ตลาดทีวี 2.2 หมื่นล้าน ยังไม่สิ้นสุด ซัมซุงมองคนไทยเปลี่ยนรุ่นบ่อย-ซื้อขนาดใหญ่

ตลาดทีวี 2.2 หมื่นล้าน ยังไม่สิ้นสุด ซัมซุงมองคนไทยเปลี่ยนรุ่นบ่อย-ซื้อขนาดใหญ่

ตลาดทีวีไทย 2.2 หมื่นล้านบาท ยังไปได้ 'ซัมซุง' ประเมินปี 2568 ขยายตัว 2% แรงหนุนจากทีวีกลุ่มพรีเมียม คนหันมาซื้อจอใหญ่ขึ้น-ทดแทนรุ่นเดิม

นายชวพจน์ เทียนทอง ผู้อำนวยการกลุ่มธุรกิจภาพและเสียง บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด กล่าวว่า จากการประเมินภาพรวมตลาดทีวีในประเทศไทยที่มีมูลค่าประมาณ 2.2 หมื่นล้านบาท ในปีนี้ 2568 มีแนวโน้มขยายตัวประมาณ 2% จากปีก่อน ส่วนจำนวนยูนิต จะอยู่ที่ 2 ล้านเครื่อง อยู่ในระดับทรงตัวจากปีก่อน แรงหนุนทำให้มูลค่าของตลาดขยายตัวมาจากเซกเมนต์พรีเมียมที่มีความต้องการสูง จากกลุ่มลูกค้าในระดับบน ส่งผลให้ทีวีเซกเมนต์พรีเมียมช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ มีการขยายตัวประมาณ 10% โดยเฉพาะจอทีวีที่มีขนาดประมาณ 45 นิ้ว

ขณะเดียวกันอีกปัจจัยที่ทำให้ตลาดทีวีเติบโต มาจากพฤติกรรมของกลุ่มผู้บริโภคคนไทยสนใจเปลี่ยนทีวีถี่มากขึ้น โดยจากอินไซต์สะท้อนว่า ผู้บริโภคจะมีการเปลี่ยนทีวีในทุก 4 ปี จากเดิมเปลี่ยนทีวีในทุก 5-6 ปี และสนใจเลือกซื้อทีวีที่มีจอขนาดใหญ่มากขึ้น รวมถึงส่วนใหญ่เป็นการเลือกซื้อเพื่อทดแทนรุ่นเก่าที่ไม่รองรับการเชื่อมต่อแอปพลิเคชั่นต่างๆ จึงเป็นแรงกระตุ้นตลาดทีวีอีกด้าน โดยภาพรวมราคาทีวีแบรนด์ต่างๆ มีแนวโน้มราคาปรับลดลง และราคาเฉลี่ยของทีวีในตลาดจะอยู่ที่ประมาณ 10,000 บาทต่อเครื่อง

ตลาดทีวี 2.2 หมื่นล้าน ยังไม่สิ้นสุด ซัมซุงมองคนไทยเปลี่ยนรุ่นบ่อย-ซื้อขนาดใหญ่

อีกทั้งเมื่อสำรวจตลาดทีวีของไทยในช่วงหลายปีที่ผ่านมา มีคลื่นการเปลี่ยนใหญ่ 3 ครั้งที่สำคัญ ทั้งการปรับจากทีวีที่อยู่ในรูปแบบจอตู้สู่จอแบน คลื่นครั้งที่สอง จากการปรับจากทีวีที่แพร่ภาพในระบบอนาล็อกสู่ระบบดิจิทัล ส่วนคลื่นลูกที่สามกำลังเข้ามาคือ เทคโนโลยีของเอไอกำลังเข้ามาพลิกโฉมตลาดทีวีทั้งหมด

สำหรับแผนการขยายผลิตภัณฑ์ทีวีซัมซุงในปี 2568 จึงมุ่งขยาย สมาร์ททีวีที่มีนวัตกรรม และกลุ่มเทคโนโลยีเอไอ เพื่อร่วมขยายกลุ่มพรีเมียมเซกเมนต์ให้แข็งแกร่งมากขึ้น เนื่องจากมีดีมานด์ของกลุ่มลูกค้าที่ต้องการใช้ทีวีในการเชื่อมต่อแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งต่างๆ ปรับสูงขึ้น ซึ่งให้เทคโนโลยีทั้งภาพและเสียงที่แตกต่าง รวมถึงเทคโนโลยีเอไอของซัมซุง ได้มุ่งนำเสนอให้สอดคล้องกับพฤติกรรมของผู้บริโภคในแต่ละบุคคลมากยิ่งขึ้น

ทั้งนี้ไลน์อัปทีวีเอไอ ที่มุ่งนวัตกรรมเอไอในปีนี้ จึงมีรุ่นไฮไลต์กับ Neo QLED 8K QN990F ราคาเริ่มต้น 139,990 บาท ไปจนถึงรุ่น QLED Series ราคาเริ่มต้น 13,990 บาท เป็นต้น ประเมินว่าจะทำให้บริษัทสามารถเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดที่มากขึ้น 

ขณะเดียวกันภาพรวมตลาดมีปัจจัยที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิดกับภาะเศรษฐกิจที่มีผลกระทบต่อพฤติกรรมการใช้จ่ายของกลุ่มลูกค้าคนไทย ทำให้นโยบายของบริษัทได้มีการปรับให้สอดคล้องกับสถานการณ์โดยรวม จึงได้ร่วมมือกับ เคบี เจ แคปปิตอล เปิดให้บริการซัมซุงไฟแนนซ์พลัส (Samsung Finance+) สินเชื่อซื้อโทรศัพท์มือถือซัมซุง เพื่อเพิ่มทางเลือกให้แก่ลูกค้าที่สนใจผ่อนซื้อสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้า เพียงการใช้บัตรประชาชนใบเดียวเท่านั้น และเปิดให้ผ่อนได้นานถึง 24 เดือน

อย่างไรก็ตาม บริษัทมีความเชื่อม้่นว่าจากการเร่งเครื่องทำตลาดและการส่งผลิตภัณฑ์ใหม่เข้ามากระตุ้นผู้บริโภค จะทำให้ในปี 2568 จะทำให้บริษัทสร้างการเติบโตของผลิตภัณฑ์ ทีวี ได้มากกว่า 6% จากปีก่อน