ยักษ์ใหญ่ ยูนิลีเวอร์ เร่งดิจิทัลทรานส์ฟอร์ม ลงทุนเอไอ ยืนแกร่งคอนซูเมอร์ไทย

ยักษ์ใหญ่ ยูนิลีเวอร์ เร่งดิจิทัลทรานส์ฟอร์ม ลงทุนเอไอ ยืนแกร่งคอนซูเมอร์ไทย

ยักษ์ใหญ่ “ยูนิลีเวอร์” องค์กร 100 ปี เร่งดิจิทัลทรานส์ฟอร์ม ใช้ เอไอ ดาต้า เจาะอินไซด์ลูกค้า ประเมินปี 68 ท่ามกลางเศรษฐกิจท้าทายจากกำลังซื้อ มุ่งนำเสนอปรับสินค้าให้เหมาะสม "ไซส์เล็ก" ลง ยังเป็นทางเลือกสำคัญของคนมีกำลังซื้อจำกัด

ยักษ์ใหญ่ผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคในประเทศไทยกับ “ยูนิลีเวอร์”​ ที่อยู่ในตลาดประเทศไทยมาร่วม 100 ปีแล้ว  เป็นหนึ่งในบริษัทที่ได้ทุ่มงบทำตลาด ทั้งออนไลน์และออฟไลน์อันดับต้นๆ ของประเทศไทย ได้ประกาศมีวิสัยทัศน์ครั้งใหม่จาก ซีอีโอ คนใหม่ ที่เข้ามารับตำแหน่งในช่วงเวลา 6-7 เดือนที่ผ่านมา พร้อมนำพาองค์กรขับเคลื่อนด้วยดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ เพื่อวางองค์กรมุ่งเติบโตอย่างยั่งยืน 

อันชุล อะซาวา ประธานบริหารกลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์ครัวเรือนภาคพื้นอาเซียน และประธานกรรมการบริหารกลุ่มบริษัท ยูนิลีเวอร์ ประเทศไทย กล่าวว่า ภาพรวมสินค้าอุปโภคบริโภคในประเทศไทยปี 2568 ที่หลายฝ่ายมองโจทย์ความท้าทายเรื่องเศรษฐกิจ และกำลังซื้อ แต่บริษัทพร้อมมุ่งมั่นขยายตลาดเจาะกลุ่มลูกค้า ทั้งกลุ่มลูกค้าพรีเมียม และลูกค้าทั่วไปในประเทศไทย รวมถึงนำเสนอผลิตภัณฑ์จำนวนมากสู่ตลาด 

ทั้งกลุ่มลูกค้าที่เน้นสินค้าพรีเมียมแบรนด์ โดยพร้อมนำเสนอสินค้ารูปแบบใหม่ๆ สู่กลุ่มลูกค้า เนื่องจากลูกค้ากลุ่มนี้ชื่นชอบการทดลองสินค้าใหม่ๆ ส่วนกลุ่มผู้บริโภคที่มีกำลังซื้ออ่อนลง ซึ่งบริษัทต้องมุ่งที่จะนำเสนอสินค้าให้สอดคล้องกับความต้องการ ทั้ง สินค้าที่มีไซส์เล็กลงในราคาที่ทุกคนสามารถจับต้องได้ สำหรับลูกค้านี้ยังต้องการสินค้าที่มีคุณภาพ และมีช่องทางการเข้าถึงสินค้าได้อย่างสะดวก

“ในยุคที่เศรษฐกิจไม่ดี ลูกค้าอาจไม่ได้ต้องการ ในเรื่องการลดราคา หรือลดกำลังซื้ออย่างเดียว แต่ด้วยความที่ลูกค้ามีกำลังซื้อจำกัด ต้องการหาสินค้าที่มีคุณภาพเหมาะสมในราคาที่เข้าถึงได้ อย่างโลชั่น ลูกค้าไม่ได้ต้องการ สินค้าไม่มีคุณภาพ ทำให้บริษัทยังมุ่งมั่นนำเสนอสินค้าที่มีคุณภาพ การนำเสนอสินค้าไซส์เล็กลงในราคาที่เข้าถึงได้ จึงเชื่อมั่นว่าคุณภาพ และการเข้าถึงสินค้ามีความสำคัญมากกว่า” 

ทั้งนี้การนำเสนอสินค้า และแผนการตลาดของบริษัทได้ปรับให้สอดคล้องกับตลาดประเทศไทยมาตลอด จากการที่บริษัทอยู่ในประเทศไทยมาร่วม 100 ปี ให้สอดรับกับพฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไปตลอด โดยเฉพาะในกลุ่มธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภค (Fast-moving Consumer Goods : FMCG) ทั้งด้านพฤติกรรมการรับสื่อที่เปลี่ยนไป การมีส่วนร่วมหรือปฏิสัมพันธ์กับแบรนด์ รวมถึงมีความคาดหวังต่อแบรนด์สูงขึ้น

“ผมเข้ามาบริหารในประเทศไทยมา 6-7 เดือน เห็นการเปลี่ยนแปลงคือ การขยายตัวของช่องทางออนไลน์ และออฟไลน์ โดยเฉพาะออนไลน์เติบโตรวดเร็วมาก ทำให้บริษัทยังให้น้ำหนักทำตลาดทั้งสองช่องทางให้เหมาะสม มุ่งนำเสนอคอนเทนต์ และแผนต่างๆ ให้ตรงกับลูกค้า” 

ยักษ์ใหญ่ ยูนิลีเวอร์ เร่งดิจิทัลทรานส์ฟอร์ม ลงทุนเอไอ ยืนแกร่งคอนซูเมอร์ไทย

แผนของ “ยูนิลีเวอร์” ในบทบาทการเป็นผู้นำของอุตสาหกรรม และนวัตกรรมดิจิทัลและได้มุ่งการดำเนินธุรกิจที่ยึดบริโภคเป็นศูนย์กลาง ทำให้ได้ปฏิวัติองค์กรสู่ดิจิทัล (Digital Transformation) รวมถึงนำนวัตกรรมมาใช้ทั้ง เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือ เอไอ (Artificial Intelligence : AI) และ แมชชีน เลิร์นนิง (Machine Learning) พร้อมได้ใช้ข้อมูล (Data) และความสนใจเชิงลึก (Insight) มาวิเคราะห์ข้อมูล เพื่อปรับแผนการทำตลาดออนไลน์ และออฟไลน์ให้สอดคล้องกัน 

สำหรับการพัฒนาเทคโนโลยี ได้มีทีมภายใน การพัฒนาเทคโนโลยี และเอไอ กับ "ลีเวอร์ ยู (LeverU)" ผ่านการแพลตฟอร์มที่โซลูชัน เอไอ สอดคล้องกับการขับเคลื่อนกลยุทธ์ โซเชียล เฟิร์ส (Social First) มุ่งยึดผู้บริโภคเป็นศูนย์กลาง ประกอบไปด้วย 3 ด้านมาผสมคือ Predictive AI: เครื่องมือที่ช่วยคาดการณ์ในด้านต่างๆ ผสมด้วยการใช้ เคโอแอล (KOLs) ร่วมดึงดูดกลุ่มเป้าหมาย โดยวิเคราะห์จากข้อมูลความสนใจ และพฤติกรรมของผู้บริโภค พร้อมนำเสนอเนื้อหาที่น่าสนใจ และสอดคล้องกับสิ่งที่ผู้บริโภคให้ความสนใจสูง

พร้อมด้วยการมี Generative AI: เครื่องมือที่ช่วยสร้างสรรค์เนื้อหาของแบรนด์โดยการใช้ อินไซด์ มาร่วมนำเสนอเนื้อหาให้สอดคล้องกับความต้องการเฉพาะของแต่ละบุคคล พร้อมด้วย Reinforcement Learning AI: โซลูชันที่ช่วยปรับปรุง และเพิ่มประสิทธิภาพแคมเปญแบบ 360 องศา มาจากการเรียนรู้จากข้อมูลการใช้งาน และผลลัพธ์ของแคมเปญที่ผ่านมา พร้อมและนำมาปรับใช้ในแคมเปญในปัจจุบัน จึงส่งผลต่ออัตราการมีส่วนร่วม (Engagement) และการซื้อสินค้า (Conversion) ให้สูงขึ้น

 

ยักษ์ใหญ่ ยูนิลีเวอร์ เร่งดิจิทัลทรานส์ฟอร์ม ลงทุนเอไอ ยืนแกร่งคอนซูเมอร์ไทย

 

"นิดารัตน์ อุไรเลิศประเสริฐ" ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารการตลาดธุรกิจผลิตภัณฑ์ในครัวเรือนกลุ่มบริษัท ยูนิลีเวอร์ ประเทศไทย มาเลเซีย สิงคโปร์ พม่า กัมพูชา และลาว เสริมว่า ประเทศไทยยังเป็นฐานสำคัญของ “Unilever Excellence Lab” ศูนย์ในการทำ "ศูนย์ความเป็นเลิศด้านการทดลอง และเรียนรู้" ในภูมิภาคอาเซียนอีกด้วย 

ทำให้ศูนย์ฯ แห่งนี้ในประเทศไทย มุ่งพัฒนา และทดสอบโครงการต่างๆ ขยายไปในภูมิภาคอื่นๆ ของอาเซียน ทำให้บริษัทสามารถ "เรียนรู้จากความผิดพลาดได้อย่างรวดเร็ว" (Fail fast and learn fast) พร้อมปรับปรุงแผนต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว เพื่อสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันรวมถึงสร้างสรรค์แผนดิจิทัล มาร์เก็ตติ้งให้สอดรับกับกลุ่มลูกค้ามาตลอด 

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์