ไทยบูม ‘เวลเนสทัวริสซึ่ม’ ชิงตลาดยักษ์ ‘TOP 5 โลก’

ท่องเที่ยวไทย ติดอาวุธ “เวลเนส ทัวริสซึ่ม” ลั่นท้าชนท็อป 5 โลก “สหรัฐ-เยอรมนี-จีน-ฝรั่งเศส-ญี่ปุ่น” ชิงฐานทัวริสต์ลักชัวรี ใช้จ่ายสูง “บีดีเอ็มเอส เวลเนส คลินิก” คาดปี 68 นักท่องเที่ยวกลุ่มเวลเนสทุบสถิติเดินทางเข้าไทยมากกว่า 15 ล้านคน แซงปี 62 ก่อนโควิด
KEY
POINTS
- ท่องเที่ยวไทย ติดอาวุธ “เวลเนส ทัวริสซึ่ม” ลั่นท้าชนท็อป 5 โลก “สหรัฐ-เยอรมนี-จีน-ฝรั่งเศส-ญี่ปุ่น” ชิงฐานทัวริสต์ลักชัวรี ใช้จ่ายสูง
- “บีดีเอ็มเอส เวลเนส คลินิก” คาดปี 68 นักท่องเที่ยวกลุ่มเวลเนสทุบสถิติเดินทางเข้าไทยมากกว่า 15 ล้านคน แซงปี 62 ก่อนโควิด รับเทรนด์ดูแลสุขภาพเปลี่ยน มายด์เซ็ต “อายุเป็นเพียงตัวเลข” คนแห่ใช้บริการเวชศาสตร์เชิงป้องกัน
- “ไวทัลไลฟ์ฯ บำรุงราษฎร์” ชี้เทรนด์ดูแลสุขภาพเพื่ออายุยืน หนุนตลาดเที่ยวหรูยุคใหม่ในไทยโตเด่น
- ด้านนายกฯ “แพทองธาร” ชู “เวลเนส” หนึ่งในเครื่องมือดันรายได้ประเทศโตก้าวกระโดด
ขนาดตลาด “เศรษฐกิจเพื่อสุขภาพ” (Wellness Economy) ของประเทศไทย คิดเป็นมูลค่าประมาณ 1.2 ล้านล้านบาทเมื่อปี 2565 ได้รับการขับเคลื่อนจาก “การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ” (Wellness Tourism) โดยในปีเดียวกันมีมูลค่าการใช้จ่าย 2.96 แสนล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 22% เป็นรองเพียงแค่การดูแลสุขภาพทางโภชนาการและการจัดการน้ำหนักซึ่งครองสัดส่วน 26%
เมื่อดูในเชิงจำนวนพบด้วยว่าในปี 2565 การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพในประเทศไทย บันทึกจำนวนการเดินทางไว้ทั้งหมด 10 ล้านคน-ครั้ง โดยกว่า 78% เป็นการเดินทางภายในประเทศ และ 94% ถือเป็นการเดินทางรอง ซึ่งรวมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพเข้ากับการท่องเที่ยวเพื่อการพักผ่อนในวงกว้าง ตามรายงานของซีไนน์ โฮเทลเวิร์คส์ (C9 Hotelworks)
นายแพทย์ตนุพล วิรุฬหการุญ ประธานคณะผู้บริหาร บีดีเอ็มเอส เวลเนส คลินิก และบีดีเอ็มเอส เวลเนส รีสอร์ท บริษัทกรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) หรือ BDMS กล่าวว่า ในปี 2566 ประเทศไทยมีนักท่องเที่ยวเชิงสุขภาพจำนวน 13.5 ล้านคน มากเป็นอันดับ 15 ของโลก คาดว่าในปี 2568 จะแซงปี 2562 ก่อนโควิดระบาด ซึ่งมีจำนวน 15 ล้านคน มากเป็นอันดับ 7 ของโลก
“บีดีเอ็มเอส เวลเนส คลินิก ต้องการเป็นส่วนหนึ่งร่วมผลักดันให้การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพเป็นอาวุธใหม่ของประเทศไทย พร้อมก้าวสู่ 5 อันดับแรกของโลก จากปัจจุบันมีสหรัฐ เยอรมนี จีน ฝรั่งเศส และญี่ปุ่น ติดโผท็อป 5 ดังกล่าวตามลำดับ”
นายแพทย์ตนุพล วิรุฬหการุญ
มายด์เซ็ต “สังคมสูงวัย” แห่ดูแลตัวเอง
หมุดหมาย “เวลเนส ฮับ ไทยแลนด์” (Wellness Hub Thailand) จึงเป็นภารกิจที่มองว่าทำคนเดียวไม่ได้ ต้องร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเป้าหมายให้ผู้คนมีสุขภาพดีขึ้น ตายช้าลง เน้นการดูแลสุขภาพในเชิงป้องกัน
สอดรับกับสถานการณ์สังคมสูงวัย ซึ่งปัจจุบันประเทศไทยเข้าสู่สังคมสูงวัยอย่างสมบูรณ์ ด้วยจำนวนประชากรที่มีอายุมากกว่า 60 ปี มีสัดส่วนเกิน 20% แล้ว จึงมองว่านิยามใหม่ของคำว่าแก่ ควรเริ่มตอนป่วยจะดีกว่า วรรคทอง “อายุเป็นเพียงตัวเลข” จึงไม่ใช่เรื่องเกินจริง เพราะอายุเท่าไรไม่สำคัญ ขอแค่มีสุขภาพดี อายุยืนยาวก็เพียงพอ หากยังหนุ่ม แต่เจ็บป่วย ย่อมส่งผลกระทบหลายด้านตามมา
นอกจากนี้ โรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) ก็เป็นอีกปัจจัยสำคัญที่คร่าชีวิตคนไปมาก จากสถิติเมื่อปี 2566 ทุกๆ 100 คนทั่วโลก พบว่าเสียชีวิตด้วยโรค NCDs กว่า 74% หรือคิดเป็น 45 ล้านคนต่อปี เห็นตัวเลขนี้แล้ว แน่นอนว่าการป้องกันย่อมดีกว่า
แนวโน้ม “ดูแลเชิงป้องกัน” โตเร็ว
สำหรับภาพรวมจำนวนคนไข้และผู้มาใช้บริการในเครือ BDMS ทั้งหมดมีกว่า 10 ล้านคนต่อปี โดยแบ่งเป็นชาวต่างชาติ 2-3 ล้านคน ตลาดที่เข้าใช้บริการมากเป็นอันดับ 1 คือ กลุ่มประเทศอ่าวอาหรับ มากที่สุดคือสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ขณะที่ซาอุดีอาระเบียเติบโตสูงสุดในปีที่ผ่านมา ส่วนอันดับ 2 จีน และอันดับ 3 กลุ่มประเทศ CLMV (กัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม)
ทั้งนี้พบว่ามีผู้ใช้บริการด้านเวชศาสตร์เชิงป้องกัน (Preventive Medicine) สัดส่วน 11% ของผู้ใช้บริการทั้งหมด หรือคิดเป็น 1 ล้านคนต่อปีรวมทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ อาจเป็นตัวเลขที่ดูน้อยในวันนี้ แต่แนวโน้มจะเติบโตเร็วมาก เพราะไม่กี่ปีก่อนการระบาดของโควิด-19 ยังมีสัดส่วนผู้ใช้บริการเวชศาสตร์เชิงป้องกันเพียง 1-2%
เทรนด์ “อายุยืน” หนุนตลาดเที่ยวหรูในไทยโต
แพทย์หญิงวรรณวิพุธ สรรพสิทธิ์วงศ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจาก VitalLife Scientific Wellness Centerและโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ กล่าวว่า การดูแลสุขภาพเพื่ออายุยืน กำลังเป็นพรมแดนใหม่ที่ช่วยขับเคลื่อนการเติบโตแก่ตลาดการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ
“การท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพและอายุยืน (Longevity Tourism)กำลังกลายเป็นเทรนด์สำคัญในตลาดท่องเที่ยวลักชัวรียุคใหม่ของประเทศไทย เพื่อให้ดูมีอายุน้อยลง ผู้สนใจบริการด้านนี้มีอายุตั้งแต่ 44-59 ปี”
ด้วยโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์เป็นหนึ่งในผู้นำการดูแลสุขภาพแบบองค์รวมและอายุยืน มีจุดแข็งเรื่องบริการทางการแพทย์ แต่ละปีมีผู้มาใช้บริการหลักล้านคน จึงนำข้อมูลมาวิเคราะห์อย่างละเอียดและแม่นยำ ทั้งยังได้ร่วมมือกับผู้ประกอบการฮอสพิทาลิตี้ช่วยกันขับเคลื่อนอุตสาหกรรมให้เติบโตเพื่อรองรับการมองหาประสบการณ์ใหม่ๆ และสิ่งสำคัญที่ผู้ใช้บริการมองหาคือต้องเห็นผลลัพธ์ ทางศูนย์ส่งเสริมสุขภาพไวทัลไลฟ์ซึ่งมีประสบการณ์เชี่ยวชาญมานานกว่า 24 ปี จึงเน้นออกแบบโปรแกรมเฉพาะสำหรับผู้ใช้บริการแต่ละคนเพื่อตอบโจทย์ด้านผลลัพธ์
แพทย์หญิงวรรณวิพุธ สรรพสิทธิ์วงศ์
นายกฯ ชู“เวลเนส”ดันรายได้ประเทศโตกระโดด
นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวในงานประกาศปีแห่งการท่องเที่ยวและกีฬา “Amazing Thailand Grand Tourism and Sports Year 2025” เมื่อวันที่ 3 ก.พ. ว่า การท่องเที่ยวแบบเที่ยวชมสถานที่หรือ Sightseeing ไม่เพียงพอในการทำให้รายได้ประเทศโตก้าวกระโดด จำเป็นต้องมีการท่องเที่ยวแบบมนุษย์สร้าง เช่น การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ รวมถึงสถานบันเทิงครบวงจร (Entertainment Complex) การลงทุนเพิ่มด้านนี้จึงสำคัญ
“การท่องเที่ยวเป็นเครื่องมือสำคัญในการขับเคลื่อนจีดีพีประเทศ โดยเฉพาะในช่วงการเปลี่ยนผ่านภาคอุตสาหกรรมไทยสู่อุตสาหกรรมดิจิทัล จึงต้องสร้างการเติบโตที่มากขึ้นทั้งจำนวนนักท่องเที่ยวและเม็ดเงินที่ใช้จ่ายต่อหัว ด้วยการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว และการคมนาคมขนส่ง รวมถึงการพัฒนาการท่องเที่ยวแบบมนุษย์สร้าง (Man-made Tourism) ให้สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวทั่วโลก”