‘ลอรีอัล’ ปลุกใช้เอไออย่างรับผิดชอบ ควบคู่เคลื่อนธุรกิจความงาม

"ลอรีอัล" บิวตี้เทค คัมปะนีระดับโลก ยกเอไอพลิกโฉมโลกอนาคต เดินหน้าเติมเต็มธุรกิจแกร่ง พร้อมย้ำภารกิจใช้เทคโนโลยีเอไออย่างรับผิดชอบ
เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์หรือ AI ไม่เพียงมีอิทธิพลต่อการขับเคลื่อนโลก ธุรกิจ และผู้คน แต่ยังสร้างความเปลี่ยน และพลิกโฉมอนาคตให้ไม่เหมือนเดิมด้วย
กรุงเทพธุรกิจ จัดงานสัมมนาแห่งปี AI Revolution 2025: A New Paradigm of New World Economy มีกูรูหน่วยงานภาครัฐ ธุรกิจหลากหลายวงการเป็นวิทยากรแบ่งปันข้อมูล ความรู้ และแนวโน้มที่จะเกิดขึ้น
ทั้งนี้ ภาคธุรกิจ องค์กรชั้นนำ ได้ยกกรณีศึกษา สิ่งที่บริษัทนำเทคโนโลยีเอไอมาใช้ ขับเคลื่อนการตลาด สร้างแบรนด์ สื่อสารกับผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมาย และยกระดับบริการให้ดีขึ้นหลากมิติ ผ่านหัวข้อ “AI Empowering: Business Opportunities”
นายบุณสิทธิ์ สยามเนตร Head of Data & Analytics ลอรีอัล ประเทศไทย กล่าวว่า เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์หรือเอไอ และ Generative AI(Gen AI)จะมีบทบาทพลิกโฉมแห่งอนาคต แต่สิ่งสำคัญไม่ต่างกันในการนำมาใช้คือ การตั้งอยู่บนความรับผิดชอบด้วย โดยลอรีอัลในฐานะผู้นำธุรกิจความงามด้วยเทคโนโลยีหรือบิวตี้ เทค คัมปะนี ให้ความสำคัญกับประเด็นดังกล่าวอย่างมาก ต้องทำความเข้าใจความเสี่ยงจากการใช้เอไอ และความรับผิดชอบในการนำมาใช้เคลื่อนธุรกิจมีอะไรบ้าง
หนึ่งในตัวอย่างใหญ่ ของการนำ Gen AI มาใช้ ซึ่งผลิตภัณฑ์ความงามหรือบิวตี้ ของลอรีอัล มีส่วนช่วยผู้บริโภคทั้งเรื่องเส้นผม ผิวพรรณ และใบหน้า แต่การนำ Gen AI มาใช้ จะไม่มีการเจนเส้นผม ผิวพรรณ ใบหน้าโดยเด็ดขาด ซึ่งประเด็นดังกล่าวไม่ได้เกี่ยวข้องกับสิ่งที่เกินจริงหรือไม่เกินจริง แต่เป็นการให้ลูกค้า ผู้บริโภคได้ใช้ผลิตภัณฑ์แล้วได้ผลลัพธ์ที่แท้จริงเท่านั้น
“เป็นหน้าที่ความรับผิดชอบของทุกองค์กร และองค์กรชั้นนำที่ต้องคิดถึงเรื่องนี้ ไม่ใช่แค่ต้องการนำเอไอมาใช้อย่างเดียว แต่ต้องคิดถึงตั้งแต่ต้นจนจบหรือ End-to-End ด้วย เพราะบริษัทมุ่ง Make Beay for All ด้วยเทคโนโลยี และสิ่งที่เราจะทำต่อไป คือ ทำ Beauty for Each ด้วยพลังของเทคโนโลยี เพื่อตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายแบบเฉพาะคนหรือเพอร์ซันนอลไลซ์ เพราะที่ลอรีอัล เราจะ Create the Beauty the moves the World”
สำหรับลอรีอัล เป็นบริษัทด้านความงามหรือบิวตี้กรุ๊ประดับโลก อยู่ในตลาดยาวนาน 116 ปี สร้างรายได้ 43.48 พันล้านยูโร มีสินค้าป้อนผู้บริโภคในกว่า 150 ประเทศทั่วโลก บริษัทมีการนำเทคโนโลยีเอไอมาใช้หลากมิติรับการเป็น “บิวตี้เทค คัมปะนี”
เทคโนโลยีเอไอเติมเต็ม 2 ด้านสำคัญ ได้แก่ การวิจัยและพัฒนาสินค้าที่มีการผนึกพันธมิตรไอบีเอ็ม ในการหาวัตถุดิบส่วนผสมมาใช้กับลูกค้า รวมถึงวัตถุดิบที่ตอบโจทย์ความยั่งยืนของโลกด้วย ใช้เอไอในการวิเคราะห์ผิวให้ลูกค้า เพื่อแนะนำสินค้าให้เหมาะสมกับแต่ละสภาพผิว และคาดการณ์ผิวลักษณะต่างๆ ใน 5-10 ปีข้างหน้าจะเผชิญปัญหาผิวแบบใด เพื่อหาทางปกป้องผิว
นอกจากนี้ ยังใช้เอไอเพื่อใช้วางแผนสื่อสารการตลาดและโฆษณาให้เหมาะสม ในฐานะที่ลอรีอัลเป็นผู้ใช้งบโฆษณาสูงอันดับ 4 ของโลก เป็นต้น
“บริษัทมีการนำเอไอมาออพติไมซ์การใช้จ่ายงบโฆษณา ผ่านโปรแกรมภายใน รวมถึงการทำ augmented กิจกรรมง่ายๆ งานครีเอทีฟสื่อสารการตลาด ในโลก ตัวอย่างลอรีอัลมีแบรนด์ และข้อความที่จะสื่อสารข้ามโลกในตลาดกว่าร้อยประเทศ จึงต้องสร้างคอนเทนต์ที่เกี่ยวข้องกับลูกค้าแต่ละประเทศ ด้วยการนำเอไอมาใช้ทำแคมเปญวิดีโอโฆษณา 6 ชุด สื่อสารกับ 6 คนไม่เหมือนกัน ขั้นกว่าคือการนำ Gen AI มาวิดีโอตอบโจทย์แต่ละท้องถิ่น 392 วิดีโอ โดยใช้เอไอช่วย หรือแบรนด์ YSL ทำเพอร์ซันนอลไลซ์เพื่อแนะนำสินค้าให้แต่ละคน เป็นต้น”
ลอรีอัล ยังมีลูกค้าเป็นกลุ่มธุรกิจหรือ B2B ในกลุ่มร้านเสริมสวย ร้านทำผมหรือร้านซาลอน มีการนำเอไอมาใช้สำหรับช่างสระผมที่ใช้น้ำมหาศาล จึงพัฒนาฝักบัวที่ใช้ในร้านซาลอนที่มีเอไอเซนเซอร์ขณะล้างผมให้ลูกค้าประเมิน ผมมัน ฟองแชมพู เพื่อปรับปริมาณน้ำให้เหมาะสม ซึ่งช่วยลดปริมาณน้ำได้ 69% ประหยัดเงินมหาศาล และยังช่วยโลกประหยัดน้ำแล้ว 500 ล้านลิตร ประหยัดพลังงานไฟฟ้า 2 ล้านกิโลวัตต์
ในวันที่เทคโนโลยีทรงพลัง อย่างการประชุมผ่านโปรแกรมไมโครซอฟต์ ลอรีอัล ยังนำแบรนด์เมย์เบลลีนไปสร้างสรรค์ฟิลเตอร์แต่งหน้าให้ผู้บริโภคใช้แต่งหน้า เขียนคิ้ว ทาปาก ปัดแก้มแต้มสีสันระหว่างประชุมได้ เป็นต้น
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์