จับตา ‘ยิบอินซอย’ หนึ่งในตัวเต็ง ‘โรบินฮู้ด’ ลุ้นทิศทางธุรกิจ 26 ก.ย.67

หลังแพลตฟอร์มฟู้ดเดลิเวอรี่ “โรบินฮู้ด”(Robinhood) ประกาศยุติการให้บริการ เดิมจะมีผล 31 กรกฎาคม 2567 ทว่า ผ่านไปไม่นานต้องกลับลำ เพราะมี “ทุนใหม่” ที่เป็น “ทุนใหญ่” สนใจทาบทาม เจรจาทั้งเพื่อ “ล้วง” หวังล่วงรู้ฐานข้อมูลของธุรกิจมีศักยภาพไปต่อแค่ไหน และมีที่สนใจไปต่อยอดธุรกิจจริงๆ

โดยรายนามของบิ๊กคอร์ปที่ปรากฏไปก่อนหน้านี้ มีทั้งยักษ์ใหญ่เครื่องดื่มและอาหารอย่าง “ไทยเบฟเวอเรจ” ทว่า แหล่งข่าวในวงการชี้เป้าเป็นรายที่ยังไม่ใช่ตัวจริงที่ได้ดีลโรบินฮู้ดไปครอง

เมื่อเร็วๆนี้ “ฐานเศรษฐกิจ” ได้เผยนามใหม่ของทุนที่เข้ามาคว้า “โรบินฮู้ด” ไปครอง คือ “ยิบอินซอย” หนึ่งในบริษัทที่มีธุรกิจหลากหลายและเติบโตมายาวนาน 94 ปี

จับตา “ยิบอินซอย” ตัวเต็ง!? 

กรุงเทพธุรกิจ ได้สอบถามแหล่งข่าววงใน ถึงรายชื่อ “ยิบอินซอย” คือหนึ่งในที่ผู้ที่จะคว้าดีล “โรบินฮู้ด” ไปครองใช่หรือไม่ โดยขอให้เพียงพยักหน้ายืนยันเท่านั้น

ก่อนได้รับคำตอบ รอยยิ้มกว้างนำมาก่อน ตามด้วยการพยักหน้า และสำทับด้วยประโยค “ชื่อที่ออกมาไม่ผิดหรอก”

บทสนทนาเกิดขึ้นต่อเกี่ยวกับดีลโรบินฮู้ด พบว่ามีนักลงทุน หรือบรรดาทุนใหญ่หลายรายสนใจและเข้ามาพูดคุยกันจริง แต่เมื่อมีผู้คว้าดีลไปต่อยอดธุรกิจแล้ว ขอให้ติดตามต่อ ซึ่งรายละเอียดจะประกาศในสัปดาห์หน้า “วันที่ 26 กันยายน 2567” นี่คือสิ่งที่แหล่งข่าวให้ข้อมูล

เทคโนโลยี “รากฐาน” ยิบอินซอย

เมื่อชื่อของ “ยิบอินซอย” อยู่ในสปอร์ตไลท์อีกครั้ง ทำให้เกิดข้อสงสัยว่าทำไมจึงสนใจแพลตฟอร์มฟู้ดเดลิเวอรี่ไปเสริมพอร์ตโฟลิโอ ซึ่งแหล่งข่าวบอกเพียงว่าให้อดใจรอ

สำหรับ “ยิบอินซอย” องค์กร 94 ปีที่มีผู้ก่อตั้งชื่อ “ยิบอินซอย” และกลายเป็นตระกูลนักธุรกิจชั้นนำของเมืองไทย โดยอาณาจักรธุรกิจถูกขับเคลื่อนผ่าน 3 เจนเนอเรชั่นแล้ว

ส่วนกลุ่มธุรกิจมีหลากหลาย ทั้งธุรกิจเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร, สินค้าอุปโภคบริโภค , การเงิน อุตสาหกรรม อสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง, เทคโนโลยี และบริการ ฯ ยิ่งเจาะข้อมูลย่อยของแต่ละกลุ่มจะเห็นภาพของการนำแพลตฟอร์มฟู้ดเดลิเวอรี่ได้ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มบริการ โลสิสติกส์ ที่สามารถมุ่งสู่การขนส่งถึงมือผู้บริโภคหรือ Last mile ต่อไป

เจาะโปรดักท์และโซลูชันของบริษัทล้วนเป็น “เทคโนโลยี” ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นการยกระดับโครงสร้างพื้นฐานด้านไอทีของธุรกิจ ผสานรวมระบบ Cloud ต่างๆ มีบริการปรับธุรกิจสู่ “Digital Business” ช่วยเดินหน้ากลยุทธ์ทรานส์ฟอร์มสู่ดิจิทัล เป็นต้น

ยิ่งย้อนยุค “ยิบอินซอย” เข้าสู่ธุรกิจด้านเทคโนโลยี แทบจะตั้งแต่ยุคแรกๆ ซึ่งตามข้อมูลระบุปี 2497 ด้วยการเริ่มเป็นตัวแทนจำหน่ายเครื่องบวกเลขแบบจักร ที่เป็นอุปกรร์เครื่องใช้สำนักงานระดับสูง มีความทันสมุยในยุคนั้น “ทายาท” ก็มีการศึกษาที่ดีและขับเคลื่อนธุรกิจเทคโนโลยี สร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆให้วงการ อย่างปี 2506 “ธวัช ยิบอินซอย” เข้ามาสานต่อธุรกิจ เริ่มการวิจัยและพัฒนาให้เครื่องคอมพิวเตอร์เบอร์โร่วส์ สามารถพิมพ์ภาษาไทย อันเป็นความท้าทายและทำได้ยากในยุคนั้น ปี 2540 ทายาทและผู้บริหารรุ่น 3 “มรกต ยิบอินซอย-สุภัค ลายเลิส” คีย์แมนสำคัญร่วมปรับกลยุทธ์และสร้างความเปลี่ยนแปลงใหญ่ให้องค์กร นำเทคโนโลยีประสิทธิภาพสูงมาสร้างตลาด ให้บริการลูกค้าทั้งกลุ่มภาครัฐ รัฐวิสาหกกิจ สถาบันการเงินการธนาคาร และลูกค้าอื่นๆ

จะเห็นว่า “รากฐาน” ของยิบอินซอยล้วนเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีทั้งสิ้น

อย่างไรก็ตาม เฉพาะบริษัท ยิบอินซอย จำกัด ปี 2566 มีรายได้กว่า 5,900 ล้านบาท และกำไรสุทธิกว่า 129 ล้านบาท 

จับตาค่า GP “โรบินฮู้ด” ก้าวต่อไป

ภายใต้ชายคาหลังใหม่ หาก “โรบินฮู้ด” ยังคงการเป็นแพลตฟอร์มฟู้ดเดลิเวอรี่ ส่งอาหารเหมือนเดิม บรรดาร้านค้า “คนตัวเล็ก” ซึ่งพึ่งพาอาศัยทำมาหากินอาจกังวลเรื่องการเก็บค่า GP โดยแหล่งข่าววงการธุรกิจร้านอาหารระบุว่า ขณะนี้ร้านได้รับข้อความจากโรบินฮู้ด เรื่องการมีพันธมิตรใหม่และจะมีการปรับค่า GP ด้วย ทำให้ร้านค้าเริ่มบ่นว่า “ถ้าปรับขึ้น คงไม่ไปต่อแล้ว”

“โรบินฮู้ด” อยู่ภายใต้ยานแม่ “เอสซีบี เอกซ์” และอยู่ใน กลุ่มธุรกิจ Gen3 ที่ประกอบด้วยแพลตฟอร์มและสินทรัพย์ดิจิทัล ซึ่งปี 2566 สัดส่วนรายได้นี้มีเพียง 3% โดยธุรกิจหลัก Gen1 ธุรกิจธนาคารรายได้ 81% และ Gen2 ธุรกิจบริการทางการเงินเพื่อผู้บริโภคและดิจิทัล

ทั้งนี้ เอสซีบี เอกซ์ รายงานงบการเงินรวมไตรมาส 2 ที่ผ่านมา กำไรสุทธิอยู่ที่ 10,014 ล้านบาท ลดลง 15.6% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ส่วนใหญ่เป็นผลมาจากค่าใช้จ่ายครั้งเดียวจากการยุติการให้บริการแอปพลิเคชัน Robinhood

อย่างไรก็ตาม ก่อนที่จะเห็นทิศทางของ Robinhood ในบ้านใหม่ สำหรับบ้านเดิมยานแม่เอสซีบี เอกซ์ วันนี้(18 ก.ย.67) ราคาหุ้นปิดที่ 112.50 บาท ปิดบวก 0.45%