‘สมาคมผู้ค้าปลีกไทย’หนึ่งเดียวในไทย ขึ้นทะเบียนเป็นองค์กรประเมินวิชาชีพ LP

 เป็นปัจจัยที่มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งต่อการขับเคลื่อนธุรกิจค้าปลีกให้บรรลุจุดประสงค์ทางธุรกิจที่วางไว้ และต้องเป็นแรงงานที่มีสมรรถนะ สามารถปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิผล จากระบบการคัดเลือกพนักงาน และการพัฒนาบุคลากรของธุรกิจค้าปลีกที่มีประสิทธิภาพ

จากอดีตจนถึงปัจจุบัน ระบบคุณวุฒิทางการศึกษาเป็นสิ่งที่นำมาใช้บ่งชี้ถึงระดับความสามารถของบุคคล และใช้เป็นเกณฑ์ในการจ้างแรงงานในทุกภาคส่วนของประเทศไทยมาโดยตลอด ขณะที่ผู้จบการศึกษาจากสถาบันการศึกษาในระดับต่างๆ แม้จะมีความรู้ในทางวิชาการ แต่ยังจำเป็นต้องดำเนินการฝึกอบรมเพิ่มเติม เพื่อให้บุคลากรใหม่เหล่านี้มีสมรรถนะ (Competency) พร้อมทำงานให้กับองค์กร ซึ่งต้องใช้เวลา และงบประมาณ

การยกระดับสมรรถนะของบุคลากร ทั้งในส่วนของบุคลากรปัจจุบันในองค์กร และที่จะรับเข้ามาใหม่ ในหลายประเทศได้ทำการพัฒนาระบบฐานสมรรถนะบุคคล หรือ ระบบคุณวุฒิวิชาชีพ มาใช้ และการที่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน AEC จะมีผลอย่างเต็มรูปแบบในปี 2558 ประเทศสมาชิกในกลุ่มอาเซียนเป็นตลาดและฐานการผลิตเดียวกัน มีการเคลื่อนย้ายแรงงานฝีมือระหว่างประเทศสมาชิกเพิ่มมากขึ้น แต่ ณ ปัจจุบันยังไม่มีกฎเกณฑ์ หรือระบบคุณวุฒิวิชาชีพรองรับ

มาตรฐานอาชีพและคุณวุฒิวิชาชีพในสาขาธุรกิจค้าปลีก

สมาคมผู้ค้าปลีกไทย ได้พยายามผลักดัน ให้มีการจัดทำมาตรฐานอาชีพและคุณวุฒิวิชาชีพในสาขาธุรกิจค้าปลีกของประเทศขึ้นตั้งแต่ปี 2558 เพื่อเป็นเครื่องมือสำคัญในการเตรียมบุคลากรในกลุ่มอาชีพให้มีความพร้อมในด้านของสมรรถนะของบุคคลเพิ่มมากขึ้น ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ประกอบการที่จะสามารถจ้างแรงงานที่มีสมรรถนะตรงกับความต้องการ

คุณวุฒิวิชาชีพที่ทำแล้วเสร็จตั้งแต่ ปี 2560 ประกอบด้วย

การดำเนินงานเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.2557 และสิ้นสุดโครงการวันที่ 30 ก.ย.2558 โดยจะครอบคลุม 3 วิชาชีพ ระดับ 2, 3 และ 4

คุณวุฒิวิชาชีพ พนักงานขาย ชั้น 2

คุณวุฒิวิชาชีพ พนักงานขาย ชั้น 3

คุณวุฒิวิชาชีพ บริหารร้านค้า ชั้น 3

คุณวุฒิวิชาชีพ บริหารร้านค้า ชั้น 4

คุณวุฒิวิชาชีพ ป้องกันความสูญเสีย ชั้น 3

คุณวุฒิวิชาชีพ ป้องกันความสูญเสีย ชั้น 4

มาตรฐานคุณวุฒิวิชาชีพป้องกันความสูญเสีย LP

มาตรฐานคุณวุฒิวิชาชีพ ป้องกันความสูญเสีย นับเป็นมิติใหม่ที่เกิดขึ้นในสาขาธุรกิจค้าปลีกไทย ซึ่งจะนำพาให้กิจการน้อยใหญ่ในอุตสาหกรรมนี้ ทั้งธุรกิจค้าปลีกแบบดั้งเดิม และธุรกิจค้าปลีกสมัยใหม่ ได้รับพลังขับดันที่สำคัญผ่านการเปิดโลกทัศน์ นำสู่การปฏิบัติงานวิชาชีพป้องกันความสูญเสีย ที่เป็นมาตรฐานสากล ของบุคลากรในธุรกิจค้าปลีก มาตรฐานคุณวุฒิวิชาชีพ คุณวุฒิวิชาชีพป้องกันความสูญเสีย ชั้น 3 และ คุณวุฒิวิชาชีพป้องกันความสูญเสีย ชั้น 4 จะสอดคล้องกับ ระดับ ตามกรอบคุณวุฒิวิชาชีพแห่งชาติ ของสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) ที่ระบุถึงกรอบด้านความรู้ (Knowledge) ทักษะ (Skills) คุณสมบัติที่พึงประสงค์ (Attitude) ผลผลิต (Productivity) นวัตกรรม (Innovation) การประยุกต์ใช้ (Application) ความรับผิดชอบ (Responsibility) ของแต่ละระดับไว้อย่างชัดเจน 

ซึ่งก็หมายความว่าต่อแต่นี้ไป บุคคลในแต่ละอาชีพของธุรกิจค้าปลีกวิชาชีพป้องกันความสูญเสีย LP จะมีเส้นทางก้าวหน้าในอาชีพผ่านระบบคุณวุฒิวิชาชีพ โดยไม่ต้องไปศึกษาต่อในสถาบันการศึกษาในหลักสูตรต่างๆที่ไม่เกี่ยวข้องกับอาชีพ และมีโอกาสก้าวหน้าในอาชีพผ่านระดับคุณวุฒิวิชาชีพระดับสูงขึ้นไป จากการเข้ารับการทดสอบจากองค์กรที่ขึ้นทะเบียนเป็นองค์กรที่ทำหน้าที่ประเมินทดสอบ 

สถานประกอบการในธุรกิจค้าปลีกก็จะสามารถมั่นใจได้ว่า บุคลากรที่รับเข้าทำงานโดยระบุคุณวุฒิวิชาชีพ และระดับ จะสามารถปฏิบัติงานได้ตรงตามความต้องการขององค์กรมากขึ้น ส่งผลให้เกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผลในการจ้างงาน และการปฏิบัติงาน ช่วยเสริมสร้างศักยภาพในการแข่งขันให้กับองค์กรได้อย่างยั่งยืน

องค์กรหนึ่งเดียวในไทยประเมินวิชาชีพ LP

สมาคมผู้ค้าปลีกไทย องค์กรหนึ่งเดียวในไทยที่ขึ้นทะเบียนเป็นองค์กรประเมินวิชาชีพ LP ที่ได้รับการรับรองฯ จากสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) ให้เป็นองค์กรที่มีหน้าที่รับรองสมรรถนะของบุคคลตามมาตรฐานอาชีพ สาขาวิชาชีพ ธุรกิจค้าปลีก อาชีพป้องกันความสูญเสียและสูญหาย คุณวุฒิวิชาชีพ ระดับ 3 และระดับ 4 ดำเนินการจัดประเมินสมรรถนะของบุคคลตามมาตรฐานอาชีพ ในรูปแบบการประเมินด้วยวิธีเทียบโอนประสบการณ์การทำงานเพื่อการรับรองคุณวุฒิวิชาชีพ (RESK: Recognition of Existing Skills and Knowledge) โดยพิจารณาจากแฟ้มสะสมผลงาน ประกอบด้วย เอกสารหลักฐานที่ใช้ในการพิจารณา จาก 13 รายการ ที่สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) กำหนดไว้

นับตั้งแต่ปี 2565 เป็นต้นมา ทางสมาคมผู้ค้าปลีกไทยในสถานะองค์กรรับรองได้ดำเนินการจัดประเมินไปแล้วทั้งสิ้น 7 ครั้ง มีผู้เข้ารับการประเมินทั้งหมด 289 คน แบ่งเป็น คุณวุฒิวิชาชีพ ระดับ 3 จำนวน 175 คน และ คุณวุฒิวิชาชีพ ระดับ 4 จำนวน 114 คน มีผู้ผ่านการประเมิน 277 คน และไม่ผ่านการประเมินเพียง 12 คน