ชาวบ้านดีใจรับเงิน 10,000 บาทวันแรก! ต่างจังหวัดคึกคัก ถอนเงินสดติดมือ
พลันที่ประชาชนกลุ่มเปราะบางและคนพิการที่ได้รับเงิน 10,000 บาท จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ ทำให้เห็นความคึกคักในการไปเบิกถอนเงินสดที่ธนาคาร นอกเหนือจากกลุ่มที่รับเงินผ่านพร้อมเพย์
“เงิน 10,000 บาท” สำหรับแต่ละคนมีคุณค่าและความหมายที่แตกต่างกันไป ตามฐานะ ความจำเป็นของชีวิต
วันที่ 25 กันยายน 2567 เป็นวันแรกที่ประชาชนกลุ่มเปราะบาง ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และคนพิการจะได้รับเงิน 10,000 บาท ไปจับจ่ายใช้สอยโดยไม่มีเงื่อนไข
กรุงเทพธุรกิจ สำรวจพื้นที่ห่างไกล ในอำเภอขุนหาญ จังหวัดศรีสะเกษ พบว่าประชาชนตื่นเต้นอย่างมากที่จะได้รับเงิน 10,000 บาท โดยกลุ่มที่ต้องเบิกถอนเงินสดจากธนาคาร ไปรอกดเงินผ่านตู้เอทีเอ็มตั้งแต่เช้ามืด ตี 5 บ้าง 6 โมงเช้าบ้าง และยังทยอยกันไปกดเงินจนถึงเวลาประมาณบ่าย 3 ผู้คนจึงบางตาลง เนื่องจากใกล้เวลาที่ธนาคารจะปิดทำการ
ทั้งนี้ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธกส.) ได้มีการจัดพื้นที่ให้กับประชาชนที่ไปรอคิวกดเงิน พร้อมกับติดประกาศให้ทราบว่า.. “ผู้ที่ต้องการถอนเงิน ไม่ต้องรับบัตรคิว สำหรับลูกค้าสิทธิโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจปี 2567 ผ่านผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและคนพิการ”
จากการสอบถามประชาชนที่ไป ธกส.ได้รับคำตอบตรงกันว่า มาถอนเงินสดจากโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ปี 2567 ของภาครัฐ เมื่อถามว่าเงินที่ได้ จะนำไปใช้จ่ายอะไรบ้าง แต่ได้รับการปฏิเสธจะให้รายละเอียด
ขณะที่เพจกีฬาแบดมินตันอย่าง “บ้าแบด”(Badminton Blah Blah) มีการสอบถามลูกเพจที่ได้รับเงิน 10,000 บาทจากโครงการดังกล่าว จะนำไปใช้จ่ายอย่างไร มีความเห็นที่หลากหลาย แน่นอนว่า ซื้อไม้แบดต้องมา
อื่นๆ คือนำไปจ่ายค่าเทอมลูก จ่ายหนี้ก่อนเลย ใช้หนี้บัตรเครดิต หนี้รออยู่ เรื่องกินในครอบครัว ไปกินกาแฟนอกบ้าน ทำบุญ ไปมาเก๊า หรือคอมเมนต์สนุกสนาน “อิชั้นอยากโอนไปให้น้องวิวค่า” (กุลวุฒิ นักแบดมินตันชายเดี่ยวไทยผู้คว้าเหรียญเงินโอลิมปิกสร้างประวัติศาตร์ให้วงการแบดมินตันไทย)
นอกจากนี้ ยังมีความเห็น “รัฐบอกแล้ว อีก 30 ล้านคนที่ลงทะเบียนรอปีหน้า ไม่รู้จะได้หรือเปล่า ระบบบล็อกเชนยังไม่เสร็จ จะจ่ายเข้าเป๋าตังค์ก็กลัวเสียฟอร์ม เป็นต้น
ก่อนหน้านี้ กรุงเทพธุรกิจได้คุยกับผู้บริหารบิ๊กคอร์ปหลายราย ทั้งบริษัท สหพัฒนพิบูล จำกัด(มหาชน) บริษัท เบอร์ลี่ยุคเกอร์ จำกัด(มหาชน) หรือบีเจซี บิ๊กซี ต่างเห็นพ้องว่าเงิน 10,000 บาทจะช่วยปลุกมู้ดการจับจ่ายใช้สอยให้ดีขึ้น เพราะที่ผ่านมา “ปัญหากำลังซื้อผู้บริโภคภายในประเทศชะลอตัว” เป็นโจทย์ใหญ่ที่ภาคธุรกิจกังวลมากกว่าปัจจัยภายนอกประเทศ ทั้งเศรษฐกิจชะลอตัว ค่าเงินที่ผันผวน ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์
ขณะเดียวกันเอกชน ยังต้องการให้คนไทยกลุ่มเปราะบางและคนพิการที่ได้รับเงิน 10,000 บาท นำไปซื้อสินค้าไทย ช่วยสนับสนุนเอสเอ็มอี ร้านโชห่วย ธุรกิจของคนตัวเล็ก เพื่อให้เงินสะพัด ผันเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจและหมุนเวียนในประเทศเป็นสำคัญ
เครดิตเนื้อหาและข้อมูลรูปภาพบางส่วนโดย คนบ้านนอก
