เสริมศักดิ์ ดันควิกวินท่องเที่ยว ผนึก 9 แพลตฟอร์มอัดโปรฯ จัดมหกรรมเสน่ห์ไทย

วานนี้ (6 ส.ค.) 'คณะรัฐมนตรี' อนุมัติการจัดสรรงบกลาง เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวระยะเร่งด่วน (Quick Win) ให้แก่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยรวมถึง 2 โครงการของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ในช่วงโลว์ซีซัน วงเงินงบประมาณจำนวน 433 ล้านบาท
เสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวฯ เปิดเผยถึงเป้าหมายของทั้ง 2 โครงการว่า “การกระตุ้นการท่องเที่ยวระยะเร่งด่วนนี้ จะช่วยสร้างเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจโดยรวมไม่ต่ำกว่า 17,000 ล้านบาท”
สำหรับโครงการการทำตลาดการท่องเที่ยวไทยผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ในการเสนอขายสินค้าและบริการท่องเที่ยวไทย ทาง ททท. เตรียมจับมือกับ “9 ผู้ประกอบการบริษัทท่องเที่ยวออนไลน์” (Online Travel Agency: OTA) ได้แก่ Agoda, Meituan, MakeMyTrip, Traveloka, Ascend Travel, Trip, TripAdvisor, Klook และ Tagthai จัดโปรโมชันส่งเสริมการขายร่วมกัน (Joint Promotion) ด้วยการเสนอโค้ดส่วนลดสำหรับการซื้อสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวไทยผ่านแพลตฟอร์มในช่วงโลว์ซีซันเดือน ส.ค. - ก.ย. 2567
โครงการนี้จะช่วยเพิ่มอัตราการเข้าพักและอัตราการจองห้องพักล่วงหน้าในประเทศไทย ส่งผลต่อการเพิ่มการใช้จ่ายต่อการเดินทาง หรือการเพิ่มจำนวนวันเข้าพักของนักท่องเที่ยวที่ร่วมโครงการ กระตุ้นการเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยของนักท่องเที่ยวต่างชาติซึ่งจะส่งผลทำให้อัตราส่วนการขนส่งผู้โดยสารของสายการบิน (Load Factor) เพิ่มขึ้น คาดว่าจะสร้างยอดขายไม่ต่ำกว่า 2,800 ล้านบาท และสร้างการรับรู้จำนวน 500 ล้านคน-ครั้ง
อีกโครงการ คือ โครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวกลุ่มจังหวัดด้วยการจัดกิจกรรมบนอัตลักษณ์ถิ่น “มหกรรมเสน่ห์ไทย” นำเสนออัตลักษณ์ถิ่น 5 จังหวัดใน 5 ภูมิภาค เพื่อสร้างแรงจูงใจให้เกิดการเดินทางของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติไปยังภูมิภาคต่างๆ ทั่วประเทศ นำไปสู่การขยายวันพักและเพิ่มค่าใช้จ่ายทางการท่องเที่ยว สร้างรายได้ให้กับชุมชนท้องถิ่นทั่วประเทศ
การใช้กลยุทธ์จัด “อีเวนต์” ส่งเสริมการตลาด (Event Marketing) จะครอบคลุมทั้งด้านดนตรี กีฬา ศิลปะ และวัฒนธรรมของประเทศไทยหลากหลายรูปแบบนำเสนอผ่านนวัตกรรมความสร้างสรรค์ใน 5 ภูมิภาคทั่วประเทศ พร้อมมอบสิทธิพิเศษในการเดินทางท่องเที่ยวรูปแบบต่างๆ อาทิ ส่วนลด ของที่ระลึก และอื่นๆ เพื่อกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวในเดือน ก.ย. 2567 คาดว่าจะสร้างรายได้ทางการท่องเที่ยวรวมทั้ง 5 พื้นที่ ไม่ต่ำกว่า 750 ล้านบาท
สำหรับอีเวนต์ใน 5 ภูมิภาค ประกอบด้วย
1.งานเชียงใหม่ อาร์ต แอนด์ มิวสิก เฟสติวัล (Chiangmai Art and Music Festival) จ.เชียงใหม่ จัดการแสดงดนตรี Unplug Jazz Symphony Orchestra การแสดงเต้นประกอบดนตรี และอื่นๆ โดยศิลปินท้องถิ่นและศิลปินที่มีชื่อเสียง กระจายตามจุดต่างๆ ทั่วเมืองเชียงใหม่ อาทิ ประตูท่าแพ อนุสาวรีย์สามกษัตริย์ วันนิมมาน ตลอดจนประดับตกแต่งซุ้มไฟบนถนนในเมืองเชียงใหม่ และการติดตั้งงานศิลปะเฉพาะจุด (Art Installation) ภายใต้บรรยากาศ “Harmony & Art Performance”
2.งานเสน่ห์เมืองนคร : Khanom Mindfulness Territory จ.นครศรีธรรมราช จัดการแสดงดนตรีของศิลปินที่มีชื่อเสียง ร่วมกับการแสดงทางวัฒนธรรม อาทิ การแสดงมโนราห์ การแสดงโขนรามเกียรติ์ รวมถึงกิจกรรม Mindfulness Art & Craft
3.กิจกรรมมหกรรมสายน้ำแห่งกาญจน์เวลา (The River of Time) จ.กาญจนบุรี จัดกิจกรรมตลาดย้อนยุค การแสดงแสงสีเสียง การแสดงทางวัฒนธรรมและดนตรี
4.งานเสน่ห์อีสานม่วนซื่น ณ ขอนแก่น ใน จ.ขอนแก่น จัดกิจกรรมการแสดงดนตรี วัฒนธรรม ศิลปินหมอลำ นักร้องที่มีชื่อเสียง
5.เทศกาลดนตรี Chonburi International Music Festival in the Rain จ.ชลบุรี ร่วมด้วยศิลปินนักร้องเพลงป๊อป ร็อก อาร์แอนด์บี ที่มีชื่อเสียง และการออกร้านอาหารทะเลแบบพรีเมียม (Premium Seafood) ณ บริเวณชายหาดพัทยา
“ทั้งสองโครงการของ ททท. ด้วยวงเงินงบประมาณ 433 ล้านบาท นำไปจัดโปรโมชันส่งเสริมการขายร่วมกับ 9 แพลตฟอร์มออนไลน์ชื่อดัง และจัดงานมหกรรมเสน่ห์ไทยนำเสนออัตลักษณ์ถิ่น 5 จังหวัดใน 5 ภูมิภาค จะช่วยส่งเสริมการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว ตลอดจนกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศ”
เสริมศักดิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับสถานการณ์ “นักท่องเที่ยวต่างชาติ” เดินทางเข้าประเทศไทยล่าสุด สะสมตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. - 4 ส.ค. 2567 มีจำนวน 21,045,344 คน สร้างรายได้จากการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติแล้วประมาณ 990,835 ล้านบาท โดยประเทศที่มีจำนวนนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าไทยสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ จีน 4,229,268 คน มาเลเซีย 2,925,755 คน อินเดีย 1,218,453 คน เกาหลีใต้ 1,117,576 คน และรัสเซีย 1,015,762 คน