‘ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค’ ลุยลงทุนพันล้าน เร่งโต ‘เป๊ปซี่’ เพิ่มสัดส่วนเครื่องดื่มไม่อัดลม

'ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค' มองโอกาสโตทั้งน้ำอัดลม และเครื่องดื่มไม่อัดลม เดินหน้าลงทุนกว่า 1,000 ล้านบาท ขยายไลน์ผลิตโรงงานสระบุรี เผย "เป๊ปซี่" ส่วนแบ่งตลาด 39.1% โตต่อเนื่อง
7 ปี ถือเป็นไมล์สโตนใหม่ของยักษ์เครื่องดื่มโลกอย่าง “ซันโทรี่" และ "เป๊ปซี่โค” กับบทบาทเป็นพันธมิตรร่วมทุน สร้าง “ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค เบเวอเรจ (ประเทศไทย)” เพื่อนำเครื่องดื่มภายใต้พอร์ตโฟลิโอทั้ง 2 ฝ่ายมานำเสนอ ตอบโจทย์ผู้บริโภค
การเดินทาง 7 ปี บริษัทสร้างการเติบโตให้กับ “น้ำอัดลม” แบรนด์โลก “เป๊ปซี่” มีส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง และยังเสริมแกร่งด้วยเครื่องดื่มที่ไม่ใช่น้ำอัดลม เช่น กาแฟพร้อมดื่มพรีเมียม “บอส คอฟฟี่” เป็นต้น
ล่าสุด บริษัทยังมีแม่ทัพใหม่ “ทานุจ ชาดา” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค เบเวอเรจ (ประเทศไทย) จำกัด ที่มีประสบการณ์เคลื่อนธุรกิจแห่งนี้ ดูแลระบบการขายในไทยมาก่อน รวมถึงการบริหารงานระดับภูมิภาค และตลาดอินเดียมาแล้ว
ก่อนฉายวิชั่นปี 2568 “ทานุจ” เล่า 7 ปีแห่งความสำเร็จของ “ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค” สร้างการเติบโตของธุรกิจเครื่องดื่มได้ถึง 8.2% มากกว่าตลาด 2 เท่าตัว ส่วนแบ่งทางการตลาดเครื่องดื่มน้ำอัดลม ที่มี “เป๊ปซี่” เป็นฮีโร่เพิ่มขึ้น 2.7% ส่งผลให้ส่วนแบ่งทางการตลาดรวมน้ำดำเป๊ปซี่อยู่ที่ 39.1% ไม่เพียงเท่านั้นน้ำอัดลมสูตรไม่มีน้ำตาลยังเติบโตสูงถึง 16.1%
สะท้อนภาพการไต่บัลลังก์เบอร์ 1 น้ำอัดลมของ “ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค” ในประเทศไทย ซึ่งเป็นตลาดสำคัญด้วย
ปี 2568 “ทานุจ” ยังมองตลาดเครื่องดื่มในประเทศไทยเติบโต โดยเฉพาะน้ำอัดลม เมื่อผสานกับความเชื่อมั่นที่มีต่อแบรนด์ในพอร์ตโฟลิโอของบริษัท จึงมองการเติบโต 2 เท่าตัวจากตลาดต่อเนื่องปี 2567
“ยอมรับว่าปีนี้อุปสรรคค่อนข้างมากเป็นพิเศษ แต่เราเชื่อมั่นในวัฒนธรรมองค์กร เชื่อมั่นในแบรนด์สินค้า และทีมงาน ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้เราพยายามยิ่งยิ่งเพื่อผลักดันการเติบโต"
กลยุทธ์ “Must Win” ยังเป็นหัวใจสำคัญหนุนการเติบโตปี 2568 อีกด้านบริษัทเดินหน้าลงทุนกว่า 1,000 ล้านบาท เป็นการลงทุนใหญ่สุดในรอบ 7 ปี ภายใต้ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค เพื่อขยายการผลิตเครื่องดื่มเพิ่มอีก 50% สำหรับโรงงานที่จังหวัดสระบุรี ในหมวดน้ำอัดลม และเครื่องดื่มไม่ใช่น้ำอัดลม เช่น ชาพร้อมดื่มลิปตัน และทีพลัสบางส่วน ซึ่งการขยายไลน์การผลิตสินค้าจะแล้วเสร็จในปีนี้
ส่วนการทำตลาดปีนี้ ยังคงเดินหน้าสร้างสรรค์สินค้านวัตกรรม เครื่องดื่มรสชาติใหม่ๆ ออกสู่ตลาดตอบสนองความต้องการ และเทรนด์ผู้บริโภค เสริมแกร่งการขาย ซัพพลายเชนทั้งโรงงาน รวมถึงการบริการลูกค้า คู่ค้า และผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายให้ดียิ่งขึ้น
“วิสัยทัศน์ของเราคือการเดินหน้าสู่การเป็นบริษัทเครื่องดื่มที่ผู้บริโภครักมากที่สุดในประเทศไทย โดยมุ่งเน้นความต้องการของผู้บริโภคอย่างแท้จริง หรือ The Most Beloved Beverage Company in Thailand with True Gemba Centricity ที่นำอินไซต์ใส่ในทุกอย่างทั้งตอบโจทย์ผู้บริโภค คู่ค้า พนักงาน รวมถึงยึดถือคุณค่าหลักขององค์กรทั้งการเติบโตอย่างยั่งยืนหรือ Growing for Good การมีจิตวิญญาณของผู้กล้าลงมือทำ สร้างนวัตกรรมสิ่งใหม่ ไม่กลัวความผิดพลาด ฝัน คิดให้ใหญ่หรือ Yatte Minahare และการตอบแทนสังคมหรือ Giving Back to Society”
ด้าน อนวัช สังขะทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการตลาด บริษัท ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค เบเวอเรจ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ภาพรวมตลาดเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ในไทยยังเติบโตทุกหมวดหมู่(แคทิกอรี) แม้การบริโภคเครื่องดื่มต่อคนของคนไทยจะมาก แต่ตลาดยังมี “ช่องว่างให้ดื่ม” อีกมาก แต่ละแคทิกอรีมีการเปลี่ยนแปลงตลอด
ทั้งนี้ น้ำอัดลมและเป๊ปซี่ ถือเป็นพอร์ตโฟลิโอใหญ่ของบริษัท สัดส่วนราว 75% การเติบโตยังเพิ่ม โดยปี 2568 บริษัทตั้งเป้าเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดเป็น 40% อีกด้านจะผลักดันเครื่องดื่มไม่ใช่น้ำอัดลม ทั้งชาพร้อมดื่มลิปตัน ทีพลัส กาแฟพร้อมดื่มบอส คอฟฟี่ เครื่องดื่มให้พลังงานสติงค์ ฯ ให้สัดส่วนเพิ่มเป็น 25% ใน 3-5 ปีข้างหน้า หลังเทรนด์การเติบโตสูง อย่างชา กาแฟพร้อมดื่มโต 11% ส่วนน้ำอัดลมยังโตแต่สัดส่วนจะอยู่ที่ 70%
ปี 2568 จะเห็นการ “รีแบรนด์ รีโพสิชันนิง และปรับกลุ่มเป้าหมาย” ของน้ำสี “มิรินด้า” และ “เซเว่นอัพ” ในรอบ 3 ปี หลังพบโจทย์การสื่อสารตลาดน้ำสีเหมือนกันทุกแบรนด์จนผู้บริโภคอาจจำผิด
“น้ำสีมิรินด้า เรายังพบว่ากลุ่มเป้าหมายเติบโตมากกว่าคนรุ่นใหม่ หรือเจนซี(Z) ซึ่งน้ำสีของบริษัทมีส่วนแบ่งตลาด 9%”
อนวัช สังขะทรัพย์-ทานุจ ชาดา-ยศยุต สหวัชรินทร์
ส่วนตลาดภาพรวมตลาดเครื่องดื่มหน้าร้อน โดยเฉพาะน้ำอัดลมคาดการณ์เติบโต 15-20% เทียบช่วงปกติ และไฮซีซันซัมเมอร์บริษัททุ่มงบ 35% ของทั้งปีเพื่อทำตลาด และโกยยอดขาย 35% เทียบทั้งปีด้วย
“3 เดือนแรกปีนี้ ตลาดเติบโตช้ากว่าที่คาด เพราะสภาพอากาศร้อนช้า ฝุ่นเยอะ ทำให้คนออกจากบ้านน้อยลง มีผลต่อการบริโภค เทียบกับ 4 เดือนแรก(ม.ค.-เม.ย.)ปีก่อนตลาดเติบโตสูงราว 14% แต่ภาพรวมปีนี้เชื่อว่าตลาดเครื่องดื่มยังเติบโต ส่วนน้ำอัดลมกลุ่มโคล่าหรือน้ำดำคาดทั้งปีโต 4-5%”
ด้านภาษีความหวานระยะที่ 4 มีผล 1 เม.ย.นี้ บริษัทพยายามปรับสูตรความหวานให้สอดคล้องกับความต้องการผู้บริโภค และบริการจัดการต้นทุนให้มีประสิทธิภาพ โดยยังไม่มีแผนพิจารณาเรื่องราคาสินค้า