‘แพทองธาร’ จุดพลุปีแห่งการท่องเที่ยวและกีฬา 2568 ชูเป้ารายได้ 3.5 ล้านล้าน

‘แพทองธาร’ จุดพลุปีแห่งการท่องเที่ยวและกีฬา 2568 ชูเป้ารายได้ 3.5 ล้านล้าน

วานนี้ (3 ก.พ.) 'แพทองธาร ชินวัตร' นายกรัฐมนตรี ประกาศ 'ปีแห่งการท่องเที่ยวและกีฬา 2568' อย่างยิ่งใหญ่ หนึ่งในกลยุทธ์จุดพลังการท่องเที่ยวไทย เพื่อบรรลุเป้าหมายมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศไทย 39 ล้านคน หนุนสร้างรายได้รวมการท่องเที่ยว 3.5 ล้านล้านบาท

ตลอดจนผลักดันให้ประเทศไทยก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวของภูมิภาค (Tourism Hub) และจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวระดับโลก

นายกฯ แพทองธาร กล่าวแสดงวิสัยทัศน์ปีแห่งการท่องเที่ยวและกีฬาว่า “การท่องเที่ยว” เป็นเครื่องมือเศรษฐกิจสำคัญ ขับเคลื่อนจีดีพีประเทศให้สูงขึ้น โดยเฉพาะในช่วงการเปลี่ยนผ่านภาคอุตสาหกรรมไทยสู่อุตสาหกรรมดิจิทัล จึงต้องสร้างการเติบโตที่มากขึ้นทั้งจำนวนนักท่องเที่ยวและเม็ดเงินที่ใช้จ่ายต่อหัว ด้วยการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว และการคมนาคมขนส่ง รวมถึงการพัฒนา “การท่องเที่ยวแบบมนุษย์สร้าง” (Man-made Tourism) ให้สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวทั่วโลก

พร้อมต่อยอดเทศกาลศิลปวัฒนธรรมไทยด้วยการเสริมความสร้างสรรค์ รวมถึงจัดให้มีเทศกาลใหม่ระดับโลก ทั้งเทศกาลดนตรี อาหาร ศิลปะ ไปจนถึงการเป็นศูนย์กลางทางกีฬา และ “สถานบันเทิงครบวงจร” (Entertainment Complex) ที่รัฐบาลผลักดันให้เป็นหนึ่งในเครื่องมือที่ทำให้การท่องเที่ยวไทยเติบโตมากขึ้น ทั้งนี้เพื่อเสริมจุดแข็ง สร้างความโดดเด่น และความได้เปรียบในการดึงดูดนักท่องเที่ยว ท่ามกลางสภาวะความผันผวนของเศรษฐกิจโลกและสถานการณ์ความไม่แน่นอนต่างๆ รัฐบาลจึงประกาศให้ปี 2568 เป็นปีแห่งการท่องเที่ยวและกีฬา หรือ “Amazing Thailand Grand Tourism and Sports Year 2025”

“การท่องเที่ยวแบบเที่ยวชมสถานที่หรือ Sightseeing ไม่เพียงพอในการทำให้รายได้ประเทศโตก้าวกระโดด จำเป็นต้องมีการท่องเที่ยวแบบมนุษย์สร้าง เช่น การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (Wellness Tourism) และ Entertainment Complex การลงทุนเพิ่มด้านนี้จึงสำคัญ”

ก้าวต่อไปของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยจำเป็นต้องทำให้เต็มที่ในปีนี้ รัฐบาลมุ่งบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงบริหารจัดการข่าวลือต่างๆ ให้ข้อมูลข้อเท็จจริงเพื่อให้คนทั่วโลกสบายใจ ด้วยเป็นเรื่องที่รัฐบาลไม่ได้นิ่งเฉย เมื่อมีข่าวลือส่งผลกระทบต่อประเทศ ต้องรีบจัดการทันที

“ต่อจากนี้เดือนไหนของประเทศไทยก็น่าเที่ยวทั้งนั้น นี่คือสิ่งที่ตั้งใจไว้ และหวังว่าผู้ว่าราชการจังหวัดทุกท่านจะทำให้จังหวัดของตัวเองเป็นจังหวัดน่าเที่ยว รัฐบาลจะช่วยโปรโมตจังหวัดต่างๆ ให้มีศักยภาพเพิ่มมากขึ้น”

‘แพทองธาร’ จุดพลุปีแห่งการท่องเที่ยวและกีฬา 2568 ชูเป้ารายได้ 3.5 ล้านล้าน

 

 

สรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเป็นจุดขาย ทำรายได้ให้กับประเทศไทย โดยก่อนหน้านี้อดีตนายกฯ “เศรษฐา ทวีสิน” ได้เปิดตัวนโยบาย “IGNITE THAILAND’S TOURISM” ไม่ว่าจะเป็นการโปรโมตซอฟต์พาวเวอร์ (Soft Power) และมาตรการยกเว้นวีซ่า (วีซ่าฟรี) แก่นักท่องเที่ยว 93 ประเทศ สะท้อนให้เห็นว่ารัฐบาลดำเนินนโยบายมาถูกทาง

และเมื่อนายกฯ แพทองธาร เข้ามาต่อยอดอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยในปี 2567 ทำให้มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ 35.54 ล้านคน ควบคู่กับจำนวนนักท่องเที่ยวชาวไทย 200 ล้านคน-ครั้ง สร้างรายได้รวมการท่องเที่ยว 2.75 ล้านล้านบาท แม้ไม่ถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้ ด้วยสถานการณ์ต่างๆ เข้ามากระทบเป้าหมายตัวเลขทางเศรษฐกิจ แต่ในปี 2568 นายกฯ แพทองธาร ตั้งเป้ารายได้รวมการท่องเที่ยวไว้ที่ “3.5 ล้านล้านบาท” มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทย 39 ล้านคน

“ในปี Amazing Thailand Grand Tourism and Sports Year 2025 มีเป้าหมายดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทย 39 ล้านคน และสร้างรายได้ทางการท่องเที่ยวรวม 3 ล้านล้านบาท กลับไปเท่าปี 2562 ก่อนเกิดการแพร่ระบาดของโควิด -19 แต่เป้าหมายที่สั่งการให้ ททท.ทำงานคือ ต้องได้นักท่องเที่ยวต่างชาติ 40 ล้านคน ด้านนายกฯ ต้องการเห็นรายได้รวมจากการท่องเที่ยวปีนี้ที่ 3.5 ล้านล้านบาท”

‘แพทองธาร’ จุดพลุปีแห่งการท่องเที่ยวและกีฬา 2568 ชูเป้ารายได้ 3.5 ล้านล้าน

สรวงศ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาได้บูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งดำเนินมาตรการอำนวยความสะดวกเพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีในทุกย่างก้าวและยกระดับประสบการณ์ท่องเที่ยวทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็น การเพิ่มจำนวนที่นั่งและความถี่เที่ยวบินให้เพียงพอต่อการเดินทางท่องเที่ยวอย่างไร้รอยต่อ การให้บริการระบบ ตม.6 ออนไลน์ ยกระดับระบบคมนาคมขนส่งเชื่อมโยงสู่แหล่งท่องเที่ยวทั้งในเมืองหลักและเมืองรอง อาทิ การพัฒนาปรับปรุงสนามบิน เพิ่มมาตรฐานระบบขนส่งมวลชนสาธารณะ พัฒนาบุคลากรด้านการท่องเที่ยวและส่งเสริมให้ผู้ประกอบการยกระดับมาตรฐานความยั่งยืน

และยังได้ผนึกกำลังกับพันธมิตรภาคเอกชน ทั้งสายการบิน โรงแรมที่พัก บริษัทท่องเที่ยวออนไลน์ (OTA) มอบส่วนลดและสิทธิพิเศษให้แก่นักท่องเที่ยวทั้งในเมืองหลักและเมืองน่าเที่ยว และจัดอีเวนต์ระดับโลกครอบคลุมเทศกาลท่องเที่ยวและอีเวนต์ด้านกีฬา เพื่อให้การท่องเที่ยวไทยคึกคักตลอดปี โดยเฉพาะการเป็นเจ้าภาพการแข่งขันกีฬาระดับนานาชาติและระดับโลก อาทิ SEA Games 2025, ASEAN Para Games, FIVB Women’s World Championship 2025

กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาได้ให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับการมุ่งส่งเสริมความปลอดภัย ทั้งการป้องกันเหตุร้าย ป้องกันอุบัติเหตุ การอำนวยความสะดวกและช่วยเหลือนักท่องเที่ยว และเยียวยานักท่องเที่ยว เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในการเดินทางของนักท่องเที่ยว สะท้อนความพร้อมและศักยภาพของประเทศไทยในการก้าวสู่ “เวิลด์คลาส เดสติเนชัน” (World Class Destination) หมุดหมายสำคัญของนักท่องเที่ยวทั่วโลก!

“ภาคการท่องเที่ยวไทยต้องหาจุดขาย เสริมจุดเด่น ต่อยอดในสิ่งที่ควรทำ เพื่อแข่งขันกับนานาประเทศในปีนี้ จึงเป็นที่มาของการประกาศให้ปี 2568 เป็นปีแห่งการท่องเที่ยวและกีฬา”

แม้ว่าในปี 2567 จะเป็นปีแรกที่ “ญี่ปุ่น” มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติไปเยือน 36.87 ล้านคน แซงจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติมาไทย 35.54 ล้านคน เนื่องจากมีปัจจัย “เงินเยนอ่อนค่า” มาสนับสนุน สิ่งที่กระทรวงการท่องเที่ยวฯ ทำในตอนนี้คือ “การแข่งกับตัวเอง” คือพิชิตเป้าหมายให้กลับไปเท่าปี 2562 ก่อนโควิดระบาด ด้วยการเน้นเจาะนักท่องเที่ยวกลุ่มลักชัวรีให้มากขึ้น

ทั้งนี้ รัฐบาลอยู่ระหว่างการเตรียมระบบเพื่อออกมาตรการ “กระตุ้นท่องเที่ยวตลาดในประเทศ” ช่วงประมาณเดือน มิ.ย. 2568 ให้ตลาดในประเทศมีรายได้มากกว่า 1 ล้านล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 1 ใน 3 ของเป้ารายได้รวม 3.5 ล้านบาทบาท เบื้องต้นจะกระตุ้นการท่องเที่ยวตลาดในประเทศ รูปแบบคล้ายกับโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” ซึ่งต้องรอสรุปชื่อใหม่อย่างเป็นทางการ โดยกระทรวงการท่องเที่ยวฯ เสนอให้รัฐช่วยสนับสนุนค่าใช้จ่ายท่องเที่ยว 50% ของค่าห้องพัก หรือรัฐกับนักท่องเที่ยวจ่ายคนละครึ่ง อาจเป็นจำนวน 1 ล้านสิทธิในเฟสแรก