“เฮเฟเล่” บิ๊กแบรนด์เยอรมนี ลุยเอ็นเตอร์เทนเมนต์ฯ เจาะโรงแรม มุ่งหมื่นล้าน

ในปี 2567 เป็นอีกปีหลายกลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับตลาดอสังหาริมทรัพย์ทั้งขนาดใหญ่และเล็ก ต่างต้องต้องปรับแผนธุรกิจตามโจทย์ของตลาดที่เปลี่ยนแปลงไป โดยเฉพาะความท้าทายของกำลังซื้อที่ไม่เหมือนเดิม รวมถึง “เฮเฟเล่” บิ๊กแบรนด์จาก ประเทศเยอรมนีที่อยู่ในตลาดโลกมา 100 ปี และเข้ามาทำตลาดในประเทศไทยได้ 30 ปีแล้ว วางแผนเร่งขยายพอร์ตโฟลิโอสินค้าขยายน่านน้ำใหม่ๆ เพื่อร่วมเสริมแบรนด์ให้เติบโต 

“จอห์น แคลร์” กรรมการผู้จัดการ บริษัท เฮเฟเล่ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ภาพรวมตลาดเฟอร์นิเจอร์และเครื่องใช้ไฟฟ้า รวมถึงสินค้าฮาร์ดแวร์ที่เกี่ยวข้องกับตลาดอสังหาริมทรัพย์และสำนักงานมีการเปลี่ยนแปลงไปตั้งแต่โควิด สะท้อนได้จากกลุ่มลูกค้าต้องการสินค้าที่มีดีไซน์ มีฟังก์ชั่นหลากหลายผสมด้วยนวัตกรรมมากขึ้น โดยในปีนี้ตลาดอยู่ในภาวะชะลอตัว โดยเซกเมนต์ที่มีการขยายตัวดีอยู่จะเป็นกลุ่มพรีเมียมและกลุ่มลักชัวรี ส่วนกลุ่มอื่น ๆ มีทิศทางชะลอตัว 

ทั้งนี้จากทิศทางตลาดรวมที่เปลี่ยนแปลงไป ทำให้บริษัทได้มุ่งนำเสนอสินค้าของแบรนด์ เฮเฟเล่ (Häfele) มุ่งผสมนวัตกรรมและบริการทั้งนวัตกรรมและดีไซน์ ผสมผสานด้วยสินค้าที่สอดรับกับความยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (ESG) ทั้งการออกแบบสินค้า และบรรจุภัณฑ์ เนื่องจาก บริษัทแม่จากเยอรมัน ได้ทุ่มงบลงทุนพัฒนาในด้านความยั่งยืนมาต่อเนื่อง รวมถึงประเทศไทยเป็นตลาดสำคัญในภูมิภาคนี้ที่มุ่งทำตลาดอย่างหนักในช่วง 6 ปีนับจากนี้ไป 

อีกทั้งวางแผนเร่งยกระดับโชว์รูมทั้งหมดที่มีอยู่ “Häfele Design Studio” ได้แก่ กรุงเทพฯ พัทยา ภูเก็ต เชียงใหม่ และหัวหิน โดยปรับมุ่งนำเสนอสินค้าและสร้างประสบการณ์แก่ลูกค้าไปสู่ “Häfele Experience Center” ผสมด้วยบริการจากผู้เชี่ยวชาญ ร่วมออกแบบโซลูชั่นสอดรับกับความยั่งยืนให้แก่ลูกค้า เนื่องจากตลาดต้องการบริการออกแบบเพื่อความยั่งยืนเพิ่มขึ้น 

“บริษัทแม่ในเยอรมันมีการลงทุนด้านพัฒนาผลิตภัณฑ์แลนวัตกรรมมาตลอด  โดยมีโรงงาน 5 แห่งทั้งในเยอรมันและในยุโรป ซึ่งบริษัทแม่ให้น้ำหนักตลาดในภูมิภาคเอเชียในการรุกทำตลาดเนื่องจากมีการขยายตัวดี แตกต่างจากตลาดในยุโรปที่ยังไม่ค่อยฟื้นตัว”

ทั้งนี้ประเมินว่า จากการตลาดในประเทศไทยและการขยายสินค้าใหม่ มุ่งการเสริมบริการให้ครอบคลุม จะร่วมผลักดันให้ยอดขายรวมของบริษัทใน 6 กลุ่มสินค้าหลัก สามารถก้าวสู่ผู้นำตลาดได้ภายใน 6 ปีนับจากนี้ หรือภายในปี 2573 จากปัจจุบันเป็นผู้นำตลาดกลุ่มอาร์ดแวร์ที่เป็นประตูดิจิทัล พร้อมทำให้ในปี 2573 สามารถสร้างยอดขายรวมของบริษัทถึงระดับ 1 หมื่นล้านบาท

“แผนของไทยใน 6 ปี ต้องการเห็นผลิตภัณฑ์ของ เฮเฟเล่ เข้าไปอยู่ในทุกห้องของคนไทย พร้อมผลักดันใน 6 กลุ่มสินค้าก้าวสู่ผู้นำตลาดทั้งหมด ผ่านการนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ และสินค้าที่มีนวัตกรรม ร่วมสร้างประสบการณ์ให้แก่ลูกค้า” 

เสาวนีย์ เสริมศุภกรวงศ์ รองผู้อำนวยการฝ่ายขาย บริษัท เฮเฟเล่ (ประเทศไทย) จำกัด เสริมว่า ภาพรวมตลาดสินค้าเฟอร์นิเจอร์และเครื่องใช้ไฟฟ้า รวมถึงตลาดสำนักงานในปี 2567 อยู่ในภาวะชะลอตัวจากตลาดอสังหาริมทรัพย์ และ สถานการณ์น้ำท่วมครั้งใหญ่ในหลายพื้นที่ของประเทศไทย โดยบริษัทมุ่งปรับแผนธุรกิจให้รับมือกับตลาดที่เปลี่ยนแปลงไป ทั้งมุ่งกลยุทธ์ขยายสินค้าให้ครอบคลุมตลาดระดับพรีเมี่ยม และลักชัวรี เพิ่มมากขึ้น 

พร้อมสนใจขยายตลาดใหม่ๆ ที่มีศักยภาพอย่าง เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ และกลุ่มลูกค้าโรงแรม มุ่งเจาะกลุ่มกลางและบนมากขึ้น รวมถึงการทำงานกับกลุ่มลูกค้าหลากกลุ่มทั้งสถาปนิก นักออกแบบ นักพัฒนา เจ้าของโครงการ ผู้รับเหมา ตลาดค้าปลีก อีคอมเมิร์ซ และเจ้าของบ้าน 

ทั้งนี้ประเมินว่า จากแรงเร่งขยายตลาดจะผลักดันยอดขายในปี 2568 จะกลับมาขยายตัวได้ดีต่อเนื่อง จากในปี 2567 ขยายตัวประมาณ 5% หรือปิดยอดขายได้ประมาณกว่า 5,000 ล้านบาท

สำหรับกลุ่มสินค้าหลักได้แก่ เครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือน สุขภัณฑ์และอุปกรณ์ในห้องน้ำ ประตูล็อคดิจิทัล ระบบไฟส่องสว่าง เฟอร์นิเจอร์ และบริการให้คำปรึกษาต่างๆ โดยกลุ่มลูกค้า แบ่งเป็น ภาคธุรกิจ (B2B) สัดส่วน 70% และผู้บริโภคทั่วไปประมาณ (B2C) ประมาณ 30% 

อย่างไรก็ตาม ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา บริษัทมีฐานลูกค้าในไทยประมาณ 1 หมื่นคน และมีพนักงานกว่า 1,400 คน