ส่องงาน ‘ITB Berlin 2025‘ เมื่อ 170 ประเทศพาเหรดขนของดีน่าเที่ยว โปรโมตไม่มีกั๊ก!

“กรุงเทพธุรกิจ” ร่วมเดินทางสำรวจบรรยากาศงาน ITB Berlin 2025 ที่มีผู้ประกอบการมากกว่า 5,800 ราย จากกว่า 170 ประเทศทั่วโลก ร่วมออกบูธเต็มพื้นที่การจัดงาน ภายใต้สโลแกน “The World of Travel Lives Here” สีสันบรรยากาศเต็มไปด้วยความคึกคัก ผู้ประกอบการพร้อมซื้อขายสินค้าและบริการท่องเที่ยวในปี 2025 รับเทรนด์การเติบโตของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวโลก

จากผลการสำรวจล่าสุด World Travel Monitor® ของ IPK International ระบุว่าตลาดนักท่องเที่ยวขาออก (Outbound Travel) ในปี 2024 เพิ่มขึ้น 13% ฟื้นขึ้นมาจากระดับปี 2562 ก่อนการแพร่ระบาดของโควิด-19

เริ่มกันที่ “ประเทศไทย” ความพิเศษในปีนี้ ทางการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้ขยายขนาดพื้นที่คูหาของประเทศไทยจากขนาด 540 ตารางเมตร เป็น 1,820 ตารางเมตร หรือขนาด 1 Hall ของ ITB Berlin เพื่อให้สอดรับกับการประกาศให้ปี 2568 เป็นปี “Amazing Thailand Grand Tourism & Sports Year 2025” มีจำนวนผู้ประกอบการที่เข้าร่วมในครั้งนี้ 160 รายจาก 5 ภูมิภาคทั่วประเทศไทย ทั้งจากเมืองท่องเที่ยวหลักและเมืองน่าเที่ยว เรียกว่ามากที่สุดนับตั้งแต่ไทยเข้าร่วมงาน ITB Berlin เป็นครั้งที่ 50 เพื่อโปรโมต “เสน่ห์ไทย” หรือซอฟต์พาวเวอร์ที่สามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจการท่องเที่ยวได้ เช่น อาหารไทย มวยไทย และแหล่งท่องเที่ยวในไทย ซึ่งหลายๆ จุดถูกเลือกให้เป็นโลเกชั่นถ่ายภาพยนตร์และซีรีส์ดัง ล่าสุดคือ The White Lotus ซีซั่น 3 ซึ่งมี ลิซ่า แบล็กพิงค์ ซูเปอร์สตาร์ชาวไทยร่วมแสดง และ Jurassic World ภาค 4 ที่มีกำหนดฉายกลายปีนี้

หนึ่งในไฮไลต์พิเศษหลังมีการขยายขนาดพื้นที่คูหา คือ “พื้นที่การสร้างโอกาส” (Opportunity Area) แก่ผู้ประกอบการท่องเที่ยวใน “เมืองน่าเที่ยว” ที่ไม่เคยได้มาร่วมงานนี้ ได้เข้าร่วมงานเป็นครั้งแรก จึงมีการจัดโซนเมืองน่าเที่ยว (Hidden Gem Cities) เป็นพื้นที่เจรจาธุรกิจของผู้ประกอบการธุรกิจจากเมืองน่าเที่ยว 17 จังหวัดจาก 5 ภูมิภาคทั่วประเทศไทยโดยเฉพาะ

ด้านประเทศคู่แข่งในภูมิภาคเอเชีย การออกแบบบูธ “ญี่ปุ่น” มาในธีมเรียบง่าย ตอกย้ำภาพจำ “แดนซากุระ” ซึ่งเป็นไฮไลต์สำคัญและกำลังจะมาถึงในเดือน มี.ค.-เม.ย.

ขณะที่ “เกาหลีใต้” นำเสนอกิจกรรมเกม Red Light, Green Light ให้ผู้เข้าร่วมงานได้ร่วมสนุก ฟีลคล้ายๆ ฉากในซีรีส์เกาหลี “Squid Game” จาก Netflix ที่โด่งดังแบบถล่มทลายทั่วโลก เหล่าตัวละครผู้เข้าแข่งขันเกมต้องฝ่าด่านเกม “AEIOU หยุด” ที่มีเสียงร้องเพลง “มูกุงฮวาโกชี พีออตซึมนีดา” เชื่อว่าใครหลายคนจำได้แม่น

ด้าน “มัลดีฟส์” เจ้าของภาพลักษณ์ “ลักชัวรี เดสติเนชัน” มาในธีมวิลล่าตู้ปลากลางน้ำ ฉาบบรรยากาศผืนน้ำทะเลสีฟ้าใส ตัดกับโลกใต้ทะเลสีน้ำเงินเข้มดึงดูดสายตา ชวนให้รู้สึกผ่อนคลาย

ส่วนประเทศอื่นๆ ในอาเซียนปีนี้ “ฟิลิปปินส์” จัดเต็มเรื่องภาพลักษณ์หาดทรายชายทะเล จุดขายที่นักท่องเที่ยวยุโรปชื่นชอบ ฟากการออกแบบบูธของ “สิงคโปร์” ตอกย้ำตำแหน่งผู้นำเดสติเนชันด้านการท่องเที่ยวแบบมนุษย์สร้าง (Manmade Destination)

ข้ามฟากมาที่โซนของภูมิภาค “ตะวันออกกลาง” ข้อมูลจากทาง UN Tourism ระบุว่าในปี 2024 มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเยือนตะวันออกกลางรวม 95 ล้านคน เติบโตอย่างแข็งแกร่ง เพิ่มขึ้น 32% เทียบกับปี 2019 ก่อนโควิดระบาด จุดหมายปลายทางที่เติบโตอย่างโดดเด่นคือ “กาตาร์” เพิ่มขึ้น 137% เทียบกับปี 2023 “ซาอุดีอาระเบีย” เพิ่มขึ้น 69% และ “จอร์แดน” เพิ่มขึ้น 16%

หลายประเทศทุ่มทุนสร้าง จัดเต็มเรื่องการออกแบบ นำเสนอโปรดักต์ และเทคโนโลยี ให้ผู้เข้าร่วมงานได้เอ็นจอย เช่น “ซาอุดีอาระเบีย” ปีนี้มาพร้อมสโลแกน “This Land is Calling” หนึ่งในไฮไลต์ด้านการท่องเที่ยวคืออีเวนต์การแข่งขันรถฟอร์มูล่าวัน (F1) ในซาอุดีฯ จึงจำลองรถแข่งเอฟวันพร้อมเกมให้ผู้เข้าร่วมงานได้ทดลองสวมวิญญาณนักซิ่งกันอย่างสนุกสนาน สอดรับกับกลยุทธ์การจัดอีเวนต์กีฬาระดับโลกเพื่อดึงคนมาเที่ยว ส่วนทางด้าน “จอร์แดน” ออกแบบบูธเชิญชวนนักท่องเที่ยวมาสัมผัสการท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์

ขณะที่บรรดา “สายการบิน” ต่างๆ เช่น เอมิเรตส์ มาพร้อมบูธใหญ่สุดอลังการ นำเสนอไวบ์ความหรูหรา สะดวกสบาย ผ่านที่นั่งชั้นโดยสารแบบต่างๆ ให้ได้สัมผัสกัน

นอกจากนี้ โซนภูมิภาคยุโรป ผู้เข้าชมงานเนืองแน่นอย่างยิ่ง แต่ละเมือง แต่ละประเทศต่างโปรโมตกิจกรรมท่องเที่ยวอย่างเต็มกำลัง โดยเฉพาะประสบการณ์แบบเข้าถึงท้องถิ่น และการท่องเที่ยวแบบยั่งยืน

ขณะที่ “อียิปต์” จุดหมายปลายทางที่ได้รับความนิยมสูงจากนักท่องเที่ยวทั่วโลก โดยเฉพาะฝั่งยุโรป ต่างขนเอกลักษณ์ เช่น พีระมิด และพิพิธภัณฑ์อียิปต์ แหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์มาอวดสายตา เป็นแลนด์มาร์กที่แขกไปใครมา ต้องไม่พลาดแวะมาถ่ายรูป