ททท. ชง ‘สรวงศ์’ หนุนแผนท่องเที่ยวไฮซีซัน ชูซอฟต์พาวเวอร์ ‘มหกรรมเสน่ห์ไทย’
'สรวงศ์ เทียนทอง' รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาคนใหม่ นับเป็นเจ้ากระทรวงการท่องเที่ยวฯ คนที่ 3 ในรอบ 1 ปีเต็มนับตั้งแต่ 'รัฐบาลเพื่อไทย' เข้าบริหารประเทศ โดยเตรียมเข้าปฏิบัติหน้าที่ ที่กระทรวงฯ วันแรก 16 ก.ย.2567
ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า เบื้องต้นได้พูดคุยกับทาง สรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวฯ แล้ว ซึ่งให้คำมั่นว่าจะทำงานเต็มที่ทั้งเรื่องการท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมสนับสนุนทุกนโยบาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการจัดกิจกรรมส่งเสริมตลาดเพื่อสร้างแรงส่งหรือ “โมเมนตัม” ของภาคการท่องเที่ยวไทย
“นับเป็นเรื่องดีที่ 10 วาระเร่งด่วน ตามที่นายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร เตรียมแถลงนโยบายต่อรัฐสภา มีเรื่องเร่งส่งเสริมการท่องเที่ยวเป็นหนึ่งในแกนหลักเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยด้วย โดยเฉพาะรูปแบบใหม่ๆ เช่น เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ การจัดอีเวนต์ระดับนานาชาติ และการท่องเที่ยวเชิงกีฬาเพื่อดึงนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และต่างชาติ”
โดยในวันที่ 16 ก.ย.67 ททท.เตรียมเข้าพบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวฯ เพื่อรับฟังนโยบาย พร้อมเสนอแผนขับเคลื่อนภาคการท่องเที่ยวช่วงไฮซีซัน เช่น “ไทยแลนด์ วินเทอร์ เฟสติวัล” (Thailand Winter Festival) ไฮไลต์คือ เทศกาลลอยกระทง และเทศกาลเคาต์ดาวน์ 2568 ซึ่ง ททท. เตรียมจัดอย่างยิ่งใหญ่ใน 2 พื้นที่หลัก ได้แก่ กรุงเทพฯ และเชียงใหม่ เพื่อกระตุ้นบรรยากาศการเดินทางช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่
รวมถึงอีเวนต์งานไหว้พระจันทร์ เฉลิมฉลอง “ความสัมพันธ์ไทย-จีน” วันที่ 17 ก.ย.67 มีศิลปินชาวจีนชื่อดัง “หลัว อวิ๋นซี” มาร่วมงาน ถือเป็นหนึ่งในกิจกรรมส่งเสริมตลาดภายใต้โครงการ “หนีห่าว มันธ์” (Nihao Month) ตลอดเดือนก.ย.- ต.ค. ซึ่งมีโกลเด้นวีคหยุดยาววันชาติจีน (1 ต.ค.67) เป็นช่วงที่นักท่องเที่ยวจีนนิยมเดินทางออกนอกประเทศ นอกจากนี้ยังเตรียมกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงกีฬา การท่องเที่ยวสายศรัทธา และอื่นๆ ด้วย
ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์
“ททท. พยายามถึงขีดสุดที่จะขับเคลื่อนรายได้รวมการท่องเที่ยวไปให้ถึงเป้าหมาย 3 ล้านล้านบาท ตามเป้าของ ททท.ในกรณีดีที่สุด แบ่งเป็นรายได้จากตลาดต่างประเทศ 2 ล้านล้านบาท และตลาดในประเทศอีก 1 ล้านล้านบาท ท่ามกลางความท้าทายจากภาวะเศรษฐกิจ ส่วนจำนวนนักท่องเที่ยว ประเมินว่าจะไปถึงเป้าหมายมีนักท่องเที่ยวต่างชาติไม่น้อยกว่า 36.7 ล้านคน ส่วนไทยเที่ยวไทย แม้ว่าเหตุอุทกภัยในพื้นที่ภาคเหนือจะกระทบกำลังซื้อไปบ้าง แต่คาดว่าจะแตะยอด 200 ล้านคน-ครั้งได้ ด้วยการเร่งกระตุ้นเพิ่มความถี่การเดินทาง”
ด้านรายงานข่าวจากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ระบุว่า จาก “สถิตินักท่องเที่ยวต่างชาติ” เดินทางเข้าประเทศไทย สะสมตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. - 8 ก.ย.2567 มีจำนวน 24,174,056 คน สร้างรายได้จากการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติแล้วประมาณ 1,135,748 ล้านบาท โดยจำนวนนักท่องเที่ยวสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ จีน 4,895,707 คน มาเลเซีย 3,364,847 คน อินเดีย 1,403,169 คน เกาหลีใต้ 1,279,415 คน และรัสเซีย 1,100,970 คน
ฐาปนีย์ เล่าเพิ่มเติมว่า ททท.พร้อมเดินหน้ายกระดับ และพัฒนาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย ด้วยการนำเสนอ “เสน่ห์ไทย” (Soft Power) ที่เป็นทั้งจุดแข็ง และจุดขายของประเทศ เพื่อเป็นเครื่องมือสำคัญในการจูงใจให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวมากขึ้น ผ่านการนำต้นทุนทางวัฒนธรรมที่มีอยู่ในแต่ละท้องถิ่นมาต่อยอดด้วยนวัตกรรมเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ ในรูปแบบของบิ๊กอีเวนต์ “มหกรรมเสน่ห์ไทย 5 ภูมิภาค” ที่ ททท. ยกทัพเสน่ห์ไทยอันมีเอกลักษณ์จาก 5 ภูมิภาคทั่วประเทศไทยมารวมไว้ในแต่ละพื้นที่การจัดงาน ตลอดเดือนก.ย.นี้
ในแต่ละพื้นที่จะนำเสนอเทศกาลดนตรี แสง สี เสียง อาหาร ศิลปะ และวัฒนธรรมถิ่น พร้อมด้วยสินค้าบริการ และกิจกรรมทางการท่องเที่ยว ผ่านแนวคิด “5 Must Do in Thailand” เพื่อส่งมอบประสบการณ์ให้แก่นักท่องเที่ยวได้ลองสัมผัส การจัดกิจกรรมดังกล่าวจะพัฒนาเสน่ห์ไทยให้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย สร้างบรรยากาศการเดินทางท่องเที่ยวให้คึกคัก
“ททท. คาดว่าจะกระตุ้นให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวชาวไทย และชาวต่างชาติในพื้นที่จัดงานไม่น้อยกว่า 147,000 คน และสร้างรายได้หมุนเวียนทางการท่องเที่ยวกว่า 800 ล้านบาท”
สำหรับกำหนดจัดงานใน 5 พื้นที่ ได้แก่ ภาคใต้ “Charming Khanom” จ.นครศรีธรรมราช วันที่ 14-15 และ 20-22 ก.ย.67 เวลา 16.00-22.30 น. ณ บริเวณหาดหน้าด่าน อ.ขนอม นอกจากคอนเสิร์ตแล้ว ยังมีการแสดงทางวัฒนธรรม รำมโนราห์ นาฏศิลป์ไทยร่วมสมัย และหนังตะลุง
ภาคเหนือ “HOP Chiang Mai Art and Music Festival” จ.เชียงใหม่ วันที่ 20-29 ก.ย.67 เวลา 16.00-22.00 น. ณ ลานประตูท่าแพ รังสรรค์งานในบรรยากาศ Music Hopping “Harmony & Art Performance” โดยกระจายตามจุดท่องเที่ยวสำคัญทั่วเมืองเชียงใหม่ ได้แก่ เวที Main Stage ลานประตูท่าแพ เวที Classic Stage ลานอนุสาวรีย์สามกษัตริย์ และเวที Hopping Stage จำนวน 3 จุด ได้แก่ หน้าห้างสรรพสินค้า MAYA วันที่ 20-22 ก.ย.67 ส่วนลาน More Space วันที่ 23-26 ก.ย.67 และลานข้างโรงแรมดุสิต ดีทู เชียงใหม่ ไนท์บาซาร์ วันที่ 27-29 ก.ย.67
ภาคตะวันออก “Chonburi International Music Festival in the Rain @Pattaya” จ.ชลบุรี วันที่ 20-22 ก.ย.67 และวันที่ 27-29 ก.ย.67 เวลา 17.00-23.00 น. ณ ชายหาดพัทยากลาง นำเสนอเทศกาลดนตรี 3 เวที 3 แนวเพลง ทั้ง Colorful Burapha Stage, Chonburi Jazz & Chill Stage, Pattaya Dance Stage บนพื้นที่ชายหาดสุดยิ่งใหญ่
ภาคกลาง “The River of Time สายน้ำแห่งกาญจน์เวลา” จ.กาญจนบุรี วันที่ 22-30 ก.ย.67 เวลา 16.00-23.00 น. ณ โรงงานกระดาษไทย หนึ่งในไฮไลต์คือ การแสดงแสงเสียง 3D Mapping บอกเล่าเรื่องราววิถีชีวิตผ่านสายน้ำ พานักท่องเที่ยวนั่งรถท้องถิ่นเยี่ยมชมแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ และธรรมชาติฟรีวันละ 300 คน และ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ “เสน่ห์อีสานม่วนซื่น ณ ขอนแก่น” จ.ขอนแก่น วันที่ 25-29 ก.ย.67 เวลา 14.00-24.00 น. ณ ลาน บขส.3 ไฮไลต์คือ การแสดงของคณะหมอลำชื่อดังมากมาย
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์