‘เยนอ่อน’ ดัน ‘ไทยเที่ยวญี่ปุ่น’ 6 เดือนทะลัก 6.2 แสน วีซ่าฟรีหนุน ‘จีน’ มาแรง!
สถิตินักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้า 'ญี่ปุ่น' ช่วง 6 เดือนแรกของปี 2567 ตามรายงานองค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวแห่งประเทศญี่ปุ่น (JNTO) ระบุว่ามี 'นักท่องเที่ยวไทย' 618,300 คน เติบโต 24% เทียบช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว และฟื้นตัว 90% เทียบช่วงเดียวกันของปี 2562 ก่อนโควิด
JNTO ระบุด้วยว่า จำนวนนักท่องเที่ยวไทยยังคงรั้ง “อันดับ 6” ของตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าญี่ปุ่นสูงสุดในครึ่งปีแรก ซึ่งมีจำนวนสะสมรวม 17,777,200 คน เติบโต 65.9% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว และเติบโต 6.9% แซงปี 2562 เป็นที่เรียบร้อย! โดย 5 อันดับแรกของตลาดชาวต่างชาติเที่ยวญี่ปุ่นสูงสุด ได้แก่ เกาหลีใต้ 4,442,100 คน จีน 3,068,000 คน ไต้หวัน 2,979,200 คน สหรัฐ 1,342,900 คน และฮ่องกง 1,276,100 คน
อย่างไรก็ตาม นักท่องเที่ยวไทยยังคงเดินทางเข้าญี่ปุ่นนำโด่งเป็นอันดับ 1 ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งเป็นตลาดที่มีการเดินทางเติบโตดี มีจำนวนนักท่องเที่ยวฟิลิปปินส์ 401,700 คน เวียดนาม 331,900 คน สิงคโปร์ 300,000 คน อินโดนีเซีย 263,800 คน และมาเลเซีย 241,800 คน
เมื่อดูเฉพาะเดือนมิ.ย. มีนักท่องเที่ยวไทยเดินทางเข้าญี่ปุ่นจำนวน 54,600 คน เติบโต 6.3% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว คิดเป็นการฟื้นตัว 86.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2562
สันติสุข คล่องใช้ยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบินไทยแอร์เอเชีย กล่าวว่า “ญี่ปุ่นก็แค่ปากซอย!” ยังคงเป็นเดสติเนชันที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวไทยอย่างต่อเนื่อง ด้วยปริมาณเที่ยวบินเส้นทางไทย-ญี่ปุ่น มีให้บริการจำนวนมาก ประกอบกับได้อานิสงส์ “เงินเยนอ่อนค่า” (ปัจจุบันอัตราแลกเปลี่ยนอยู่ที่ระดับ 23 บาทต่อ 100 เยน) ยิ่งหนุนให้นักท่องเที่ยวไทยเลือกไปญี่ปุ่นตลอดปีนี้
ด้านตลาดนักท่องเที่ยวไทยเดินทางเข้า “จีน” หลังได้ปัจจัยบวกจากมาตรการ “ยกเว้นวีซ่า” (Visa-Free) ไทย-จีน ระหว่างกันอย่างถาวร พำนักได้สูงสุด 30 วัน มีผลตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค.2567 เป็นต้นไป ทำให้มีคนไทยไปเที่ยวจีนมากขึ้น โดยในช่วง 6 เดือนแรกปีนี้ เฉพาะของ “ไทยแอร์เอเชีย” (รหัสเที่ยวบิน FD) ซึ่งปัจจุบันให้บริการเส้นทางบินตรงสู่จีน 12 ปลายทาง คิดเป็นปริมาณเที่ยวบิน 115 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ พบว่ามีนักท่องเที่ยวไทยเพิ่มขึ้น 30% จากปี 2562 ก่อนโควิด หรือมีประมาณ 55,000 คน คิดเป็นสัดส่วน 15% ของยอดผู้โดยสารทั้งหมดใน “เส้นทางไทย-จีน” ของไทยแอร์เอเชีย เพิ่มขึ้นจากสัดส่วน 10% ก่อนมีมาตรการวีซ่าฟรีถาวรระหว่างสองประเทศ และคาดว่าในสิ้นปีนี้จะมีสัดส่วนคนไทยบินไปเที่ยวจีนเพิ่มเป็น 20%
“พอคนไทยสามารถไปเที่ยวจีนได้สะดวกโดยไม่ต้องขอวีซ่า พบว่าเส้นทางบินที่ได้รับความนิยมจากคนไทย มีเส้นทางสู่ฉางซา เพื่อไปเยือนจางเจียเจี้ย หุบเขาอวตาร นอกจากนี้ยังมีเส้นทางสู่คุนหมิง เฉิงตู กว่างโจว รวมไปถึงเซี่ยงไฮ้ และปักกิ่ง ซึ่งมีความหลากหลายของแหล่งชอปปิงที่คนไทยชื่นชอบไม่แพ้ญี่ปุ่น สามารถไปชอปปิง อาร์ตทอยที่ร้านป๊อปมาร์ท (POP MART) ในอีกบรรยากาศ การเดินทางก็สะดวก สามารถเรียกรถรับจ้างได้ง่ายผ่านแอปพลิเคชัน”
ส่วนตลาด “นักท่องเที่ยวจีน” เดินทางเข้าไทยด้วยสายการบินไทยแอร์เอเชีย ล่าสุดช่วง 6 เดือนแรกปีนี้ฟื้นตัวกลับมา 50-60% แล้ว คิดเป็นจำนวน 450,000 คน คิดเป็นสัดส่วน 13% จากภาพรวมนักท่องเที่ยวจีนมาไทยสะสม 3.5 ล้านคนในช่วงดังกล่าว โดยประเมินว่าแนวโน้มทั้งปี 2567 จะมีนักท่องเที่ยวจีนมาไทยจริง 6-7 ล้านคน ยังต่ำกว่าเป้าหมายของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ซึ่งตั้งไว้ 8 ล้านคน เนื่องจากได้รับผลกระทบปัญหาเศรษฐกิจจีนชะลอตัว และทางการจีนเดินหน้าโปรโมตการท่องเที่ยวในประเทศอย่างต่อเนื่อง
ธรรศพลฐ์ เเบเลเว็ลด์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบินไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์ กล่าวเสริมว่า เส้นทางบินสู่ 4 เมืองหลักของญี่ปุ่น ได้แก่ โตเกียว (นาริตะ) โอซาก้า ซัปโปโร และนาโกย่า รวมถึงเส้นทางสู่โซล เกาหลีใต้ ยังคงเป็น “เส้นทางฮอตฮิต” ของไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์ (รหัสเที่ยวบิน XJ) โดยเฉพาะ “โอซาก้า” มีอัตราการขนส่งผู้โดยสาร (Load Factor) มากกว่า 90% โดยในช่วงครึ่งปีหลังเตรียมเปิดเส้นทางใหม่อีก 2-3 เส้นทาง หนึ่งในนั้นคือ “เซนได” ของญี่ปุ่น
“แม้ว่าช่วงครึ่งปีแรกจะมีกระแสคนไทยแบนเที่ยวเกาหลีในโลกโซเชียลมีเดีย ทำให้ตลาดแผ่วตัวลงไปบ้าง แต่ยอดผู้โดยสารของไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์ ไม่ได้รับผลกระทบจากเรื่องนี้”
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์