิของ CPALL ใน 2Q65 อยู่ที่ 3 พันล้านบาท (+37% YoY, -13% QoQ) ต่ำกว่า consensus 11% ในขณะที่กำไรสุทธิใน 1H65 เพิ่มขึ้นเป็น 6.5 พันล้านบาท (+35% YoY) จากการฟื้นตัวของธุรกิจร้านสะดวกซื้อ (CVs) และ Siam Makro (MAKRO.BK/MAKRO TB) จากการกลับมาดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจอีกครั้ง

ผลการดำเนินงานโดยรวมดีขึ้น

รายได้รวมบริษัทในเครือของ CPALL เพิ่มขึ้นเป็น 2.08 แสนล้านบาท (+58% YoY, +7% QoQ) จากยอดขายที่เพิ่มขึ้นของทั้งธุรกิจ CVs, ขายส่ง และขายปลีก (MAKRO and Lotus’s) โดยยอดขายของธุรกิจ CVs อยู่ที่ 8.83 หมื่นล้านบาท (+18%YoY, +8% QoQ) ในขณะที่ SSSG เพิ่มขึ้นเป็น 14.2% (จาก 13% ใน 1Q65 และ -2.1% ใน 2Q64) เนื่องจากมีการผ่อนคลายมาตรการคุม COVID-19 ลง ยอดขายสินค้ากลุ่มอาหารคิดเป็นสัดส่วน 73.6% ของยอดขายรวม โดยมีอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 26.0% (-50bpsYoY, ทรงตัว QoQ) เนื่องจากมีการวางจำหน่ายอาหารราคาประหยัด และสินค้าแพ็คใหญ่ ส่วนยอดขายสินค้ากลุ่มที่ไม่ใช่อาหารคิดเป็นสัดส่วน 26.4% ของยอดขายรวม โดยมีอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 26.4% (-30bps YoY, ทรงตัว QoQ) ซึ่งสะท้อนถึงยอดขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และบุหรี่ที่เพิ่มขึ้นตามกิจกรรมการเดินทาง ทั้งนี้ สัดส่วน SG&A ต่อยอดขายลดลงเหลือ 25.9% (จาก 26.9% ใน 2Q64 และ 27.0% ใน1Q65) เนื่องจากยอดขายฟื้นตัวขึ้นทำให้บริษัทมี operating leverage นอกจากนี้ จำนวนลูกค้าเฉลี่ยต่อร้านต่อวันยังเพิ่มขึ้นเป็น 918 ราย จาก 871 รายใน 1Q65 ซึ่งสะท้อนถึงการกลับมาของกิจกรรมทางธุรกิจ

 

 

 

ปรับลดประมาณการกำไรสุทธิปี 2565F/2566F ลง 11%/8%

การกลับมาเปิดประเทศ, การกลับมาของกิจกรรมทางธุรกิจ และการกลับมาของนักท่องเที่ยวจะช่วยหนุนผลการดำเนินงานของธุรกิจ CVs ใน 2H65 อย่างไรก็ตาม บริษัทจะยังคงเน้นเพิ่มจำนวนลูกค้าเข้าร้านเพื่อกระตุ้นยอดขาย โดยจะยอมแลกกับอัตรากำไรที่ลดลงไปบ้าง เราได้ปรับสมมติฐานของธุรกิจ CVs (ลดลง 30bps เพราะ product mix แต่ปรับเพิ่มสมมติฐาน SSSG ปีนี้ขึ้นจาก 6% เป็น 12%) และรวมการปรับประมาณการกำไรของ Siam Makro (MAKRO.BK/MAKRO TB) เข้ามาไว้ในประมาณการของ CPALL ด้วย (ดูบทวิเคราะห์หุ้น MAKRO ของ KGI “ผลประกอบการ 2Q65: กำไรเพิ่มขึ้น YoY แต่
ลดลง QoQ” ที่เผยแพร่ในวันที่ 11 สิงหาคม) ดังนั้น เราจึงปรับลดประมาณการกำไรสุทธิปี 2565F/2566F ลง 11%/8%

 

Valuation

เราขยับไปใช้ราคาเป้าหมายสิ้นปี 2566 ที่ 74 บาท จากเดิมที่ 75 บาท อิงจาก PER ที่ 35.0x (ค่าเฉลี่ยในอดีตระหว่าง MAKRO และ CPALL +1.0 S.D.) โดยเราคาดว่าผลประกอบการจะดีขึ้นอย่างต่อเนื่องจากการกลับมาของกิจกรรมทางธุรกิจ ดังนั้น เราจึงยังคงคำแนะนำ ซื้อ CPALL

 

Risk

เศรษฐกิจชะลอตัวลง, ขยายสาขาใหม่ได้ช้ากว่าแผนที่วางไว้, มีการนำเทคโนโลยีใหม่มาใช้, ความเสี่ยงจากกฎเกณฑ์ของทางการ, ถูกยกเลิกการใช้เครื่องหมายการค้า 7-Eleven, ความเสี่ยงด้าน logistic